นศท.กระทำสัตย์ปฏิญาณตน-สวนสนาม

ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร 6 ธ.ค.- นักศึกษาวิชาทหารส่วนกลาง 1,134 คน กระทำสัตย์ปฏิญาณตน-สวนสนาม วันนักศึกษาวิชาทหาร ขณะ “พล.อ.อภิรัชต์” ชี้ นศท.เป็นกำลังพลสำรองคุณภาพ เสริมสร้างกองทัพแข็งแกร่ง กำชับต้องพร้อมทำหน้าที่เมื่อสถานการณ์จำเป็น


พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารส่วนกลางทั้งชายและหญิง จำนวน 1,134 คน เนื่องในวันนักศึกษาวิชาทหาร ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เพื่อให้นักศึกษาวิชาทหารได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงและประชาชนว่า จะยึดอุดมการณ์และดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เพื่อแสดงออกถึงพลังของนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งเป็นกำลังพลสำรองของชาติ โดยมีพล.ท.ปราการ ปทะวานิช ผู้บัญชาการหน่วยบัญชารักษาดินแดน (ผบ.นรด.)ให้การต้อนรับ

พล.อ.อภิรัชต์ เป็นประธานตรวจพลสวนสนามโดยรถยนต์ จากนั้นรับการเคารพที่แท่นพิธีก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหารทั้งชายและหญิง จำนวน 1,134 คน โดยจัดเป็น 4 กรม 8 กองพัน ประกอบด้วย กองพันเดินสวนสนาม 6 กองพัน และกองพันวิ่งสวนสนาม 2 กองพัน พร้อมทั้งร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา


ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า นักศึกษาวิชาทหาร เป็นส่วนหนึ่งในระบบการเตรียมกำลัง และเป็นกำลังพลสำรองของกองทัพ ที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ ร่วมกับกำลังประจำการ เมื่อสถานการณ์จำเป็นต่อการป้องกันประเทศ จึงถือเป็นกำลังสำคัญ ที่จะเสริมสร้างความพร้อมรบให้กับกองทัพให้มีศักยภาพ และเป็นหลักประกันต่อความมั่นคงของชาติ แม้ว่าการศึกษาวิชาทหารครบตามหลักสูตร จะทำให้ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ แต่ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วโลกกลับมาให้ความสำคัญ กับการเสริมสร้างกำลังทหาร และกำลังสำรองให้เผชิญหน้ากับภัยคุกคามรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้งการขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ตลอดจนการแย่งชิงแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งนักศึกษาวิชาทหารทุกคนต้องตระหนัก เพราะทุกคนต้องเจริญเติบโตต่อไป เพื่อประกอบอาชีพที่สุจริต และต้องระลึกเสมอว่า ทุกคนพร้อมที่จะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ทดแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด ที่บูรพกษัตริย์ไทยในอดีตกาล ได้ปกป้องสร้างชาติไทยร่วมกับบรรพบุรุษจนมาเป็นไทยทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง