ระยอง 30 ธ.ค.- กฟผ.นำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีครั้งแรก โดยเป็นผู้นำเข้ารายที่ 2 ของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันการนำเข้า และเป็นผลดีต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าในอนาคต
เรือขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG ของปิโตรนาส แอลเอ็นจี เข้าเทียบท่าสถานีมาบตาพุดของกลุ่ม ปตท. ลำนี้ถือว่าเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ด้านพลังงานของไทย เพราะเป็นการนำเข้าโดยชิปเปอร์รายที่ 2 ของประเทศ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แม้จะมีปริมาณไม่มากนักเพียง 65,000 ตัน แต่ก็นับเป็นการนำร่องทดสอบ เพื่อให้เกิดการเตรียมพร้อมที่จะมีชิปเปอร์รายใหม่ๆ ที่ทางทฤษฎีระบุว่า การแข่งขันยิ่งสูง ยิ่งเป็นผลดี จะสะท้อนมาอยู่ในค่าไฟฟ้าของประชาชน
ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพาแหล่งก๊าซจากอ่าวไทย จากเมียนมา และแอลเอ็นจี ซึ่งเดิม ปตท.นำเข้าเพียงรายเดียว แต่เมื่อในอนาคตก๊าซในไทยและเมียนมาลดลง การพึ่งพาแอลเอ็นจีจะเพิ่มขึ้น ภาครัฐจึงส่งเสริมให้เกิดผู้นำเข้ารายอื่นๆ กำหนดนโยบายให้การแข่งขันเท่าเทียมกัน คือ เป็นราคาที่นำมาเฉลี่ยกับทุกแหล่ง หรือ pool GAS (พูลก๊าซ) ในขณะที่ ปตท.เจ้าของสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว และท่อก๊าซฯ ก็พร้อมในการให้บริการ
มูลค่าการใช้ก๊าซฯ แต่ละปีของไทยสูงมหาศาลราว 450,000 ล้านบาท/ปี จากความต้องการ 5,000 ล้านลูกบาศก์/วัน เอกชนหลายรายสนใจที่จะเป็นผู้นำเข้ารายใหม่ ในขณะที่รัฐโดย ปตท.ยังมีสัญญาผูกพันซื้อก๊าซเพื่อความมั่นคง หากเหลือใช้ก็กลายเป็นภาระของประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักที่จะกำหนดนโยบายให้ถูกใจทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม การที่ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานและมีตลาดที่ใช้ก๊าซฯ จึงประกาศว่า พร้อมจะเป็นศูนย์กลาง หรือฮับ ในภูมิภาคนี้ที่จะนำเข้าและส่งออกแอลเอ็นจีในปี 2563.-สำนักข่าวไทย