มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ 14 ธ.ค.-7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ชี้รัฐธรรมนูญ 60 เป็นต้นตอปัญหาของประเทศ ด้าน “ธนาธร” ลงเรือร่วมกิจกรรมส่งเสียงประชาชนสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ธ.ค.) 7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นายวันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ , นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยทันทีที่นายธนาธร ปรากฏตัว ได้มีแฟนคลับปรบมือและตะโกนเรียกชื่อ พร้อมตะโกนว่า “ฮีโร่ เราจะไม่ทิ้งกัน”
โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ และเป็นความต้องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นจึงมีการวางแผน จัดตั้งบุคลากรต่าง ๆ จนนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อให้รัฐธรรมนูญเกิดปัญหา เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะฝ่ายที่เห็นตรงข้าม จึงเกิดปัญหาที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ ตลอดจน การพิจารณาบังคับใช้กฎหมายยังมีข้อกังขามากมาย ทั้งตัวบทกฎหมายไม่ตรงกับการปฏิบัติ จึงเกิดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ เจตจำนงของรัฐธรรมนูญที่ดีโดยทั่วไปต้องเขียน หรือสร้างขึ้นมาให้เหมาะสมกับประชาชน เป็นธรรม ยุติธรรม สร้างดุลยภาพของทุกภาคส่วนให้สมดุล แต่รัฐธรรมนูญนี้สร้างองค์กรหนึ่ง คือ ส.ว.ที่เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการสืบทอดอำนาจให้เป็นไปโดยสะดวก และ ส.ว.ยังมีอำนาจมากกว่าประชาชน จึงมองว่าการเดินหน้าประเทศ ต้องเกิดจากรัฐธรรมนูญที่มีความสมดุล ไม่ใช่เกิดจากปืน หรือ รถถัง พร้อมวิงวอนทุกภาคส่วน ร่วมมือที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนส่วนอื่น ๆ เข้าใจและหาทางแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะเสียสละเงินเพื่อให้ทำประชามติ
ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะร้องเรียนให้ยุบพรรคเพื่อไทย ถ้าช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่ หากถูกยุบพรรค นายสมพงษ์ ถามกลับว่า พรรคเพื่อไทยเป็นคนขี้กลัวหรือ ขณะนี้เรามาด้วยกัน อะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องไปด้วยกัน
ด้านนายธนาธร กล่าวถึงเหตุผลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เพื่อต้องการหยุดยั้งความขัดแย้ง เพื่อจัดสรรอำนาจใหม่ว่าฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และประชาชน ควรจะมีอำนาจฝ่ายละเท่าไร เพราะที่ผ่านมาการรัฐประหาร มีการจัดสรรอำนาจใหม่ให้กับตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ โดยให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันกำหนดกฎกติกาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมีแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ การแก้ไขด้วยเลือด หรือการแก้ไขด้วยความยินยอมพร้อมใจด้วยกัน ดังนั้นเวลานี้ จึงเป็นเวลาที่จะต้องแสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อหาทางรอดให้กับสังคมไทย เพราะมองว่าของขวัญปีใหม่ที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขมากที่สุด คือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เชื่อว่า ขณะนี้คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่แย่ที่สุด แต่แนวทางในการแก้ไขของตนนั้น คงต่างจากพรรคอื่น ๆ คือ ถ้าตนมีอำนาจเมื่อไร ตนจะยึดอำนาจและฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งและนำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 กลับมาใช้
ขณะที่นายวันมูหมัดนอร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หากยังปล่อยให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้เกิดปัญหา ทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งนายธนาธร ถือว่าเป็นหนึ่งในเหยื่อของระบบเผด็จการที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้า และในอดีต มีการต่อสู้ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ในช่วงปี 2475 เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยมา อย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่วงจรอุบาทว์ของเผด็จการ พยายามยึดอำนาจ
“ขอย้ำว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่เราไม่ต้องการให้ระบอบเผด็จการ ทำรัฐประหารต่อไป ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมา เป็นเพราะประชาชนยินยอมให้เกิดการรัฐประหาร หลงผิดคิดว่าเขาเป็นเจ้าของอำนาจ ทั้งที่แผ่นดินนั้นเป็นของเรา เป็นของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งต่างจากในประเทศอังกฤษที่ไม่สามารถทำรัฐประหารได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม ขอฝากถึงศาลและผู้ร่างรัฐธรรมนูญว่าการตัดสินต้องยึดตามหลักศีลธรรมในการพิจารณาคดี ยืนยันว่าการต่อสู้ของนายธนาธรครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ไม่มีวันที่เผด็จการจะชนะใจประชาชนได้เลย ดังนั้นวันนี้เวลาถึงเวลาของประชาชนแล้ว ไม่ใช่เวลาของนายธนาธร” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ส่วนระบบการเลือกตั้งของรัฐบาล ที่มีเสียงปริมน้ำ จึงมีการซื้อเสียงด้วยการแจกกล้วย และขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย รัฐธรรมนูญจะต้องมาจากประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน
ด้านนายมนูญ กล่าวว่า ตนพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนเท่านั้น
ขณะที่ นายสงคราม กล่าวว่า เราเป็นผู้รักชาติ จึงขอเก็บความรักชาติไว้คนเดียว แต่ต้องมาร่วมมือกัน ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญมาไม่ดี ก็จะทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อีกทั้งประเทศไทยกำลังจะล่มจม แต่รัฐบาลยังโกหกประชาชนว่าเศรษฐกิจดี พร้อมกันนี้สร้างความขัดแย้ง สร้างความกลัว รังแกและยัดข้อหาให้ฝ่ายตรงข้ามด้วย ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขึ้นมาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ก็จะไม่เกิดผลสำเร็จ หากไม่แก้รัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นทาส จะเป็นทาสยันชั่วลูกชั่วหลาน
นายนิคม ขอตั้งฉายาว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปล้นประชาชน ปล้นความสุขไปจากประชาชน ปล้นเศรษฐกิจไปจากประชาชน ปล้นความหวังไปจากประชาชน และปล้นอนาคตใหม่ไปจากประชาชน ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ยาก และเขียนเพื่อฉีดและยึดอำนาจเอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มเสวนา 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงนามให้สัตยาบันร่วมกันว่าเราจะร่วมมือร่วมแรงร่วมใจร่วมกันแก้ไขและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน โดยยึดมั่นในหลักการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกันนี้เห็นพ้องต้องกันว่าจะร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคม อาทิ ภาควิชาการ นักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชน ตลอดจนกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในการดำเนินการดังกล่าวตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่ให้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเจตนารมณ์และตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง จึงลงนามเป็นหลักฐานไว้เป็นสัตยาบรรณร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ นายธนาธร ได้นั่งรถตุ๊กตุ๊กไปที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศเพื่อโดยสารเรือ ไปลงยังท่าเรือสะพานหัวช้าง เพื่อเดินทางไปร่วมกิจกรรม “ส่งเสียงประชาชน” ที่บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน ตามเวลานัดหมาย 17.00 น. โดยนายธนาธรได้ทักทายกับประชาชนที่โดยสารเรือและร่วมพูดคุยถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่าอยากให้บรรยากาศเป็นกันเอง เป็นการรวมตัวของประชาชนเพื่อออกมาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย