สทนช.เร่งแผนปฏิบัติการสร้างความมั่นคงน้ำช่วงแล้ง 62/63

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – สทนช. เรียกประชุมทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 62/63 พื้นที่เสี่ยงขาดน้ำครอบคลุมทุกมิติ  เน้นย้ำเร่งปรับแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับน้ำต้นทุน รวมทั้งจัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนโดยด่วน เตรียมชงแผนงาน โครงการ งบประมาณอุดช่องกระทบแล้ง เสนอ กนช.เห็นชอบ 20 ธ.ค.นี้



นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช.ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนป้องกันภัยแล้ง ปี 2562/2563 และการกำหนดพื้นที่แหล่งน้ำสำรองตามที่ได้รับมอบหมายจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สามารถรับมือกับฤดูแล้งที่ใกล้จะมาถึงได้อย่างครอบคลุมทุกมิติประกอบด้วย 5 แผนปฏิบัติการหลัก ได้แก่ 1. แผนปฏิบัติการรองรับภาวะเสี่ยงการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค แบ่งเป็น ในเขตการประปานครหลวง (กปน.) พบว่า มีความต้องการใช้น้ำในเขตให้บริการช่วง พ.ย. 62 – เม.ย. 63 ประมาณ 1,500 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งแหล่งน้ำสนับสนุน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำฯ ที่กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 1,260 ล้าน ลบ.ม. ส่วนที่เหลือ กปน. ได้จัดทำแผนสำรองโดยการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล 4 บ่อ ประกอบด้วย สถานีสูบจ่ายน้ำสำโรง สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี โรงงานผลิตน้ำบางเขน และสถานีสูบจ่ายน้ำลาดกระบัง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.63 ขณะที่ในเขตให้บริการของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในเขต กปภ. รวม 61 สาขา 31 จังหวัด ซึ่ง กปภ.ได้จัดสรรงบปกติแก้ไขปัญหา 706 ล้านบาท อาทิ การใช้น้ำจากชลประทาน แหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำอื่น แต่พบว่ายังมีบางโครงการต้องขอรับการสนับสนุนงบกลางจัดสรรน้ำและจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในเขต กปภ. โดยจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของแผนงานโครงการ


สำหรับพื้นที่นอกเขตการให้บริการของ กปภ. ตามที่ สทนช.ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยง 38 จังหวัด ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ดำเนินการสำรวจแหล่งน้ำใน 38 จังหวัดถึงระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน เพื่อจำแนกระดับความเสี่ยงพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำที่มีผลกระทบมาก ผลกระทบปานกลาง  ผลกระทบเล็กน้อย และไม่มีผลกระทบกระทบเลย เพื่อจัดลำดับแผนงานโครงการในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ โดย สถ.จะมีการหารือร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อเสนอแผนงาน โครงการ พร้อมงบประมาณที่ต้องขอรับการสนับสนุนให้ชัดเจนภายในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ อาทิ ขุดเจาะบ่อดาล สนับสนุนรถแจกจ่ายน้ำ จัดทำธนาคารน้ำใต้ดิน ขยายเขตประปาหมู่บ้าน เป็นต้น 


2.แผนปฏิบัติการรองรับสถานพยาบาลเสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยสถานพยาบาลที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ 224 แห่ง สำรวจโดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า กปภ.สามารถส่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการ ขณะเดียวกัน สธ.ร่วมกับ กปภ.จัดหาแหล่งน้ำสํารองเพื่อรองรับในภาวะวิกฤติขาดแคลนน้ำ  ขณะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ สถ.ได้รับการถ่ายโอนจาก สธ.จากการสำรวจพบโรงพยาบาลที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำ  157 แห่ง แบ่งเป็นภาคเหนือ 99 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 41 แห่ง ภาคกลาง 13 แห่ง และ ภาคตะวันออก 4 แห่ง  ซึ่ง สถ.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำแผนปฎิบัติการรองรับภาวะเสี่ยงขาดแคลนน้ำในพื้นที่ดังกล่าวให้เสร็จและเสนอกลับมายัง สทนช.ภายในวันที่ 17 ธ.ค.นี้  3. แผนปฏิบัติการจัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่การเกษตร (ไม้ผล-ไม้ยืนต้น) ที่ประชุมมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตรวจสอบข้อมูลไม้ผลยืนต้นระดับตําบลที่ไม่มีแหล่งน้ำสําหรับสนับสนุน แบ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน 34 จังหวัด ในเขตชลประทาน 4 จังหวัด พร้อมวางแผนปฏิบัติการรองรับให้แล้วเสร็จภายใน 17 ธ.ค. 62 

4. แผนปฏิบัติการจัดสรรน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง โดยกรมชลประทาน (ชป.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ดำเนินการปรับแผนการจัดสรรน้ำใหม่ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน ซึ่งปัจจุบันได้มีการปรับแผนจัดสรรน้ำในอ่างฯ ขนาดใหญ่ 14 แห่ง อาทิ ภูมิพล สิริกิติ์ กระเสียว ขนาดกลาง 11 แห่ง รวมถึงควบคุมการจัดสรรน้ำอย่างเคร่งครัด และต้องประชาสัมพันธ์ในระดับพื้นที่รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องด้วย และ 5. แผนปฏิบัติการเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือช่วยเหลือภัยแล้ง โดยจัดทำข้อมูลบัญชีเครื่องจักร-เครื่องมือของทุกหน่วยงานแยกเป็นรายภาคที่ชัดเจน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงาน เพื่อให้การสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนได้ทันที อาทิ รถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำดื่ม เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น

“ปริมาณน้ำต้นทุนปีนี้มีอยู่อย่างจำกัด จึงจำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานของภาครัฐในการจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผน ปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด รวมถึงภาคประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ และคอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานเพื่อนำไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการรับรองภาวะเสี่ยงภัยแล้ง รวมทั้งงบประมาณที่จะขอรับการสนับสนุนงบกลาง  โดยเน้นเป็นแผนระยะสั้นสามารถดําเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำให้เสร็จฤดูแล้งนี้ ส่งให้ สทนช.พิจารณาภายในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ เพื่อสรุปเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) วันที่ 20 ธันวาคมนี้พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป เพื่อดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างรอบด้าน และเกิดผลกระทบน้อยที่สุด” เลขาธิการ สทนช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย

pile of durians

กัมพูชาห้ามนำเข้าผัก-ผลไม้จากไทยแล้ว

พนมเปญ 17 มิ.ย.- มาตรการห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากไทยเข้าไปในกัมพูชา เริ่มมีผลแล้วในวันนี้ หลังจากครบกำหนดเส้นตายที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศไว้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา รายงานอ้าง พล.ท.สก เวสนะ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาว่า ขณะนี้จุดผ่านแดนทุกด่านในกัมพูชาได้ห้ามการนำเข้าผักและผลไม้ทุกชนิดจากประเทศไทยเข้ากัมพูชาแล้ว ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานเนื้อหาเดียวกันตามที่ พล.ท.สก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับซินหัว แขมร์ไทมส์ ระบุว่า การยื่นคำขาดของรัฐบาลกัมพูชาให้ไทยเปิดด่านภายในเวลา 24 ชั่วโมง ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้ผักและผลไม้ของไทยทั้งหมดไม่สามารถข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชาได้ เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้การคุกคามและดูหมิ่นของกองทัพไทย หลังจากสถานการณ์บริเวณชายแดน 2 ประเทศตึงเครียด โดยเกิดจากฝ่ายไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เข้มคุมชายแดน

สระแก้ว 17 มิ.ย. – ทหาร ฉก.อรัญประเทศ เพิ่มความเข้มแนวชายแดน ลาดตระเวนทั้งพื้นดิน น้ำ อากาศ ตลอด 24 ชม. ขานรับมาตรการป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย หลังกองกำลังบูรพา ยกระดับการควบคุม ทหารหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 เพิ่มความเข้มตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จัดกำลังพลออกลาดตระเวนทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง บริเวณพื้นที่คลองลึก คลองพรหมโหด คลองน้ำใส เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย สอดรับกองกำลังบูรพายกระดับควบคุมจุดผ่านแดนชายแดนสระแก้วขั้นสูงสุด สั่งห้ามคนไทยทุกประเภทที่เป็นพนักงานในบ่อนการพนัน กาสิโน หรือสถานบันเทิงในเมืองปอยเปต เดินทางออกนอกราชอาณาจักรผ่านทุกจุดผ่านแดนในพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 17 มิ.ย.68 เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย