ตลท. 3 ธ.ค. – กสิกรไทยมองค่าเงินบาทปี 63 แข็งค่า แตะ 29.25 บาท/ดอลลาร์ฯ คาดจีดีพีโต 2.7%
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทสิ้นปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินบาทปี 2563 คือ สถานการณ์สงครามการค้า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นต้น จะมีแรงกดดันทำให้ค่าเงินบาทครึ่งปีแรกแข็งค่า 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงกลางปี และสิ้นปีแข็งค่าถึง 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนจีดีพี ไตรมาส 4 เทียบไตรมาส 3 คาดขยายตัวปริ่ม ๆ ที่ 0.01% โดยยังต้องติดตามทิศทางเศรษฐกิจระยะต่อไป พร้อมมองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา 2 ครั้งดอกเบี้ยลงมาอยู่ในระดับต่ำสุด 1.25% เชื่อว่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ไม่น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก เพราะถือเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในประวัติการณ์ ขณะที่ไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากต่างประเทศเป็นแรงกดดันที่อาจจะต้องลดดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าที่คาด
ส่วนมาตรการภาครัฐเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจสำคัญนอกเหนือจากเครื่องยนต์อื่นที่มีอยู่ จากการท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ โดยเชื่อว่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจปลายปีนี้ ทำให้จีดีพีปี 2562 จะขยายตัวได้ที่ 2.6% และปี 2563 ขยายตัว 2.7% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำกว่าจีดีพีโลกที่คาดว่าปีหน้าจะขยายตัวต่ำกว่า 3% สำหรับแนวโน้มการส่งออกปีหน้ายังชะลอตัวต่อเนื่อง คาดปี 2563 หดตัว 2% จากความยืดเยื้อของข้อพิพาททางการค้าที่มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกันในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีน ในการเป็นผู้นำของโลก
สำหรับกรณีดัชนีตลาดหลักทรัพย์วานนี้ (2 ธ.ค.) ปิดตลาดมายืนที่ระดับ 1,569.53 จุด ลดลง 21.06 จุด หรือ 1.32% มูลค่าการซื้อขาย 54,756.50 ล้านบาท นั้น ปัจจัยหลักมาจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนออกมาดีและสงครามการค้า ขณะที่ไทยยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยในประเทศ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง และปัจจัยเสถียรภาพการเมือง ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ภาพรวมต่อไป . – สำนักข่าวไทย