รวบสาวไทยรับจ้างส่งไอซ์มูลค่า 18 ล้านไปญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- 191 รวบสาวไทยเตรียมส่งไอซ์ 1 กก.ซุกซ่อนในปลากระป๋องส่งออกประเทศญี่ปุ่น มูลค่า 18 ล้านบาท 


ตำรวจสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ 191  จับกุม นางสาว ภัทราภรณ์ หรือ ใหม่ สาวะโชติ อายุ 33 ปี นายมนัญชัย หรือหมอก โชติธนาวิวัฒน์  อายุ 43ปี และ นางมณีพลอยไพริน หรือนา โชติธนาวิวัฒน์ อายุ 44ปี  เตรียมขนไอซ์ ไปประเทศญี่ปุ่น โดย จับกุม ได้ ภายใน อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง  พร้อมไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส หุ้มด้วยกระดาษก็อปปี้ ที่มีคาร์บอนเคลือบ ซุกซ่อนภายในปลากระป๋องรวม  10 กระป๋อง น้ำหนักรวม 1 กิโลกรัม

สอบสวนนางสาว ภัทราภรณ์ ให้การรับสารภาพ รับจ้างส่งยาเสพติดจากหญิงไทยที่อาศัยในต่างประเทศให้ไปส่งที่ประเทศญี่ปุ่น   ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกได้ค่าจ้าง 50,000 บาท โดยแฝงตัวไปกับบริษัททัวร์ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าไอซ์ล็อตดังกล่าวส่งไปเพื่อใช้ในกลุ่มคนไทยในต่างประเทศ


เบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและ พยายามสง่ ออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ผ่านทางเพจ “นักสืบพระนคร” ว่ามีหญิงไทย มีพฤติการณ์ในการส่งยาเสพติดออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ จึงได้สืบสวนหาข่าว จนทราบว่าหญิงดังกล่าวชื่อนางสาว ภัทราภรณ์หรือใหม่ มีพฤติการณ์ในการส่งยาเสพติดไปต่างประเทศจริง จึงได้ติดตามดู พฤติการณ์ จนกระทั่งวันที่ 16 พฤศจิกายนพบนางสาวใหม่ออกจากย่านวุฒากาศ 43 และไปพบ กับนายมนัญชัย หรือหมอก   และ นางมณีพลอยไพริน พี่ชายและพี่สะใภ้ เพื่อรับไอซ์ที่แพ็คอยู่มาบรรจุใส่ปลากระป๋อง  ที่ห้องพักรายวันย่านห้วยขวาง ต่อมาได้ออกเดินทาง ไปสนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่ได้ติดตามและประสานความร่วมมือกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด , ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่การท่าฯ  เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เข้ามาภายในอาคารผู้โดยสาร สนามบินดอนเมือง เจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นกระเป๋า จึงเชิญตัวไปสอบสวน  และตรวจค้นพบยาเสพติดดังกล่าว  ทั้งนี้ไอซ์ดังกล่าวหลุดรอดออกไปประเทศญี่ปุ่นจะมีมูลค่า 18 ล้าน 

หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โซเชียลมีเดีย แจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและ ปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน 191, เพจนักสืบพระนคร, เพจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่