กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – อธิบดีกรมป่าไม้ระบุดำเนินการกรณีการครอบครองที่ดินรัฐของ “ปารีณา” ตรงไปตรงมา ไม่หวั่น “อัจฉริยะ” จะร้องมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับที่ดิน 682 ไร่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ย้ำต้องรอกฤษฎีกาให้ความเห็น จึงจะชัดเจนเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใดต้องดำเนินคดี ชี้อย่าคิดแต่ความสะใจ หากผิดพลาดทางข้อกฎหมายถูกฟ้องกลับ ใครช่วยข้าราชการ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ป่าไม้ราชบุรี ปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในอำเภอจอมบึง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอจอมบึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีการครอบครองที่ดินรัฐของ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยในส่วนของกรมป่าไม้ไม่หวั่นและได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน หากถูกร้องทุกข์กล่าวโทษจริงจะมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลเรื่องคดีความ โดยยืนยันกรมป่าไม้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและดำเนินการตรงไปตรงมา จึงแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก. ปทส.) จากหลักฐานที่ปรากฎว่า น.ส. ปารีณา บุกรุกครอบครองที่ดินตาม พ.ร.บ.ป่าสวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เนื้อที่ 46 ไร่ไปแล้ว
ส่วนที่ดิน 682 ไร่ กรมป่าไม้มอบให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินแล้วนั้น แม้ยังมี พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ครอบคลุม แต่ในทางปฏิบัติพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของ ส.ป.ก. ฝ่ายกฎหมายของกรมป่าไม้จึงได้หารือกับฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. เพื่อให้ ส.ป.ก. ร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ทาง ส.ป.ก. ระบุว่า ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้ยกตัวอย่างกรณีที่มีการร้องเรียนว่า มีผู้นำเครื่องจักรกลไปดูดทรายในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ แต่กรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานรับผิดชอบตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ซึ่งกรมเจ้าท่าได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน จากนั้นพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่า ผู้ถูกร้องกระทำผิดตามกฎหมายอะไรบ้างเพื่อดำเนินคดี การร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับการกระทำผิดในที่ดินของรัฐนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องร้องโดยผู้เสียหายทางนิตินัย แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ดังนั้น เมื่อทั้งกรมป่าไม้และ ส.ป.ก.มีความเห็นต่างกัน จึงต้องรอคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าหน่วยงานใดต้องทำหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ
“ไม่ได้ดำเนินการ 2 มาตรฐานตามที่มีผู้นำกรณีการร้องทุกข์การบุกรุกที่ป่ารายอื่นมาเทียบเคียงกับกรณีน.ส.ปารีณา เนื่องจากจะนำคำพิพากษาศาลฎีกาคดีใดคดีหนึ่ง หรือการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกามาปฏิบัติเลยไม่ได้ หากรายละเอียดของคดีแตกต่างกัน การดำเนินการทางกฎหมายต้องรอบคอบ ขอให้สังคมเข้าใจ อย่างคิดถึงแต่ความสะใจ เนื่องจากหากข้าราชการดำเนินการเร่งรีบแล้วเกิดความผิดพลาด ถูกฟ้องร้อง จะมีใครมาช่วยเหลือหรือไม่” นายอรรถพล กล่าว
ด้านชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมจะยื่นร้องขอให้ผู้บังคับการ ปทส. ตรวจสอบการได้มาที่ดิน ภ.บ.ท.5 ของนักการเมือง การบุกรุกที่สาธารณะของครอบครัวนักการเมืองชื่อดังมากในจังหวัดชลบุรี และการบุกรุกที่ป่าไม้ในภาคเหนือรายใหญ่ โดยจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษในวันที่ 17 ธันวาคมนี้.-สำนักข่าวไทย