นิสิตจุฬาฯ ตั้งขบวนรอรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

จุฬาฯ 22 พ.ย.-คณะอาจารย์และนิสิตจุฬาฯ ตั้งแถวเพื่อรอต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ที่จะเสด็จมาพบปะผู้นำคริสตชนต่างนิกาย ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าตื่นเต้นและดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะต้อนรับ

ยิ่งเข้าใกล้ช่วงเวลา 15.15 น. ซึ่งเป็นเวลาตามกำหนดการที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส จะเสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งมาถึงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพบปะผู้นำคริสตชนต่างนิกาย ผู้นำ ผู้แทน ผู้ที่นับถือศาสนาอื่นๆ ในประเทศไทย อาทิ อิสลาม พุทธ ซิกส์ ฮินดู พร้อมพบกับบรรดาผู้นำสถาบันอุดมศึกษา คณาจารย์ และนิสิต นักศึกษา บริเวณหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ขณะนี้เหล่าคณะอาจารย์และนิสิตจุฬาฯ จากทั่วทุกคณะมาเตรียมตั้งแถวซักซ้อมเพื่อรอต้อนรับ โดยทุกคนเตรียมธงสัญลักษณ์วาติกัน ธงชาติไทย และธงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไว้เตรียมโบกสะบัดต้อนรับขณะขบวนเสด็จผ่าน แม้อากาศจะค่อนข้างร้อน จากการสอบถามนิสิตที่มาในวันนี้ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอากาศไม่เป็นปัญหาหรืออุปสรรค ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของคณะต้อนรับและอยู่ร่วมในหน้าประวัติศาสตร์  

เช่นเดียวกับเหล่าคริสตชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาจับจองพื้นที่โดยรอบทั้งสองฝั่งถนนตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน เพื่อมารอเฝ้ารับเสด็จ เนื่องจากด้านในห้องประชุมจะอนุญาตเฉพาะผู้แทนองค์กรศาสนา และนิสิต นักศึกษา เท่านั้น การได้แค่มาร่วมรับเสด็จต่างก็เป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว

ขณะที่บรรยากาศภายในหอประชุม เจ้าหน้าที่ได้ให้ตัวแทนทุกกลุ่มศาสนานั่งประจำที่ของตน เพื่อรอเวลาที่สมเด็จพระสันตะปาปามาถึง จากการสอบถามทุกคนที่มาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าวันนี้จะไม่มีกำแพงความต่างระหว่างศาสนามากั้น ทุกคนที่มาในวันนี้ล้วนแล้วมาด้วยความรัก และพร้อมแสดงออกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และพร้อมจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้ต่างเชื้อชาติหรือศาสนาก็ตาม


เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสมาถึงจะทรงปาฐกถาในหัวข้อ “Building bridges for peace and understanding สะพานประมาณแห่งความเข้าใจ และสันติสุข” เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคี สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อส่งเสริมความเป็นครอบครัวในหมู่มวลมนุษยชาติและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ก่อนจะเสด็จขึ้นประทับบนรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับ เพื่อเดินทางต่อไปยังอาสนวิหารอัสสัมชัญบางรักต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย