“ปารีณา” ตอบปมตรวจสอบที่ดิน ให้เป็นไปตามกระบวนการ

กทม. 14 พ.ย. – ประเด็นที่ดินของ น.ส.ปารีณา ที่มีร้องเรียนให้ตรวจสอบ เจ้าตัวระบุขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ขณะที่หลายหน่วยงานออกมารับลูกเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง


วันนี้ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถึงประเด็นที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมาธิการงบประมาณ พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบที่ดินของเธอ บริเวณหลังเขาสน หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 58 แปลง เนื้อที่ 1,706 ไร่ ว่ามีการครอบครองโดยถูกกฎหมายหรือไม่ โดย น.ส.ปารีณา ตอบเพียงสั้นๆ ว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการ 


ป.ป.ช.ชี้หากกรณีที่ดิน “ปารีณา” มีมูล ก็พร้อมไต่สวน 

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อมีผู้ร้อง ต้องเข้าไปดูว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ เบื้องต้นหากเห็นว่าไม่เข้ากฎหมาย ป.ป.ช. ก็สามารถให้ตำรวจ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ป.ป.ท.) รับไปดำเนินการสอบสวน  ป.ป.ช.จะทำเมื่อเป็นเรื่องสำคัญ และมีความเสียหายเป็นจำนวนมาก หากตรวจรับเรื่องเบื้องต้นแล้วเข้ากับข้อกฎหมายของ ป.ป.ช. หรือมีมูลพอไต่สวนก็ไต่สวน  


นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ระบุว่าต้องไปดูความชัดเจนเรื่องที่ดินว่าใช้สิทธิอะไร ถ้าใช้สิทธิการครอบครอง ต้องเอาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าครอบครองเมื่อไร ถ้าใช้สิทธิ ส.ป.ก. ก็ต้องไปดูกระบวนการได้มาเป็นไปตามกฎหมาย ส.ป.ก.หรือไม่ เรื่องนี้ทราบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อพิสูจน์ทราบว่า น.ส.ปารีณา ครอบครองเป็นจำนวนเท่าไร อีกทั้งให้สอบถามกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ถึงการเข้ามาใช้ประโยชน์ที่ดินของครอบครัว น.ส.ปารีณา หากอยู่มาก่อนประกาศเขตปฏิรูปที่ดินถือว่าไม่ได้บุกรุกที่ ส.ป.ก. จากการให้ถ้อยคำของ น.ส.ปารีณา ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. ระบุว่าครอบครัว น.ส.ปารีณา เข้ามาอยู่ขณะที่ยังเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเสียภาษี ภ.บ.ท.5 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องตรวจสอบด้วยว่าใช้สิทธิอะไรในการเข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือ เรื่องคุณสมบัติครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินว่าเป็นการเกษตรหรือไม่

ส่วนสาเหตุที่เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส เร่งสรุปว่า น.ส.ปารีณา อยู่ในพื้นที่นี้มาก่อนประกาศเขต ส.ป.ก. จึงถือว่าไม่ได้บุกรุกและไม่มีความผิดนั้น ไม่ได้เป็นการปกป้อง แต่เป็นเพราะ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้หารือกับสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. จึงยังไม่เข้าใจข้อกฎหมายของ ส.ป.ก. ว่าบุคคลที่เข้าครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจะต้องพิจารณาคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะห้วงเวลาที่เข้ามาอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก.

พ่อ “ปารีณา” ระบุซื้อที่ดินจากชาวบ้าน

สำหรับการตรวจสอบที่ดิน ขณะนี้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีและเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายได้ไปตรวจแนวเขตที่ดินดังกล่าวแล้วพบว่า แปลงที่เป็นเขตปฏิรูปที่ดินไม่ได้ติดกัน แปลงแรกติดถนนเป็นที่ ส.ป.ก. ส่วนแปลงกลางเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 และ ส.ค.1 แต่จะต้องตรวจสอบการได้มาของหนังสือรับรองสิทธิ์ดังกล่าวด้วย ส่วนแปลงท้ายเป็นที่ ส.ป.ก. ซึ่งกำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีและ ส.ส.ราชบุรี หลายสมัย บิดาของ น.ส.ปารีณา ระบุว่า ซื้อที่ดินต่อมาจากชาวบ้านหลายราย บางแปลงเป็นที่ ภ.บ.ท.5 บางแปลงมี น.ส.3 และ ส.ค.1 ซึ่งครอบครัว น.ส.ปารีณาทราบแล้วว่าที่ดินเคยเสียภาษี ภ.บ.ท.5 ปัจจุบันเป็นที่ ส.ป.ก.แล้ว ซึ่ง น.ส.ปารีณา ยินดีให้ตรวจสอบแนวเขต หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการครอบครองเกิน 500 ไร่ จะใช้มาตรา 44 ยึดคืน แล้วนำมาจัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐ (คทช.)

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้สั่งให้ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ในเขต อ.สวนผึ้ง ซึ่งมีการร้องเรียนว่าครอบครองโดยนายทวี ไกรคุปต์ ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ไม่ทราบ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เป็น รมช.เกษตรฯ หากพบว่า ส.ส.คนไหนมีที่ ส.ป.ก. ต้องตรวจสอบทุกแปลง รวมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติผู้ครอบครองและวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ที่ดินต้องถูกต้องตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด

นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯ ราชบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ว่าได้มีการเชิญป่าไม้จังหวัด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด และนายอำเภอจอมบึง มาซักถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งได้ทราบว่าทางต้นสังกัดของหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงคือ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกรมป่าไม้ ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการ และทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินไปตรวจสอบในบางส่วน เกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน ส่วนทางป่าไม้ทราบว่าได้ลงพื้นที่ไปแล้ว ส่วนทางฝ่ายปกครองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานกรรมการการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งนายอำเภอจอมบึงในฐานะประธาน กปอ. หรือกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับอำเภอก็เป็นเสมือนปลายทางในกระบวนการพิจารณาต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น อนุมัติ พิจารณา เพิกถอนให้ใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพื่อความชัดเจนก่อน 

ส่วนชื่อกรรมสิทธิ์ของที่ดินว่าเป็นของใคร ยังอยู่ระหว่างกำลังตรวจสอบ คือ บริเวณตรงนี้เป็นพื้นที่ดั้งเดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี บางส่วนเป็นพื้นที่เป็นป่าเสื่อมโทรมหมดสภาพเป็นป่า ทางกรมป่าไม้เองได้กันคืน ได้ส่งมอบให้กับปฏิรูปมีการประกาศปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอจอมบึง เดิมตั้งแต่ปี 2521 ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ ต่อมาปี 2554 ได้มีแก้ไขเพิ่มเติมปฏิรูปที่ดินฉบับใหม่ แก้ไขการปรับปรุงแบ่งพื้นที่เป็นรายตำบล  เพราะว่าเดิมมีการประกาศคุมเขตปฏิรูปทั้งอำเภอ จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นปี 2554 สำนักงานการปฏิรูป ส.ป.ก.ใหญ่ จึงตราพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมมา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อราษฎรที่พึงจะมีสิทธิกรรมสิทธิ์ในที่ดินต่างๆ จะได้ดำเนินการได้ โดยหลายพื้นที่ของราชบุรี มีทั้ง อ.จอมบึง อ.บ้านคา หลังจากมีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกานี้แล้วใครที่มีเอกสาร หลักฐาน มีข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เหมาะสม ก็ไม่ขอออกเอกสารสิทธิมาก็เยอะ แต่ถ้ามีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาแบ่งพื้นที่เป็นบางส่วน ส่วนไหนที่ไม่ได้เข้าเขตปฏิรูป ถ้ามีการเดินสำรวจออกโฉนดของกรมที่ดิน สามารถนำรังวัดได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมี ส.ค.1 ใบจองอะไรเลย ขอให้พยานบุคคลข้างเคียงชี้แนวเขต ผู้ปกครองท้องที่ยืนยัน ก็จะได้รับเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินไปได้เลย ซึ่งมีอยู่ในหลายพื้นที่ที่มีลักษณะแบบนี้ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร คงต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ดำเนินการ โดยคงต้องรอสำนักงาน ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง  

