ไทย-จีน ร่วมหารือส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์

วธ.13ธ.ค.- รัฐบาลไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมหารือหน่วยงานส่งเสริมด้านภาพยนตร์และศิลปวัฒนธรรมของรัฐบาลจีน มุ่งผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านภาพยนตร์ 13-18 ธ.ค.นี้  ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 


เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ 13-18 ธันวาคม 2562 รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) คณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางร่วมหารือหน่วยงานส่งเสริมด้านภาพยนตร์และศิลปวัฒนธรรมของรัฐบาลจีนเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่าง 2 ประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 


โดยจะมีการประชุมเตรียมการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย ประจำปี 2563 ครั้งที่ 1 ร่วมกับกองทุนศูนย์วัฒนธรรมแห่งกรุงปักกิ่ง ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม แนวทางการพัฒนาธุรกิจลิขสิทธิ์ หารือผู้บริหารทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หารือการจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านภาพยนตร์ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย และทบวงกิจการภาพยนตร์ฯ 


รวมทั้งเข้าพบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง หารือเรื่องการส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงไทย ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประเด็น “ความร่วมมือในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและจีน และการจัดเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย ประจำปี 2563 ณ กรุงเทพมหานคร

ปลัด วธ. กล่าวด้วยว่า การเดินทางไปร่วมงานครั้งนี้นอกจากจะผลักดันให้สื่อบันเทิงไทยให้ได้รับความนิยมสินค้าทางวัฒนธรรมไทยออกไปสู่ตลาดโลก ต่อยอดความสำเร็จและส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่3 (พ.ศ.2560– 2564) แล้ว ยังเป็นการผลักดันให้มีการเจรจาความร่วมมือเพื่อการร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ระดับทวิภาคีกับรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สำคัญเป็นการเตรียมความพร้อมการจัดเทศกาลภาพยนตร์เอเชีย ประจำปี 2563 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร ในเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม พ.ศ.2563 เพื่อนำเสนอผลงานภาพยนตร์ชั้นนำของเอเชียสู่เวทีโลก ส่งเสริมความร่วมมือของผู้ผลิตภาพยนตร์ในเอเชีย เป็นเวทีในการพัฒนาคุณภาพของภาพยนตร์และศักยภาพของบุคลากรในวงการภาพยนตร์เอเชีย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย-จีน มีความร่วมมือ เจรจาแลกเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมบูรณาการดำเนินกิจกรรม/โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการส่งเสริมและเผยแพร่ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว ทั้งสิ้น 13 กิจกรรม โดยมีการเจรจาธุรกิจ 1,663 ครั้ง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 9,200 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง