บขส. เตรียมความพร้อมปีใหม่ 2563

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – บขส. ประชุมแผนเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2563 คาดมีประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันที่ 27 – 28 ธ.ค. 62  ไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนคน 


นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวภายหลังประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2563 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ บขส. คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 โดย บขส. ได้เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม , รถตู้) รองรับประชาชนในเที่ยวไป จากปกติวันละ ประมาณ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นประมาณ 2,800 เที่ยว รวมกว่า 8,219 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน ทั้งนี้คาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ในวันที่ 27 – 28 ธันวาคม 2562 มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน ส่วนเที่ยวกลับตั้งแต่วันที่ 1- 3 มกราคม 2563 บขส. ได้จัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว เพิ่มเที่ยวเสริมวันละประมาณ 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละประมาณ 141,788 คน สำหรับการเดินทาง

ในเที่ยวขากลับ คาดว่าผู้โดยสารจะทยอยเดินทางด้วยรถตู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนเที่ยววิ่งของรถตู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นแต่จำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากรถตู้โดยสารมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 14 ที่นั่ง/เที่ยววิ่ง ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่มีผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มาวิ่งให้บริการ เที่ยวไประหว่างวันที่ 26 – 31 ธันวาคม 2562 จำนวน 1,600 คัน รองรับผู้โดยสารได้ 64,000 คน และเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 1 – 3 มกราคม 2562  จำนวน 450 คัน รองรับผู้โดยสารได้ 19,800 คน โดยเส้นทางที่มีการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ แม่สอด อุบลราชธานี หาดใหญ่ และตราด เป็นต้น 


สำหรับมาตรการลดความแออัดและแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 บขส. ได้จัดแผนการเดินรถเฉพาะรถโดยสาร บขส. ดังนี้ 

1. ผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และรถวีไอพี ของ บขส. เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ไปขึ้นรถที่กรมการขนส่งทางบก บริเวณอาคาร 5 และอาคาร 6 

ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 เวลา 17.30 – 22.00 น. โดย บขส. ได้จัดรถตู้ไว้ให้บริการรับ-ส่งฟรีบริเวณด้านหน้าอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) 


2. ผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร และขึ้นรถเที่ยวเสริม ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2

นอกจากนี้ บขส. ได้เปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน ทุกเส้นทาง ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วผ่านช่องทางการจำหน่ายตั๋วของ บขส. อาทิ เว็บไซต์ บขส. www.transport.co.th , เคาน์เตอร์เซอร์วิส , Applicaton “ซื้อตั๋ว บขส.” และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง   

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ได้กำชับไปยังผู้ประกอบการและพนักงานขายตั๋ว เข้มงวดเรื่องการขายตั๋วโดยสาร ไม่ขายตั๋วเกินที่นั่ง และไม่ให้นำผู้โดยสารออกนอกสถานีฯ โดยเด็ดขาด หากพบว่า ผู้ประกอบการรายใดกระทำความผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามระเบียบของบริษัทฯ ต่อไป 

ส่วนของมาตรการด้านความปลอดภัย บขส. มีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งประสานงานกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.5) ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจรถโดยสารบนทางหลวงสายหลัก และมีการได้เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ติดตั้งระบบ GPS ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง 

บขส. ยังได้จัดหน่วยพยาบาลให้บริการแก่ผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน บริเวณชั้น 2 อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) และที่กรมการขนส่งทางบก ระหว่างวันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 เวลา 16.30 – 21.00 น. เพื่อปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และได้ตั้งจุดร้องเรียนบริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 และชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่อรับเรื่องร้องเรียน แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเดินทาง รวมทั้งให้คำแนะนำประชาสัมพันธ์แก่ผู้โดยสาร โดยดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 -28 ธันวาคม 2562

ส่วนการให้บริการที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) หรือสถานีรถตู้โดยสาร บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วนถนนกำแพงเพชร 2 ฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 03.00 – 22.00 น. ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางในเส้นทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร สามารถใช้บริการรถตู้โดยสาร ได้ดังนี้ อาคาร A  ให้บริการรถตู้โดยสารภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาคาร B ให้บริการรถตู้โดยสารภาคกลาง อาคาร C ให้บริการรถตู้โดยสารภาคตะวันออก และอาคาร D ให้บริการรถตู้โดยสารภาคใต้ 

