7 พรรคฝ่ายค้าน ชี้ รธน. 60 เป็นต้นตอปัญหาของประเทศ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ 14 ธ.ค.-7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ชี้รัฐธรรมนูญ 60 เป็นต้นตอปัญหาของประเทศ ด้าน “ธนาธร” ลงเรือร่วมกิจกรรมส่งเสียงประชาชนสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ธ.ค.) 7 พรรคฝ่ายค้านจัดเสวนา “พรรคการเมืองร่วมใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ” โดยมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ , พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นายวันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ , นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ , นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ , นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย โดยทันทีที่นายธนาธร ปรากฏตัว ได้มีแฟนคลับปรบมือและตะโกนเรียกชื่อ พร้อมตะโกนว่า “ฮีโร่ เราจะไม่ทิ้งกัน”

โดยนายสมพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ และเป็นความต้องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นจึงมีการวางแผน จัดตั้งบุคลากรต่าง ๆ จนนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อให้รัฐธรรมนูญเกิดปัญหา เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะฝ่ายที่เห็นตรงข้าม จึงเกิดปัญหาที่อยู่ร่วมกันไม่ได้ ตลอดจน การพิจารณาบังคับใช้กฎหมายยังมีข้อกังขามากมาย ทั้งตัวบทกฎหมายไม่ตรงกับการปฏิบัติ จึงเกิดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ เจตจำนงของรัฐธรรมนูญที่ดีโดยทั่วไปต้องเขียน หรือสร้างขึ้นมาให้เหมาะสมกับประชาชน เป็นธรรม ยุติธรรม สร้างดุลยภาพของทุกภาคส่วนให้สมดุล แต่รัฐธรรมนูญนี้สร้างองค์กรหนึ่ง คือ ส.ว.ที่เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการสืบทอดอำนาจให้เป็นไปโดยสะดวก และ ส.ว.ยังมีอำนาจมากกว่าประชาชน จึงมองว่าการเดินหน้าประเทศ ต้องเกิดจากรัฐธรรมนูญที่มีความสมดุล ไม่ใช่เกิดจากปืน หรือ รถถัง พร้อมวิงวอนทุกภาคส่วน ร่วมมือที่จะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนส่วนอื่น ๆ เข้าใจและหาทางแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะเสียสละเงินเพื่อให้ทำประชามติ


ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะร้องเรียนให้ยุบพรรคเพื่อไทย ถ้าช่วยเหลือพรรคอนาคตใหม่ หากถูกยุบพรรค นายสมพงษ์ ถามกลับว่า พรรคเพื่อไทยเป็นคนขี้กลัวหรือ ขณะนี้เรามาด้วยกัน อะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องไปด้วยกัน

ด้านนายธนาธร กล่าวถึงเหตุผลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เพื่อต้องการหยุดยั้งความขัดแย้ง เพื่อจัดสรรอำนาจใหม่ว่าฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และประชาชน ควรจะมีอำนาจฝ่ายละเท่าไร เพราะที่ผ่านมาการรัฐประหาร มีการจัดสรรอำนาจใหม่ให้กับตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ โดยให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันกำหนดกฎกติกาให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมีแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ การแก้ไขด้วยเลือด หรือการแก้ไขด้วยความยินยอมพร้อมใจด้วยกัน  ดังนั้นเวลานี้ จึงเป็นเวลาที่จะต้องแสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อหาทางรอดให้กับสังคมไทย เพราะมองว่าของขวัญปีใหม่ที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขมากที่สุด คือ การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เชื่อว่า ขณะนี้คนไทยทั้งประเทศเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่แย่ที่สุด แต่แนวทางในการแก้ไขของตนนั้น คงต่างจากพรรคอื่น ๆ  คือ ถ้าตนมีอำนาจเมื่อไร ตนจะยึดอำนาจและฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งและนำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 กลับมาใช้ 


ขณะที่นายวันมูหมัดนอร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หากยังปล่อยให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะทำให้เกิดปัญหา ทั้งในสภาและนอกสภา ซึ่งนายธนาธร ถือว่าเป็นหนึ่งในเหยื่อของระบบเผด็จการที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยเดินหน้า และในอดีต มีการต่อสู้ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ในช่วงปี 2475 เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยมา อย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่วงจรอุบาทว์ของเผด็จการ พยายามยึดอำนาจ 

“ขอย้ำว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่เราไม่ต้องการให้ระบอบเผด็จการ ทำรัฐประหารต่อไป ซึ่งการรัฐประหารที่ผ่านมา เป็นเพราะประชาชนยินยอมให้เกิดการรัฐประหาร หลงผิดคิดว่าเขาเป็นเจ้าของอำนาจ ทั้งที่แผ่นดินนั้นเป็นของเรา เป็นของประชาชนทั้งประเทศ  ซึ่งต่างจากในประเทศอังกฤษที่ไม่สามารถทำรัฐประหารได้ เพราะประชาชนไม่ยินยอม ขอฝากถึงศาลและผู้ร่างรัฐธรรมนูญว่าการตัดสินต้องยึดตามหลักศีลธรรมในการพิจารณาคดี ยืนยันว่าการต่อสู้ของนายธนาธรครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ แต่ไม่มีวันที่เผด็จการจะชนะใจประชาชนได้เลย ดังนั้นวันนี้เวลาถึงเวลาของประชาชนแล้ว ไม่ใช่เวลาของนายธนาธร” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ส่วนระบบการเลือกตั้งของรัฐบาล ที่มีเสียงปริมน้ำ จึงมีการซื้อเสียงด้วยการแจกกล้วย และขอให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย รัฐธรรมนูญจะต้องมาจากประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน

ด้านนายมนูญ กล่าวว่า ตนพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนเท่านั้น

ขณะที่ นายสงคราม กล่าวว่า เราเป็นผู้รักชาติ จึงขอเก็บความรักชาติไว้คนเดียว แต่ต้องมาร่วมมือกัน ซึ่งการร่างรัฐธรรมนูญมาไม่ดี ก็จะทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อีกทั้งประเทศไทยกำลังจะล่มจม แต่รัฐบาลยังโกหกประชาชนว่าเศรษฐกิจดี พร้อมกันนี้สร้างความขัดแย้ง สร้างความกลัว รังแกและยัดข้อหาให้ฝ่ายตรงข้ามด้วย ทั้งนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขียนขึ้นมาแล้วปฏิบัติไม่ได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ร่วมมือกัน ก็จะไม่เกิดผลสำเร็จ หากไม่แก้รัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นทาส จะเป็นทาสยันชั่วลูกชั่วหลาน

นายนิคม ขอตั้งฉายาว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับปล้นประชาชน ปล้นความสุขไปจากประชาชน ปล้นเศรษฐกิจไปจากประชาชน ปล้นความหวังไปจากประชาชน และปล้นอนาคตใหม่ไปจากประชาชน ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญที่แก้ไขได้ยาก และเขียนเพื่อฉีดและยึดอำนาจเอง 

อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มเสวนา 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงนามให้สัตยาบันร่วมกันว่าเราจะร่วมมือร่วมแรงร่วมใจร่วมกันแก้ไขและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน โดยยึดมั่นในหลักการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมกันนี้เห็นพ้องต้องกันว่าจะร่วมกับทุกภาคส่วนในสังคม อาทิ ภาควิชาการ นักเรียน นิสิตนักศึกษาและประชาชน ตลอดจนกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในการดำเนินการดังกล่าวตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่ให้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่สะท้อนเจตนารมณ์และตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง จึงลงนามเป็นหลักฐานไว้เป็นสัตยาบรรณร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ นายธนาธร ได้นั่งรถตุ๊กตุ๊กไปที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศเพื่อโดยสารเรือ ไปลงยังท่าเรือสะพานหัวช้าง เพื่อเดินทางไปร่วมกิจกรรม “ส่งเสียงประชาชน” ที่บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน ตามเวลานัดหมาย 17.00 น. โดยนายธนาธรได้ทักทายกับประชาชนที่โดยสารเรือและร่วมพูดคุยถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้ (14 ธ.ค.) ว่าอยากให้บรรยากาศเป็นกันเอง เป็นการรวมตัวของประชาชนเพื่อออกมาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย