กรุงเทพฯ 27 พ.ย. – กสิกรไทยคาดเศรษฐกิจไทยปีชวดยังโตต่ำร้อยละ 2.7 ส่งออกหดตัวต่อ จากปัญหาสงครามการค้า – บาทแข็ง 29.25 บาท
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจะปรับลดอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ลง จากที่คาดว่าขยายตัวร้อยละ 2.8 และคาดว่าการส่งออกจะหดตัวเพิ่มจากที่คาดว่าหดตัวร้อยละ 1 หลังจากจีดีพีไตรมาส 3/2562 ออกมาโตร้อยละ 2.4 ซึ่งต่ำกว่าที่คาด
ส่วนจีดีพีปี 2563 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 2.7 ส่วนการส่งออกติดลบร้อยละ 2 หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งประเทศไทยจะยังได้รับผลกระทบ ผ่านการเป็นห่วงโซ่การผลิตของจีนและความต้องการในตลาดโลกที่ต่ำลง จะส่งผลทำให้การลงทุนภาคเอกชนอ่อนแอลงต่อเนื่องมาถึงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลงไปด้วย แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มองว่าเป็นมาตรการตั้งรับ และเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น เช่น ชิม ช้อป ใช้ และช้อปช่วยชาติ เป็นการดึงกำลังซื้อผู้บริโภคให้เร็วขึ้น แต่หลังจากนั้นกำลังซื้อผู้บริโภคก็จะอ่อนแอลง
ส่วนมาตรการทางการคลัง มีกรอบการใช้ที่จำกัด เพราะหากรัฐบาลมีการสร้างหนี้มากเกินไปอาจจะกระทบทำให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส อาจจะเลื่อนการปรับเพิ่มอันดับเครดิตประเทศไทย
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าจากความเสี่ยงของโลกยังสูง ทำให้นักลงทุนต้องการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ค่าเงินบาท เพราะไทยมีศักยภาพต่างประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งดุลบัญชีเกินดุลสูง คาดเกินดุล 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 และอัตราเงินเฟ้อต่ำ จึงเป็นปัจจัยที่เงินไหลเข้าต่อเนื่อง บวกกับเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) จะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีหน้า ประเมินเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องอยู่ที่ 29.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐช่วงกลางปี และแข็งค่าถึง 29.25 บาทในสิ้นปี 2563 ซึ่งการที่เงินบาทแข็งค่ามากกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันของส่งออกไทย ทำให้สัดส่วนการส่งออกของไทย (มาร์เก็ตแชร์) ในตลาดโลกลดลงจากร้อยละ 1.50 เหลือร้อยละ 1.38
“ประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง สังคมกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หนี้ครัวเรือนสูง เศรษฐกิจยังเปราะบางแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการลดดอกเบี้ย แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร” นายกอบสิทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย