นนทบุรี 15 ธ.ค. – พาณิชย์เชื่อหลังสหรัฐ – จีนบรรลุข้อตกลงและสหราชอาณาจักรประกาศผลเลือกตั้งดีต่อไทยเดินหน้าทำยอดส่งออก
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และผลเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร ว่า ขณะนี้สหรัฐและจีนยืนยันบรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก (Phase-1) เรียบร้อยแล้วคืนวันที่ 13 ธันวาคม 2562 (ตามเวลาประเทศไทย) ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม คว้าชัยชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ด้วยคะแนนเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร (UK) แม้สหรัฐและจีนยังไม่เปิดเผยเนื้อหาข้อตกลงระยะแรกอย่างเป็นทางการ ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทบทวนทางกฎหมาย และขัดเกลาถ้อยคำก่อนเข้าสู่กระบวนการลงนามต่อไป การยืนยันจากทั้ง 2 ประเทศจะช่วยให้บรรยากาศทางการค้าดีขึ้น และคลายความกังวลว่าสงครามการค้าจะไม่ลุกลามไปถึงการขึ้นภาษีนำเข้าเต็มจำนวน
ทั้งนี้ ปรากฎรายละเอียดข้อตกลงบางส่วน ได้แก่ สหรัฐเสนอว่า 1. ยกเลิกการขึ้นภาษี 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมสินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นวิดีโอเกมส์ โทรทัศน์ วิทยุ จอคอมพิวเตอร์ และสินค้าอื่นผู้บริโภคอื่น ๆ เช่น นาฬิกา ของเล่น รองเท้าและเครื่องแต่งกาย (กำหนดเดิมวันที่ 15 ธ.ค. 62) 2. ปรับลดภาษีสินค้า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเหลืออัตราร้อยละ 7.5 (จากเดิมร้อยละ 15 และบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 62) และจะยังคงภาษีร้อยละ 25 สำหรับสินค้ามูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จีนตกลงในประเด็น 1. การซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นจากสหรัฐ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวลา 2 ปี โดยจีนเน้นย้ำว่าจะต้องสอดคล้องกับความต้องการตลาดและเป็นไปตามข้อตกลงภายใต้ WTO 2. ลดอุปสรรคทางการค้าภาคการบริการ อาทิ การเงินสาขาการธนาคาร การประกันภัย และหลักทรัพย์ 3.แก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการบังคับถ่ายทอดเทคโนโลยี และละเว้นการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพื่อการครอบครองเทคโนโลยีต่างชาติ 4.ละเว้นการดำเนินนโยบายค่าเงินที่สร้างความได้เปรียบทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม
พร้อมกันนี้สหรัฐประกาศเดินหน้าเจรจาข้อตกลงระยะ 2 (Phase-2 Deal) ทันที โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยเนื้อหาของข้อตกลง Phase-1 Deal ประกอบด้วยประเด็นสำคัญเชิงโครงสร้างและการขยายการค้าระหว่างกัน ได้แก่ ทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายทอดเทคโนโลยี สินค้าเกษตร การบริการทางการเงิน อัตราแลกเปลี่ยน การขยายการค้า (ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตรและอาหารทะเล พลังงาน และภาคบริการ) และกลไกการระงับข้อพิพาท (Dispute Resolution)
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการเจรจา Phase-1 Deal นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อเรียกร้องที่สหรัฐ ผลักดันให้จีนแก้ไข โดยประเมินว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภค โดยข้อตกลงระยะแรกจะช่วยลดภาระภาษีนำเข้าแก่ผู้ประกอบการสหรัฐ และช่วยลดแรงกดดันด้านราคาต่อผู้บริโภค รวมถึงการบรรเทาภาวะการส่งออกและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐและจีนขยายตัวดีขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลก รวมถึงการส่งออกไทยขยายตัวได้มากขึ้น
นอกจากนี้ คงต้องติดตามข้อตกลงระยะแรกไม่ระบุเงื่อนไขให้จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ ไทยจึงควรเร่งใช้โอกาสทดแทนสินค้าสหรัฐต่อไปในช่วง 3 ไตรมาสแรกปี 2562 พบว่าไทยสามารถทดแทนสินค้าสหรัฐในจีนได้ดี โดยจีนนำเข้าจากสหรัฐลดลงร้อยละ 31.9 ขณะที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 โดยเฉพาะอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป อาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า เครื่องประดับ และเครื่องสำอาง และสิ่งมีชีวิต/ส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต ขณะที่การลดภาษีนำเข้าจากจีนของสหรัฐอาจทำให้ไทยได้ประโยชน์ลดลงจากการเบี่ยงเบนทางการค้า (Trade Diversion) เนื่องจากสินค้าจีนจะกลับเข้าไปในตลาดสหรัฐมากขึ้น
ทั้งนี้ ไทยควรกระชับมิตรผู้นำเข้าควบคู่กับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดให้มีเสถียรภาพ โดย 3 ไตรมาสแรกปี 2562 สหรัฐนำเข้าจีนลดลงร้อยละ 14 ขณะที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 โดยกลุ่มสินค้าส่งออกไทยที่ทดแทนสินค้าจีนได้ดี ได้แก่ สินค้าเกษตรกรรม อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก ยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักร เครื่องมือ และส่วนประกอบ เหล็กและอลูมิเนียม และของใช้ในบ้านและสำนักงาน
นอกจากนี้ ส่วนประเด็นการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร (UK) วันที่ 12 ธันวาคม 2562 นั้น จากข้อมูลว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน คว้าชัยชนะได้เสียงข้างมาก 364 จาก 650 ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งการชนะเสียงข้างมากของพรรคอนุรักษ์นิยมสร้างความชอบธรรมในการนำ UK เดินหน้าออกจากสหภาพยุโรป (EU) และคาดว่านายบอริส จอห์นสัน จะเร่งผลักดันร่างกฎหมายการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Withdrawal Agreement Bill) ให้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา UK ได้ก่อนวันที่ 31 มกราคม 2563 (กำหนดวันเบร็กซิท) ทำให้ UK มีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) 11 เดือน ถึงสิ้นปี 2563 ที่ 2ฝ่ายจะมีการเจรจาความสัมพันธ์ในอนาคตด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง โดยด้านเศรษฐกิจอาจเป็นการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ซึ่งจากการประเมินเห็นว่า การเจรจาความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่าง 2 ฝ่ายอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน และมีโอกาสที่จะขยายเวลา ซึ่งในร่างกฎหมายการถอนตัวฯ ระบุว่าถ้า 2 ฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันก็สามารถขยายเวลาได้มากที่สุด 2 ปี (จนถึงสิ้นปี 2565)
ทั้งนี้ ในส่วนของความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทย สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของไทย และอันดับที่ 2 จาก EU (รองจากเยอรมนี) มีมูลค่าการค้ามากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยกระทรวงพาณิชย์มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและสร้างเครือข่ายธุรกิจกับ UK อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการขายสินค้าไทยบนเว็บไซต์ซุปเปอร์มาเก็ตออนไลน์ อาทิ Ocado นอกจากนี้ คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์มีกำหนดเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรปีหน้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุน ผลักดันการจัดตั้งคณะกรรมาธิการด้านการค้าระหว่างไทยกับ UK (Joint Trade Committee: JTC) ระดับรัฐมนตรี เพื่อเป็นกลไกการหารือระดับทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า การทบทวนนโยบายการค้า (Trade Policy Review) และการต่อยอดไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหราชอาณาจักรต่อไป.-สำนักข่าวไทย