กสิกรไทย มองทรัมป์กดดันเฟดลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ดันบาทแข็งค่าสุดในปีนี้

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. –  กสิกรไทย ประเมิน นักลงทุน-ทรัมป์ กดดันเฟดลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง คาดเงินทุนไหลเข้าไทยเพิ่มดันบาทแข็งค่าสุด 30.50 บาทต่อดอลล์ในปีนี้


นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ได้ปรับคาดการณ์ค่าเงินบาทจากเดิมคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ มาเป็น 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นระดับแข็งค่าสุดในปีนี้ เนื่องจากเห็นสถานการณ์ต่างๆโดยเฉพาะดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนในตลาด และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องการให้ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องติดตามว่า ทรัมป์จะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องสงครามการค้า ซึ่งอาจทำให้เงินบาทหลุด 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯได้

สำหรับค่าเงินบาทปัจจุบันเดือนสิงหาคมอยู่ในระดับแข็งค่าสุดในภูมิภาคถึงร้อยละ 5.4 จากเดือนกรกฎาคมที่แข็งค่าร้อยละ 4.4 ซึ่งที่ผ่านมาแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือร้อยละ 1.50 ต่อปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้ และยังทำให้บาทแข็งขึ้นด้วยซ้ำ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้น โดยมองว่าหากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดดอกเบี้ยลงอีก จะยิ่งทำให้เงินทุนต่างชาติเข้าพันธบัตรระระยาวมากขึ้นด้วย เพราะได้กำไรมากกว่าระยะสั้น และยังต้องพิจารณาเรื่องของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย


นอกจากนี้ มองว่า การที่ต่างชาติซื้อพันธบัตรระยะยาวเพิ่ม ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของ ธปท. ที่ปรับเกณฑ์ยอดบัญชีคงค้างสิ้นวันของเงินฝากต่างชาติจาก 300 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท ทำให้เห็นผลกับพันธบัตรระยะสั้นต่ำกว่า 1 ปี ลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่มีอยู่ 1.2 แสนล้านบาท มาอยู่ที่ 70,000 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม หรือลดลงไปถึง 50,000 ล้านบาท ในขณะที่ต่างชาติถือพันธบัตรระยะยาวปัจจุบันอยู่ที่ 8.76 แสนล้านบาทและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

“พันธบัตรรัฐบาลที่กระทรวงการคลังออกส่วนใหญ่ก็เป็นระยะยาว ทำให้กระทรวงการคลังกับแบงก์ชาติก็ต้องไปคุยกันว่าถ้าหากจะออกมาตรการอะไร จะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งอาจเพิ่มผลกระทบให้กับผู้ประกอบการที่เป็นผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นได้” นายกอบสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามตลาดทุนของไทย คือ เป้าหมายหลักในการนำเงินมาพักไว้เพื่อลดความเสี่ยง เพราะตลาดทุนไทยเป็นทรัพย์สินปลอดภัยที่สุด ด้วยเหตุที่ประเทศไทยนั้นมีเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำ เกินดุลบัญชีเดินสะพัดก็อยู่ในระดับที่สูงด้วยเช่นกัน ทำให้นักลงทุนต่างชาติใช้ประเทศไทยเป็นที่พักเงิน และในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศ (ฟันด์โฟวล์) ยังไหลเข้าตลาดทุนไทยต่อเนื่อง และตลาดตราสารหนี้ยังคงเป็นเป้าหมายหลักที่ต่างชาติจะนำเงินเข้ามาลงทุน . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่ชุ่มฉ่ำทั้งเมือง

ประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือสงกรานต์ล้านนา วันนี้เรียกว่าเต็มไปด้วยสีสันวัฒนธรรมและเหล่าสาวงาม ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ก็ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง โดยเฉพาะรอบคูเมือง และอุโมงค์น้ำแห่งแสงสีเสียง ที่ถนนท่าแพ ยิ่งค่ำยิ่งคึกคัก

สงกรานต์ภูเก็ตคึกคัก คาดสร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 8,200 ล้าน

บรรยากาศสงกรานต์ที่ จ.ภูเก็ต ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวสนุกกันสุดเหวี่ยงตั้งแต่เช้าเป็นต้นมา และคาดว่าบรรยากาศแห่งความสนุกสนานนี้จะยังคงดำเนินต่อเนื่องไปแบบข้ามวันข้ามคืน