“เทศกาลปีใหม่นี้ ขอให้ผู้ใช้บริการเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งฯ ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ และหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งเจ้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณสถานีขนส่ง และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แก่ประชาชนอย่างเต็มกำลังด้วย” นายจิรศักดิ์กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เกาะติดปฏิบัติการ EOD ทำลายวัตถุต้องสงสัย หาดป่าตอง

ภูเก็ต 26 มิ.ย. – ภูเก็ตป่วนอีก! พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ที่หาดป่าตอง ตำรวจชุด EOD ยิงทำลายสำเร็จ หลังเมื่อวานทำลาย จยย. ซุกวัตถุระเบิด จอดทิ้งหน้าสนามบิน ตำรวจชุด EOD ได้ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ผู้ไม่หวังดีนำมาซุกซ่อนเอาไว้บริเวณหาดป่าตอง เรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตำรวจได้กันพื้นที่ในจุดที่พบวัตถุต้องสงสัย ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้พื้นที่รอบนอกรัศมีออกมา 300-400 เมตร นักท่องเที่ยวยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว มีลักษณะเป็นการตั้งตัวหน่วงเวลาแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บวัตถุพยานต่างๆ เพิ่มเติม โดยก่อนจะยิงทำลาย เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดสัญญาณก่อน 2 ครั้ง และขณะยิงทำลาย ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ห่างออกมา 200 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น โดยช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจชุด EOD ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต และยิงทำลายวัตถุระเบิดได้สำเร็จ พลตำรวจตรีสินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการยกระดับความเข้มการตรวจสอบพื้นที่ทั่วเกาะ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่พบวัตถุระเบิดทั้ง 2 จุด ในภูเก็ต เชื่อมโยงกับการจับกุม […]

มทภ.2 ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน

กองทัพภาคที่สอง 26 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 2 แก้เคล็ด ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นำความผาสุกสู่ประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์ พล.ท.บุญสิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นอกจากไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสานชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด “เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆ ท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุขความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว สำหรับวัดที่ได้นำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน 20 วัด โดยเริ่มถวายมาตั้งแต่วันที่ […]

ผ่อนผันให้ชาวเขมร ผ่านด่านคลองลึกเข้าไทย ไม่เกิน 1 พันคน/วัน

สระแก้ว 26 มิ.ย.-มนุษยธรรม! ทภ.1 ยอมผ่อนผันให้ชาวเขมร เดินทางผ่านด่านคลองลึกเข้ามาในประเทศไทยได้วันละไม่เกิน 1 พันคน แต่กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านดังเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชา เดินทางข้ามแดนและเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเป็นการดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม ให้กับพี่น้องประชาชน ระบุว่า เพื่อเป็นการอนุโลมให้กับประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทาง กลับภูมิลำเนา ผ่านจุดผ่านแดนในพื้นพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และเป็นไปตามด้านมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา จึงกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก1.1ประชาชนกัมพูชา ที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยใช้หนังสือผ่านแดน Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจย เท่านั้น (ไม่อนุญาตให้ใช้หนังสือเดินทาง Passport ในการผ่านแดน) และไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะ ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ฯ และรถยนต์ส่วนบุคคลฯ ทุกชนิด เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย (ยกเว้นรถจักรยาน 2 ล้อ) และให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ลงตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ ไม่เกิน 1 วัน ตามห้วงเวลา ดังนี้1.1.1 เวลา 08.00 […]

นายกฯ ลงพื้นที่ชายแดนอรัญประเทศ

สระแก้ว 26 มิ.ย.-นายกฯ นำคณะลงพื้นที่สระแก้ว หารือผลกระทบจากมาตรการเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นจะไปด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามปอยเปต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยจุดแรกที่เดินทางมาถึงคือโรงเรียนอรัญประเทศ เพื่อเป็นประธานในการประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากมาตรการการกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ทั้งการค้าขายและพืชผลทางการเกษตร รวมทั้งการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางต่อไปยังบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตรงข้ามเมืองปอยเปตของกัมพูชา เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย