บขส. เตรียมความพร้อมปีใหม่ 2563

กรุงเทพฯ 13 ธ.ค. – บขส. ประชุมแผนเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2563 คาดมีประชาชนทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันที่ 27 – 28 ธ.ค. 62  ไม่ต่ำกว่า 1.6 แสนคน 


นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวภายหลังประชุมแผนปฏิบัติการเดินรถวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2563 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ บขส. คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 โดย บขส. ได้เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม , รถตู้) รองรับประชาชนในเที่ยวไป จากปกติวันละ ประมาณ 5,419 เที่ยว เพิ่มขึ้นประมาณ 2,800 เที่ยว รวมกว่า 8,219 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละ 165,802 คน ทั้งนี้คาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา ในวันที่ 27 – 28 ธันวาคม 2562 มากที่สุดไม่ต่ำกว่า 160,000 คน ส่วนเที่ยวกลับตั้งแต่วันที่ 1- 3 มกราคม 2563 บขส. ได้จัดเที่ยววิ่งจากปกติ วันละ 5,486 เที่ยว เพิ่มเที่ยวเสริมวันละประมาณ 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ถึงวันละประมาณ 141,788 คน สำหรับการเดินทาง

ในเที่ยวขากลับ คาดว่าผู้โดยสารจะทยอยเดินทางด้วยรถตู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนเที่ยววิ่งของรถตู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นแต่จำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากรถตู้โดยสารมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่เกิน 14 ที่นั่ง/เที่ยววิ่ง ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่มีผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มาวิ่งให้บริการ เที่ยวไประหว่างวันที่ 26 – 31 ธันวาคม 2562 จำนวน 1,600 คัน รองรับผู้โดยสารได้ 64,000 คน และเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 1 – 3 มกราคม 2562  จำนวน 450 คัน รองรับผู้โดยสารได้ 19,800 คน โดยเส้นทางที่มีการนำรถโดยสารไม่จำทาง (รถทะเบียน 30) มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ แม่สอด อุบลราชธานี หาดใหญ่ และตราด เป็นต้น 


สำหรับมาตรการลดความแออัดและแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 บขส. ได้จัดแผนการเดินรถเฉพาะรถโดยสาร บขส. ดังนี้ 

1. ผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 และรถวีไอพี ของ บขส. เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ไปขึ้นรถที่กรมการขนส่งทางบก บริเวณอาคาร 5 และอาคาร 6 

ตั้งแต่วันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 เวลา 17.30 – 22.00 น. โดย บขส. ได้จัดรถตู้ไว้ให้บริการรับ-ส่งฟรีบริเวณด้านหน้าอาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) 


2. ผู้โดยสารที่ไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ติดต่อซื้อตั๋วโดยสาร และขึ้นรถเที่ยวเสริม ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2

นอกจากนี้ บขส. ได้เปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน ทุกเส้นทาง ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วผ่านช่องทางการจำหน่ายตั๋วของ บขส. อาทิ เว็บไซต์ บขส. www.transport.co.th , เคาน์เตอร์เซอร์วิส , Applicaton “ซื้อตั๋ว บขส.” และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ call center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง   

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กล่าวด้วยว่า ได้กำชับไปยังผู้ประกอบการและพนักงานขายตั๋ว เข้มงวดเรื่องการขายตั๋วโดยสาร ไม่ขายตั๋วเกินที่นั่ง และไม่ให้นำผู้โดยสารออกนอกสถานีฯ โดยเด็ดขาด หากพบว่า ผู้ประกอบการรายใดกระทำความผิด จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดตามระเบียบของบริษัทฯ ต่อไป 

ส่วนของมาตรการด้านความปลอดภัย บขส. มีการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งประสานงานกับกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.5) ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติดของพนักงานขับรถก่อนปฏิบัติหน้าที่ ตั้งจุดตรวจรถโดยสารบนทางหลวงสายหลัก และมีการได้เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง โดยตรวจเช็ครถโดยสารให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ติดตั้งระบบ GPS ควบคุมความเร็วบนรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารในการเดินทาง 

บขส. ยังได้จัดหน่วยพยาบาลให้บริการแก่ผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน บริเวณชั้น 2 อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) และที่กรมการขนส่งทางบก ระหว่างวันที่ 26 – 28 ธันวาคม 2562 เวลา 16.30 – 21.00 น. เพื่อปฐมพยาบาลในเบื้องต้น และได้ตั้งจุดร้องเรียนบริเวณประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 และชั้น 3 สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่อรับเรื่องร้องเรียน แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเดินทาง รวมทั้งให้คำแนะนำประชาสัมพันธ์แก่ผู้โดยสาร โดยดำเนินการตั้งแต่วันที่ 26 -28 ธันวาคม 2562

ส่วนการให้บริการที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) หรือสถานีรถตู้โดยสาร บริเวณพื้นที่ใต้ทางด่วนถนนกำแพงเพชร 2 ฝั่งตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 03.00 – 22.00 น. ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางในเส้นทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร สามารถใช้บริการรถตู้โดยสาร ได้ดังนี้ อาคาร A  ให้บริการรถตู้โดยสารภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาคาร B ให้บริการรถตู้โดยสารภาคกลาง อาคาร C ให้บริการรถตู้โดยสารภาคตะวันออก และอาคาร D ให้บริการรถตู้โดยสารภาคใต้ 

“เทศกาลปีใหม่นี้ ขอให้ผู้ใช้บริการเผื่อเวลาเดินทางมาขึ้นรถโดยสารที่สถานีขนส่งฯ ก่อนเวลารถออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และขอให้ซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ และหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งเจ้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณสถานีขนส่ง และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แก่ประชาชนอย่างเต็มกำลังด้วย” นายจิรศักดิ์กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”