รถ ตร.ชนกันสนั่นเจ็บ 3 หน้าวัดชลประทานฯ-เก๋งชนต้นไม้ตกคลองดับ 2 เจ็บ 1

ภูมิภาค 15 ธ.ค. – รถตำรวจพุ่งชนกันสนั่นบริเวณจุดกลับรถหน้าวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรี ขณะพาผู้ต้องหาเมาแล้วขับกลับโรงพัก ส่วนที่ปทุมธานี เกิดอุบัติเหตุหลายจุด เก๋งเสียหลักชนต้นไม้ตกคลองตาย 2 เจ็บ 1 อีกจุด วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายกระบะ ดับ 1 


เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. เกิดเหตุรถชนกันบริเวณจุดกลับรถหน้าวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ถนนติวานนท์ ต.บางตลาด จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน ซันนี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน กษ 1015 นนทบุรี ถูกชนได้รับความเสียหายทั้งแถบ ภายในรถมีผู้รับบาดเจ็บติดอยู่ในห้องโดยสาร 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งใช้เครื่องตัดถ่างช่วยนำร่างผู้บาดเจ็บออกมา ทราบชื่อ ส.ต.ต.ธีระ โฉมไธสง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ปากเกร็ด คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่สะโพก อีกรายนายวัชรินทร์ เอกญาติ อายุ 31 ปี อาการสาหัส ใกล้กันพบรถคู่กรณีเป็นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน ขจ 5723 นครราชสีมา จอดอยู่ในช่องทางขวา สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มี ร.ต.อ.ปริทัศน์ วิบูลยานนท์ อายุ 41 ปี รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่เรือ คนขับ ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย นำส่ง รพ.ชลประทาน ปากเกร็ด


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ต.ธีระ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีก 9 นาย ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจค้นและตรวจวัดแอลกอฮอล์ บริเวณหน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาห้าแยกปากเกร็ด ถนนติวานนท์ ฝั่งขาออก ได้จับกุมตัวนายวัชรินทร์ ข้อหาเมาสุราขณะขับรถ หลังเลิกด่าน ส.ต.ต.ธีระ เห็นว่านายวัชรินทร์เมามาก จึงขับรถพานายวัชรินทร์นั่งคู่มาเบาะหน้า เพื่อจะไปโรงพัก ขณะที่ ส.ต.ต.ธีระ เลี้ยวกลับรถตรงจุดเกิดเหตุ ได้ตัดหน้ารถของ ร.ต.อ.ปริทัศน์ ที่ขับมาทางตรงด้วยความเร็ว มุ่งหน้าจะกลับบ้านย่านสรงประภา อย่างกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทัน จึงพุ่งชนกลางคัน จนเป็นเหตุให้รับรับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

ส่วนที่ จ.ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งรถเก๋งเสียหลักชนต้นไม้ตกลงไปคลอง และรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย


เหตุแรกที่เกิดขึ้นบริเวณถนนเลียบคลองสิบสองฝั่งตะวันตก ม.2 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรล่า ทะเบียน กค 6066 ลำปาง พลิกตะแคงข้างอยู่ในคลองภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อนายชาติชาย วิมานบรรพต อายุ 46 ปี ชาว ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ นั่งอยู่เบาะหน้ารถและอีกรายทราบชื่อนายชัยนาถ บุญมาเลิศ อายุ 26  ปี ชาว  ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ นั่งอยู่เบาะหลังของรถ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นผู้ชาย คือ นายธีรพงษ์ โตแสง อายุ 33 ปี ชาว ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา รถกู้ชีพเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์นำส่งโรงพยาบาล มศว. อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุพบต้นไม้ข้างทางถูกชนได้รับความเสียหาย 2 ต้น

จากการสอบถามนายนพดล ชื่นวิจิตร อายุ 62 ปี ญาติของผู้ประสบอุบัติเหตุทราบว่า ทั้งสามคนออกจากบ้านตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. แต่ไม่รู้ว่าไปไหน กระทั่งมีเพื่อนบ้านไปบอกว่าหลานเกิดอุบัติเหตุ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ และยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ขับ ซึ่งเหลืออีกเพียง 2.5 กม. ก็จะถึงบ้านแล้ว คาดว่าน่าจะขับมาด้วยความเร็ว 

ส่วนอีกเหตุการณ์ รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ บริเวณถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ภว-199กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหาย สภาพด้านหลังมีร่องรอยถูกรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เบลสีฟ้า ทะเบียน 6กธ 3674 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตสภาพศพนอนคว่ำหน้า ทราบชื่อนายกันตภณ บุญไตรย์ อายุ 19 ปี ชาวตำบลคลองสาม อ.คลองหลวง ส่วนคนขับรถโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ทราบชื่อนายมนตรี หุตะมาน อายุ 51ปี ยืนรอตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

นายมนตรี หุตะพาน บอกว่า ไปเล่นฟุตบอลที่สนามย่านคลอง 4 ธัญบุรี จะกลับบ้านพักตรงข้ามองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ กำลังยูเทิร์น และมีรถจักรยานยนต์วิ่งมาทางตรง ชนท้ายรถอย่างจัง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว 

พ.ต.ต.วัชรพงษ์ เทียนประถัมภ์ สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพร้อมกับแพทย์เวร จึงได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน และได้เชิญผู้ขับขี่รถยนต์กระบะไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ส่วนผู้เสียชีวิตมอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธินำศพส่งชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งและจะได้ประสานทางญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

หวิดดับ! บัสนักท่องเที่ยวชนท้ายรถพ่วง 

รถพ่วงบรรทุกไก่ พุ่งออกจากซอยกะทันหัน ทำให้รถบัสนักท่องเที่ยวจีน 27 ชีวิต เบรกไม่ทัน พุ่งชนท้ายรถบรรทุกอย่างจัง นักท่องเที่ยวบาดเจ็บ 10 คน 

ร.ต.อ.ดิเรก พิมพา รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองใหญ่ รับแจ้งจากอาสากู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึงจุดอำเภอหนองใหญ่ ว่ามีอุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชนกับรถบรรทุกไก่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ช่วงบริเวณบนถนนสาย 344 ขาเข้าอำเภอแกลง กม.58/200 ต.เขาซก อ.หนองใหญ่ จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

ที่เกิดเหตุพบรถบัส 2 ชั้น ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 33-8222 กรุงเทพฯ บรรทุกนักท่องเที่ยวจีนมา 27 คน จอดอยู่ข้างถนน บริเวณด้านหน้าข้างซ้ายรถพังยุบ กระจกแตก มีข้าวของกระจัดกระจายภายในรถ จากการตรวจสอบมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ 10 คน มีแผลถลอกฟกช้ำตามร่างกายเล็กน้อย อาสากู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทั้งหมดไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถพ่วงบรรทุกไก่มาจำนวน 4,000 ตัว มีนายเศรษฐา ปาเตี้ย เป็นคนขับ  

จากการสอบสวนนายสยามรัตน์ กลีบเมฆ คนขับรถบัสเล่าว่า รับนักท่องเที่ยวชาวจีนมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปเที่ยวอ่าวมะขามป้อม อ.แกลง จ.ระยอง พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถบรรทุกไก่ออกจากซอยกะทันหัน ทำให้หักหลบไม่ทัน หน้ารถไปชนส่วนท้ายรถพ่วง จนทำให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บดังกล่าว 

เบนซ์ขับย้อนศร ชนเก๋งดับ 

เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.ปิติพงษ์ ทองสีอ้น รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชุมชนมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนประสานงากันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 117 เส้นพิษณุโลก-นครสวรรค์ (ขาออกเมือง) หลัก กม. ที่ 123 หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรม ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์-เท่า หมายเลขทะเบียน กต 3371 พิษณุโลก สภาพด้านหน้าเสียหายพังยับเยิน 

ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตถูกอัดก๊อปปี้อยู่ที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ กู้ภัยใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดร่างออกมา ทราบชื่อคือ นายสำเริง  จันทรรักษ์ อายุ 41 ปี อยู่อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก นอกจากนี้ยังพบรถเบนซ์ คู่กรณี สภาพเสียหายยับเยิน กระจกหน้าแตก ส่วนนายอรรถรส ทองงามขำ อายุ 35 ปี คนขับได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย กู้ภัยจึงช่วยกันนำผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายสำเริง ผู้เสียชีวิต กำลังขับรถไปรับแฟนสาวที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถเบนซ์ของนายอรรถรส ขับย้อนศรมา ทำให้พุ่งชนกันอย่างจังเสียงดังสนั่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจจะสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์หรือกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียง พร้อมกับจะสอบสวนคนขับรถเบนซ์ รวมถึงตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]