กรุงเทพฯ 6 ธ.ค.- “ชวน” ประธานสภาฯ ไม่เชื่อเครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์รวน จนปรากฏชื่อ “ขจิตร ชัยนิคม” เป็นองค์ประชุมให้รัฐบาล ระบุ “แมลง-ผี” กดแทนไม่ได้ แนะเจ้าตัวยื่นเรื่องให้สภาฯ ตรวจสอบ วอนสังคมอย่าเหมารวมผู้แทนใช้สภาฯ เป็นเครื่องหากิน เห็นด้วยแก้ข้อบังคับประชุมสภาฯ ใหม่
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อ้างว่าได้เสียบบัตรค้างไว้ในห้องประชุม โดยที่ไม่ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุม แต่ปรากฏชื่อร่วมเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาล ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการกดบัตรแทนกัน ว่า ผู้ที่สงสัยว่ามีคนกดบัตรแทนตัวเอง จะต้องร้องเรียนให้สภาฯ ตรวจสอบ หรือ หากใครสงสัยก็สามารถยื่นเรื่องให้ตรวจสอบได้เช่นกัน ต้องการให้ดูข้อเท็จจริง ไม่ใช่ใครพูดอะไรแล้วต้องเป็นแบบนั้น ต้องดูข้อเท็จจริงว่าคืออะไร
“เครื่องมันกดได้เองหรือ ใครกดแทนใครได้ โดยแท้จริงเจ้าของบัตรต้องเป็นคนกด ผมไม่เคยยินว่า สมัยนี้เครื่องมีปัญหา เรื่องการกดบัตรแทนกัน ผมไม่เคยได้ยินว่ามีแมลง หรืออะไรที่ไม่มีตัวตนมาเสียบแทน การเสียบคาเครื่องไว้เป็นเรื่องปกติ ก็ต้องพิสูจน์กัน บัตรใครลงคะแนนอะไรไป เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง เจ้าตัวก็ต้องร้องมา” นายชวน กล่าว
นายชวน ยังกล่าวถึง ข้อกล่าวหาการซื้องูเห่าในสภาฯ โดยมีตัวเลขสูงถึง 8 หลัก ว่า ไม่ทราบขอเท็จจริง แต่ต้องการให้แยกตัวบุคคลออกจากความเป็นสภาฯ เพราะทุกวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี อย่าเหมารวมทั้งสภา
ส่วนกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เตรียมเสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภา ข้อที่ 85 เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนในการขอนับคะแนนใหม่ แต่ต้องลงมติใหม่ในคราวเดียวกัน ว่า ข้อบังคับที่ใช้อยู่ ได้ผ่านการพิจารณาจาก ส.ส. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อบังคับเดิม ที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน แต่ฝ่ายค้านรับไม่ได้เอง สมัยที่พรรคฝ่ายค้านเป็นรัฐบาล ก็ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ แต่ปัจจุบันกลับรับไม่ได้เสียเอง
“การแก้ไขข้อบังคับเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ยอมรับว่าหลายเรื่องควรแก้ไข เช่น การกำหนดเวลาตั้งกระทู้ที่ไปกระทบกับการพิจารณาญัตติ ทั้งที่กระทู้เป็นเรื่องเฉพาะกรณี แต่ญัตติเป็นเรื่องภาพรวมของประเทศ แต่กลับไปใช้เวลาเรื่องกระทู้มากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการร่างข้อบังคับ เพราะน่าจะมีเจตนารมณ์ มีเหตุผลของการร่าง เพียงแต่อาจจะคาดไม่ถึงสภาพความเป็นจริง” นายชวน กล่าว .-สำนักข่าวไทย