ส่วน ภ.บ.ท. เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการเสียภาษีบำรุงท้องที่ ถ้าใครเข้าไปทำกินใช้ประโยชน์ในที่ดินจะมีหน้าที่ที่จะต้องชำระภาษีบำรุงท้องที่ ทางชาวบ้านจะเรียกภาษีดอกหญ้า  

ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา กระทรวงมหาดไทยได้สั่งยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินของรัฐ หรือที่ดินที่ไม่มีหลักฐานเอกสารสิทธิ หลังจากปี 2557 จะไม่มีการออกใบ ภ.บ.ท.5 หรือเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในที่ที่ไม่ใช่โฉนด หรือ น.ส.3  น.ส.3 ก แต่ปัจจุบันกฎหมายภาษีโรงเรือน ภาษีบำรุงท้องที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ เลยเรียกว่ากฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2563 ต่อไปหลักการใหม่คือจะเก็บภาษีหมด คือ หากใครทำประโยชน์ในที่ดินทำกินต่างๆ . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผล

นนทบุรี 15 ก.ค. – จับแล้ว! สีกากอล์ฟ เตรียมนำตัวเข้า บก.ปปป. ขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำกำลังเข้าจับกุม สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147, ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน, รับของโจร ภายในบ้านพักหมู่บ้านหรู ย่านนนทบุรี หลังพบเส้นทางการเงินของอดีตพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โอนเงินเข้าบัญชีสีกากอล์ฟ 3.8 แสนบาท ซึ่งบัญชีโอนเข้าเป็นเงินบัญชีของวัดชูจิตธรรมาราม ขณะนี้ควบคุมตัวสีกากอล์ฟ เข้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมขยายผลไปยังผู้ที่มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ โดยจะมีการตรวจสอบคลิปทุกคลิป […]

ยอมสึกแล้ว “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ

15 ก.ค. – ยอมสึกแล้ว! พระเทพวัชรสิทธิเมธี เซ่นปมฉาวพัวพันสีกากอล์ฟ หลังมีแชตหลุดคุยหวานสีกา แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด ขณะที่เช้านี้ไร้เงาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ล่าสุดมีหนังสือลาออกของพระเทพวัชรสิทธิเมธี จากการเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ส่วนสีกากอล์ฟ มีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป.เพิ่มอีก กรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร หรือเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ยืนยันไม่สึก เพราะไม่เคยมีสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ แต่ไม่ทันข้ามวันมีแชตหลุดคุยหวานสีกากอล์ฟ แถมย้ำอย่าให้ภาพหลุด วันนี้นักข่าวไปที่วัด ปรากฏ “พระล่องหน” ส่วนสีกากอล์ฟมีข่าวจะเข้าให้ปากคำกับ ปปป. เพิ่มเติม เสียงการให้สัมภาษณ์ของ พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) ออกมายืนยันยังทำกิจของสงฆ์ต่อเนื่อง รอพระผู้ใหญ่และตำรวจเรียกไปให้ปากคำ เพราะมั่นใจว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามที่โยงไปถึงสีกากอล์ฟ มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่คิดสึกจากความเป็นพระ ปรากฏว่าช่วงบ่ายๆ มีแชตหลุดของพระเทพวัชรสิทธิเมธีหลุดออกมา ในแชตเป็นการคุยโต้ตอบกับสีกากอล์ฟ และท่านสวมใส่เสื้อยืด ไม่ใช่จีวรพระ โดยการพูดคุยเริ่มจากบอกว่า “ทำอะไรก็คิดถึงตลอด” แล้วตามมาด้วยข้อความว่า “ภาพนี้อย่าให้หลุดนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง” ส่วนสีกากอล์ฟก็ตอบไปคำเดียวว่า “ค่ะ” เช้านี้ไร้เงา “พระเทพวัชรสิทธิเมธี”วันนี้ (15 ก.ค.) นักข่าวไปหาพระเทพวัชรสิทธิเมธี […]

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย