คมนาคม ชง​ คจร​.แก้กฎกระทรวงฯเพิ่มความเร็ว​ 120​ ​กม./ชม

กรุงเทพฯ​ 9​ ธ.ค.-คมนาคม​เตรียม​ ชง​ คจร.พิจารณาแก้กฎกระทรวง​ฯ เพิ่มความเร็วรถ​ จาก​ 90​ กม.​ เป็น​120 กม. ถนนบางสาย​ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแปลนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ ว่าในที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องของการเพิ่มอัตราความเร็วรถจากเดิม 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง​ บนถนนที่มี 4 ช่องจราจรขึ้นไป​ และมีความพร้อมในเรื่องความปลอดภัย และจากที่ได้มีการรับฟังข้อมูลทั้งหมดแล้ว​ ก็มีความเห็นว่าสมควรที่จะมีการเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในการแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องอัตราความเร็วของรถเป็นไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง​

อย่างไรก็ตามต้องมีการลงรายละเอียดในเรื่องของกฎกระทรวงฯ​ เกี่ยวกับการประกาศตามประเภทของถนนที่มีความปลอดภัย และการประกาศในพื้นที่ที่จะต้องลดความเร็วลง ซึ่งได้มีการมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ ในการพิจารณารายละเอียดข้อความให้มีความสมบูรณ์ก่อนนำเสนอเรื่องให้ คจร.พิจารณา


ทั้งนี้ในส่วนของนโยบายการปรับเวลาการอนุญาตให้รถบรรทุกขนาดตั้งแต่ 10 ล้อ​ ขึ้นไปเข้าเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. – 04.00 น. ทาง สนข.ได้มีการให้ข้อมูลว่า​ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้มีการทำเรื่องถึงกระทรวงคมนาคมเพื่อขอให้มีการทบทวนถึงกระทบที่จะเกิดขึ้นในหลายด้านเช่น ต้นทุนที่มีการเพิ่มขึ้น การดำเนินโครงการก่อสร้างต่างๆ​ ที่อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา การมีโรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพและปริมณฑล การไม่มีความพร้อมในเรื่องของจุดที่จอดพักรถ เป็นต้น โดยได้มีการมอบให้ สนข. ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งว่าจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาหรือเยียวยาอย่างไร โดยให้กรอบระยะเวลา 30 วันในการดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง