ซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธีครั้งสุดท้ายเรียบร้อย

ราชนาวิกสภา 9 ธ.ค.-กองทัพเรือ จัดซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคอย่างงดงาม พร้อมเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และชมความยิ่งใหญ่ของขบวนเรือพระราชพิธี 12 ธ.ค.นี้




กองทัพเรือ โดยคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี จัดให้มีการฝึกซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 โดยการซ้อมในวันนี้เป็นการซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้าย ใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ กำลังพลฝีพาย 2,311 นาย มีการประดับตกแต่งขบวนเรือพระราชพิธีเหมือนวันจริง ส่วนกำลังพลฝีพายแต่งกายชุดฝึก เริ่มซ้อมเวลา13.30 น. เนื่องจากระดับน้ำในเวลาดังกล่าว จะเท่ากับเวลา 15.30 น.ในวันพระราชพิธี ที่กำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม 2562 โดยเริ่มตั้งต้นขบวนเรือพระราชพิธี ที่ท่าวาสุกรี และเทียบท่าราชวรดิฐ ในเวลา 14.29 น.ระยะทาง3.4 กิโลเมตร วันนี้ใช้เวลาในการซ้อม ร่วม 1 ชั่วโมง 

สำหรับการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีครั้งสุดท้ายวันนี้ เป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยจัดรูปขบวนเรือ แบ่งออก เป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน ริ้วสายใน ขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้าเรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก และ ริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวมทั้งสิ้น 52 ลำ 


โดยรัฐบาลเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและขบวนราบ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 วันที่12 ธันวาคม 2562 เวลา 15.30 น. เป็นต้นไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ส่วนภาคเหนือ อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

จากสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท

จากปี 2495 ของช่อง 4 บางขุนพรหม จุดเริ่มต้นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของไทยสู่ 73 ปี อสมท ในปี 2568 มีการเปลี่ยนผ่านพัฒนาการในแวดวงสื่อสารมวลชนหลายยุคหลายสมัยมาอย่างไรบ้าง ติดตามจากรายงาน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน