ศปถ.คุมเข้มวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ปภ.31ธ.ค.-ศปถ.คุมเข้มวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กำชับด่านตรวจ ด่านชุมชน กวดขันดื่มแล้วขับ พร้อมดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานรื่นเริง


ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562 เกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27 – 30 ธ.ค.62) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,031 คน ประสานจังหวัดปรับแผนตั้งด่านตรวจ ด่านชุมชน กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก พร้อมเพิ่มความเข้มข้นดูแลความปลอดภัย คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบ พร้อมดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.20 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.66 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.76 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 60.41 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.14 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.46 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 26.19 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.70 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,044 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,757 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 998,559 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 221,435 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 59,953 ราย ไม่มีใบขับขี่ 52,650 ราย โดยจังหวัด ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และเลย (จังหวัดละ 19 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27 – 30 ธ.ค.62) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,031 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 16 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (61 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (66 คน) 


นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่และมีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมถึงหลายพื้นที่มีการจัดงานรื่นเริง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการจังหวัดดำเนินมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยให้ปรับแผนการตั้งด่านชุมชนบนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อเข้าสู่ถนน สายหลัก เน้นการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบที่มีการจัดงานรื่นเริง (Countdown) และจุดที่มีประชาชนมารวมกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้กำชับให้ดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำหน่ายแก่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงการจำหน่ายสุราในลักษณะเร่ขาย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด่านครอบครัว ด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและเตือนให้ผู้ขับขี่ “ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง” โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาท เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

นอกจากนี้ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในปีนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ ปภ. ซึ่งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่าน กว่า 117 ด่านทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำศาลในคดีที่มีผู้ต้องถูกคุมประพฤติขึ้นศาลอยู่

อย่างไรก็ตามในปีนี้พบว่า ในปีนี้ ตั้งแต่แต่วันที่ 27-30 ธันวาคม มีผู้ต้องคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 4,856 คดี หรือร้อยละ 96.96 และพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ 63 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะต้องมีการประเมินพฤติกรรมว่าหากเข้าข่ายติดสุรารุนแรงจะต้องเข้ารับการบำบัดหรือเข้าข่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป เช่น อาจมีการนำเข้าไปชมห้องดับจิต และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลืออุบัติเหตุทางรถยนต์ 


นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า เพื่อเป็นการเน้นย้ำมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการขับเคลื่อนมาตรการทางกฎหมายควบคู่กับมาตรการทางสังคมเชิงรุกอย่างเข้มข้น เน้นการปฏิบัติการของด่านครอบครัวและด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยเป็นพิเศษ โดยกวดขันผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ให้ขับรถโดยเด็ดขาด เน้นดูแลเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและชุมชนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ให้บูรณาการการทำงานร่วมกับจิตอาสาในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ขับรถไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจร และในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกจังหวัดได้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนเฉลิมฉลองอย่างมีสติ ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว และปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2563 เป็นไปด้วยความปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง