กรุงเทพฯ 19 พ.ย. – อธิบดีกรมป่าไม้หารือเลขาฯ ส.ป.ก.เกี่ยวกับฟาร์มไก่ “ปารีณา” รอ ส.ป.ก.นัดหมายร่วมนำชี้แนวเขตให้ชัดเจน เร่งเดินหน้า One Map แก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งประเทศ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงผลการหารือร่วมกับนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เกี่ยวกับการครอบครองที่ดินรัฐของ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ทำฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม เนื้อที่ 1,706 ไร่ หมู่ที่ 6 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ว่า ได้ให้ป่าไม้จังหวัดทำงานร่วมกับปฏิรูปที่ดินจังหวัดในคณะกรรมการตรวจสอบการครอบครองที่ดินรัฐ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเป็นประธาน ขณะนี้รอการนัดหมายจาก ส.ป.ก. รวมทั้งรอให้ น.ส.ปารีณา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองนำชี้แนวเขต หากไม่สะดวกสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้
ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งกรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก.เมื่อปี 2554 และพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวร ดังนั้น จะให้ ส.ป.ก.ตรวจสอบพิกัดและกำหนดแนวเขตพื้นที่ปฏิรูปที่ดินให้ชัดเจน จากนั้นส่งเรื่องให้กรมป่าไม้ระบุแนวเขตป่าไม้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นบริเวณดังกล่าวไม่มีปัญหาแนวเขตทับซ้อนของทั้ง 2 หน่วยงาน จึงมั่นใจว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนของประมวลกฎหมายการป่าไม้และการปฏิรูปที่ดินได้โดยไม่ล่าช้า
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ได้รับมอบหมายจากนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เป็นผู้แทนหารือกับเลขาธิการ ส.ป.ก.ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการแก้ปัญหาแนวเขตทับซ้อนที่ดินของรัฐ โดยทั้ง 2 กระทรวงเห็นตรงกันว่าต้องเร่งปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณากรมาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) ให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาเป็นคณะกรรมการร่วม ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส.ป.ก. กรมที่ดิน และกรมธนารักษ์มาจัดทำแนวเขตของแต่ละหน่วยงานให้ตรงกัน โดยจะมีคณะกรรมการระดับจังหวัดทั่วประเทศทำหน้าที่ตรวจสอบแนวเขตร่วมกันแล้วสรุปผลส่งให้คณะกรรมการกลาง เพื่อแก้ปัญหาแนวเขตทับซ้อนให้สำเร็จเร็วที่สุด
นายอรรถพล กล่าวว่า หากปรับปรุง One Map เสร็จจะทราบชัดเจนว่าพื้นที่ใดเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานไหน เพื่อให้การแก้ปัญหาการบุกรุกและครอบครองที่ดินของรัฐทำได้ง่ายขึ้น กรมป่าไม้สามารถป้องกันการบุกรุกแผ้วถางป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวร กรมอุทยานแห่งชาติฯ ป้องกันการบุกรุกพื้นที่อุทยานทำรีสอร์ท เช่นเดียวกับที่ ส.ป.ก.จะสามารถแก้ปัญหาการเข้าใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินโดยมิชอบ จากนั้นจะนำพื้นที่ที่เหมาะสมมาจัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้เข้าอยู่อาศัยและทำกินในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย
