7 วันไม่อันตรายเด็กต้องปลอดภัยในเทศกาลปีใหม่

ศาลายา 24 ธ.ค.-สถาบันเด็กฯ ม.มหิดล รณรงค์ 7วันไม่อันตราย เด็กต้องปลอดภัยในเทศกาลปีใหม่ หลังพบอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ทุกปี พบเด็กบาดเจ็บและเสียชีวิตร่วมด้วย ย้ำต้องจริงจังการใช้กฏหมาย 


รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะมีเด็กร่วมอยู่ด้วย โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เช่น เป็นผู้ขับหรือซ้อนรถจักรยานยนต์ การนั่งหลังรถกระบะ ดังนั้น ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีการเดินทางท่องเที่ยวกันมาก  จึงถือช่วงโอกาสนี้ให้เป็นช่วง


7 วัน ไม่อันตราย เด็กต้องปลอดภัยในเทศกาลปีใหม่ 2563  เพราะในความเป็นจริง มีข้อกฎหมายไว้พร้อม แต่กลับถูกละเลยสู่การปฏิบัติ  ทั้งครอบครัวชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่พบเห็นอยู่ประจำคือเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อนวัย ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้ขับขี่ได้เมื่ออายุ 15 ปี ขณะที่หลายหน่วยงานยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมได้เพราะครอบครัวและเด็กมีความจำเป็นต้องใช้  ยังมีการขับรถจักรยานยนต์ที่เร็ว และไม่ใส่หมวกนิรภัย เด็กซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เด็กเมา ซึ่งล้วนแต่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายทั้งนั้น ยังมีการให้เด็กนั่งท้ายรถกระบะ รวมทั้งการนั่งรถสาธารณะไม่ใช้เข็มขัดนิรภัย ซึ่งการไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยและการนั่งท้ายรถกระบะ ซึ่งไม่มีระบบยึดเหนี่ยว ไม่มีทั้งในกฎหมายและการสนับสนุนอื่นๆ แต่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่บอกว่าจำเป็น           


รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากข้อมูลปี2561 การตายของเด็กเล็กลดลงตามอายุ แต่กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่ออายุ 11-12 ปีขึ้นไปจนถึงวัยรุ่น และจากสถิติพบว่าการบาดเจ็บเป็น สาเหตุการตาย ที่เพิ่มสูงขึ้น ชัดเจนในกลุ่มเด็กอายุ 11-12 ปีขึ้นไปถึงวัยรุ่น โดยเมื่อเทียบสัดส่วนการตายด้วยการจมน้ำ ภัยทางถนน ความรุนแรงและการบาดเจ็บอื่นๆ พบว่าในเด็กเล็กการจมน้ำเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 แต่เมื่ออายุ 11-12 ปี ภัยทางถนน กลายมาเป็นสาเหตุการตายอันดับ1 ของเด็กแทน  ตามด้วยภัยความรุนแรง  หรือกล่าวได้ว่าเด็กอายุ1-17 ปี  ตายจากการบาดเจ็บ 3,756 คน ใน1 ปี หรือเฉลี่ย 10.3 คนต่อวัน ในช่วง7วันอันตรายของปีใหม่  เฉลี่ย 14 คนต่อวัน ในช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์เฉลี่ย 23 คน  และในช่วงเดือนเมษายนตายเฉลี่ย 19 คนต่อวัน 

ขณะที่สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวได้จัดพื้นที่เรียนรู้สร้างทักษะความปลอดภัยหรือเซฟตี้ฮันเตอร์(safety hunter )เชิญชวนครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และผู้สนใจ ส่งบุตรหลาน เข้ามาเรียนรู้ทักษะการ             เอาตัวรอดเพื่อความปลอดภัยของเด็ก ในระดับอนุบาล 3 –ประถมศึกษา ปีที่3ใน 3 สถานี คือ สถานีที่1The Safety Hunter ภารกิจพิชิตจุดเสี่ยง ใน พื้นที่สาธารณะและในบ้าน สถานีที่2 ปฐมพยาบาลและการกู้ชีพเบื้องต้น สถานีที่ 3 ภารกิจคิดสร้างสรรค์  และได้เพิ่มสถานที่เรียนรู้ ขยายไปใน ทุกภูมิภาค เพื่อให้ครอบคลุมสำหรับเด็กทั่วประเทศแต่ปัญหา  สำคัญที่ ผู้อำนวยการสถาบันพบคือ แม้เด็กจะเรียนรู้การปฎิบัติตัวอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ทั้งการใส่หมวกกันน็อค การขับขี่ปลอดภัย แต่เมื่อนำมาใช้กับกิจวัตรประจำวัน กลับเป็นสิ่งตรงกันข้ามนั่นหมายถึงเป็นการที่ผู้ใหญ่ละเลยสิทธิของเด็กโดยไม่รู้ตัวและเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิด การบาดเจ็บและเสียชีวิต บน  ท้องถนน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดโซน C พบผู้เสียชีวิตมากสุด

เข้าสู่วันที่ 10 ค้นหาผู้ประสบภัยในซากตึก สตง.ถล่ม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” คาดโซน C น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ด้าน “ช่างเบิร์ด” ที่ทำงานวางระบบไฟฟ้า เผยเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่

สิ้น “ผ่องศรี วรนุช” ศิลปินแห่งชาติ วัย 85 ปี

วงการบันเทิงเศร้า “ผ่องศรี วรนุช” ศิลปินแห่งชาติ ราชินีลูกทุ่งคนแรกของไทย จากไปอย่างสงบ ในวัย 85 ปี หลังป่วยมะเร็งปอดและเข้ารับการรักษามาระยะหนึ่ง

Trump signs order on new tariffs

สหรัฐเริ่มแล้วเก็บภาษี 10% สินค้านำเข้าจากทั่วโลก

วอชิงตัน 6 เม.ย.- ศุลกากรสหรัฐเริ่มมาตรการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 10 กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากทั่วโลกแล้วตั้งแต่วันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะเก็บภาษีเพิ่มกับแต่ละประเทศในสัปดาห์หน้า อัตราภาษีพื้นฐานร้อยละ 10 มีผลกับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าสหรัฐผ่านด่านทางทะเล ทางอากาศ และโกดังของศุลกากรตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันที่ 5 เมษายน 2568 ตามเขตเวลาตะวันออก ตรงกับเวลา 11.01 น.วันเดียวกันตามเวลาไทย อย่างไรก็ดี สินค้าที่ถูกลำเลียงแล้วหรืออยู่ระหว่างขนส่งเข้าสหรัฐก่อนเวลาดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผันไม่ถูกเก็บภาษีร้อยละ 10 โดยต้องมาถึงสหรัฐภายในวันที่ 27 พฤษภาคมหรือภายใน 51 วัน ส่วนภาษีที่สหรัฐจะเรียกเก็บเพิ่มจากแต่ละประเทศในอัตราที่แตกต่างกัน มีตั้งแต่ร้อยละ 11 ไปจนถึงร้อยละ 50 จะเริ่มมีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น.วันที่ 9 เมษายน 2568 ตามเขตเวลาตะวันออก ซึ่งขณะนี้ช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมงเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูร้อน โดยไทยจะถูกเรียกเก็บเพิ่มในอัตราร้อยละ 36 สำหรับสินค้าประมาณ 1,000 ประเภทที่ได้รับการยกเว้นจากมาตรการภาษีใหม่ของสหรัฐ เช่น ยา ยูเรเนียม เซมิคอนดักเตอร์ รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องอัตราภาษีใหม่ที่จะใช้กับสินค้าเหล่านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ […]

ทีมกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้เพิ่ม

วันที่ 9 ของภารกิจค้นหาผู้ติดค้างใต้ซากตึก สตง. เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ นำกำลังเข้าพื้นที่ค้นหา ล่าสุดสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้เพิ่ม