กระบี่ 13 ธ.ค. – วันนี้ผ่านมากว่าปีเศษแล้ว ที่กรมอุทยานฯ ประกาศปิดอ่าวมาหยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อให้ธรรมชาติที่เสื่อมโทรมได้ฟื้นตัว โดยมีกำหนด 2 ปี วันนี้ ธรรมชาติบนอ่าวมาหยาเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด
น้ำทะเลสีฟ้าครามที่ถูกโอบกอดไว้ด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่านตัดกับผืนทรายขาวละเอียด เป็นภาพความสวยงามทางธรรมชาติของอ่าวมาหยาที่กำลังฟื้นตัว หลังทางการปิดรับนักท่องเที่ยวมาเยือนติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือนแล้ว
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ยอมรับว่า ความพลุกพล่านของผู้คนที่เคยมุ่งหน้าสู่อ่าวมาหยา ไม่ต่ำกว่าวันละ 5,000 คน ส่งผลให้ธรรมชาติของอ่าวมาหยาในช่วงที่ผ่านมาเสื่อมโทรมอย่างหนัก
แต่ผลจากการปิดอ่าวมาหยา นับตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมา จนถึงวันนี้ธรรมชาติของอ่าวมาหยาเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในทุกด้าน ทั้งในส่วนของระบบนิเวศบนชายหาด และระบบนิเวศใต้น้ำ ปะการังที่เคยเสียหายจากการทอดสมอของเรือท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัว เช่นเดียวกับปะการังที่เจ้าหน้าที่ช่วยกันปลูกขึ้นใหม่ กำลังเติบโตและกลายเป็นบ้านอยู่อาศัยให้แก่ฝูงปลาและสัตว์ทะเลอีกจำนวนมากมาย
ฉลามหูดำ ที่มีตั้งแต่ตัวเล็กๆ กระทั่งถึงตัวใหญ่สุด ขนาดความยาวกว่า 2 เมตร รวมกันราว 40-50 ตัวฝูงนี้ ชักชวนกันมาเวียนว่ายเล่นน้ำบริเวณด้านหน้าอ่าวมาหยา แทนที่เรือนำเที่ยวที่เคยเห็นวันละหลายสิบลำ โดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี บอกว่า ภาพเหล่านี้เริ่มปรากฏให้เห็นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนแล้ว และคาดว่าฉลามหูดำฝูงนี้จะยังคงอยู่ที่นี่ต่อเนื่องไปจนสิ้นสุดเดือนธันวาคม นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่พบมานานมาก หลังอ่าวมาหยากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว กระทั่งกรมอุทยานฯ มีการปิดอ่าวมาหยา จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งบ่งชี้ให้เห็นว่า ธรรมชาติของอ่าวมาหยาในวันนี้เริ่มกลับมาสมบูรณ์
นับจากวันนี้ไปอีกราว 2 ปีข้างหน้า คือ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 อ่าวมาหยาจะกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมอีกครั้ง แต่คราวนี้จะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้เที่ยวชมเพียงรอบละ 375 คน เฉลี่ยวันละ 6-7 รอบ เท่านั้น. – สำนักข่าวไทย