ศปถ.คุมเข้มวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ปภ.31ธ.ค.-ศปถ.คุมเข้มวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ กำชับด่านตรวจ ด่านชุมชน กวดขันดื่มแล้วขับ พร้อมดูแลความปลอดภัยบริเวณพื้นที่จัดงานรื่นเริง


ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562 เกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27 – 30 ธ.ค.62) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,031 คน ประสานจังหวัดปรับแผนตั้งด่านตรวจ ด่านชุมชน กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก พร้อมเพิ่มความเข้มข้นดูแลความปลอดภัย คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบ พร้อมดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 485 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 48 ราย ผู้บาดเจ็บ 484 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.20 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.66 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.76 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 60.41 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.14 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 35.46 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 26.19 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.70 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,044 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,757 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 998,559 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 221,435 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 59,953 ราย ไม่มีใบขับขี่ 52,650 ราย โดยจังหวัด ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ และเลย (จังหวัดละ 19 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (27 – 30 ธ.ค.62) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,988 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 208 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 2,031 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 16 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (61 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครปฐม (66 คน) 


นายวิตถวัลย์ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่และมีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมถึงหลายพื้นที่มีการจัดงานรื่นเริง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้สั่งการจังหวัดดำเนินมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยให้ปรับแผนการตั้งด่านชุมชนบนเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อเข้าสู่ถนน สายหลัก เน้นการจัดตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ กวดขันตาม 10 มาตรการหลัก คุมเข้มบริเวณสถานบันเทิง พื้นที่จัดงาน และบริเวณเส้นทางโดยรอบที่มีการจัดงานรื่นเริง (Countdown) และจุดที่มีประชาชนมารวมกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ได้กำชับให้ดำเนินมาตรการควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจำหน่ายแก่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 20 ปี รวมถึงการจำหน่ายสุราในลักษณะเร่ขาย ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด่านครอบครัว ด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและเตือนให้ผู้ขับขี่ “ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัยและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง” โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาท เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันมอบความปลอดภัยเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน

นอกจากนี้ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ในปีนี้ กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ ปภ. ซึ่งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำด่าน กว่า 117 ด่านทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำศาลในคดีที่มีผู้ต้องถูกคุมประพฤติขึ้นศาลอยู่

อย่างไรก็ตามในปีนี้พบว่า ในปีนี้ ตั้งแต่แต่วันที่ 27-30 ธันวาคม มีผู้ต้องคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 4,856 คดี หรือร้อยละ 96.96 และพบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ 63 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจะต้องมีการประเมินพฤติกรรมว่าหากเข้าข่ายติดสุรารุนแรงจะต้องเข้ารับการบำบัดหรือเข้าข่ายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป เช่น อาจมีการนำเข้าไปชมห้องดับจิต และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลืออุบัติเหตุทางรถยนต์ 


นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า เพื่อเป็นการเน้นย้ำมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บูรณาการขับเคลื่อนมาตรการทางกฎหมายควบคู่กับมาตรการทางสังคมเชิงรุกอย่างเข้มข้น เน้นการปฏิบัติการของด่านครอบครัวและด่านชุมชน เพื่อป้องปรามและควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยเป็นพิเศษ โดยกวดขันผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ให้ขับรถโดยเด็ดขาด เน้นดูแลเส้นทางสายรอง เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและชุมชนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ให้บูรณาการการทำงานร่วมกับจิตอาสาในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนับสนุนมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ขับรถไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจร และในช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกจังหวัดได้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” จึงขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ท้ายนี้ ขอฝากเตือนประชาชนเฉลิมฉลองอย่างมีสติ ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว และปฏิบัติตามกฎจราจร เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2563 เป็นไปด้วยความปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย