“ปารีณา” ตอบปมตรวจสอบที่ดิน ให้เป็นไปตามกระบวนการ

กทม. 14 พ.ย. – ประเด็นที่ดินของ น.ส.ปารีณา ที่มีร้องเรียนให้ตรวจสอบ เจ้าตัวระบุขอให้เป็นไปตามกระบวนการ ขณะที่หลายหน่วยงานออกมารับลูกเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง


วันนี้ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถึงประเด็นที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะกรรมาธิการงบประมาณ พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบที่ดินของเธอ บริเวณหลังเขาสน หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่ดิน ภ.บ.ท.5 จำนวน 58 แปลง เนื้อที่ 1,706 ไร่ ว่ามีการครอบครองโดยถูกกฎหมายหรือไม่ โดย น.ส.ปารีณา ตอบเพียงสั้นๆ ว่าขอให้เป็นไปตามกระบวนการ 


ป.ป.ช.ชี้หากกรณีที่ดิน “ปารีณา” มีมูล ก็พร้อมไต่สวน 

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เมื่อมีผู้ร้อง ต้องเข้าไปดูว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ เบื้องต้นหากเห็นว่าไม่เข้ากฎหมาย ป.ป.ช. ก็สามารถให้ตำรวจ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ  (ป.ป.ท.) รับไปดำเนินการสอบสวน  ป.ป.ช.จะทำเมื่อเป็นเรื่องสำคัญ และมีความเสียหายเป็นจำนวนมาก หากตรวจรับเรื่องเบื้องต้นแล้วเข้ากับข้อกฎหมายของ ป.ป.ช. หรือมีมูลพอไต่สวนก็ไต่สวน  


นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ระบุว่าต้องไปดูความชัดเจนเรื่องที่ดินว่าใช้สิทธิอะไร ถ้าใช้สิทธิการครอบครอง ต้องเอาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าครอบครองเมื่อไร ถ้าใช้สิทธิ ส.ป.ก. ก็ต้องไปดูกระบวนการได้มาเป็นไปตามกฎหมาย ส.ป.ก.หรือไม่ เรื่องนี้ทราบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว 

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อพิสูจน์ทราบว่า น.ส.ปารีณา ครอบครองเป็นจำนวนเท่าไร อีกทั้งให้สอบถามกำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ถึงการเข้ามาใช้ประโยชน์ที่ดินของครอบครัว น.ส.ปารีณา หากอยู่มาก่อนประกาศเขตปฏิรูปที่ดินถือว่าไม่ได้บุกรุกที่ ส.ป.ก. จากการให้ถ้อยคำของ น.ส.ปารีณา ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. ระบุว่าครอบครัว น.ส.ปารีณา เข้ามาอยู่ขณะที่ยังเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเสียภาษี ภ.บ.ท.5 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องตรวจสอบด้วยว่าใช้สิทธิอะไรในการเข้ามาอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือ เรื่องคุณสมบัติครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินว่าเป็นการเกษตรหรือไม่

ส่วนสาเหตุที่เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส เร่งสรุปว่า น.ส.ปารีณา อยู่ในพื้นที่นี้มาก่อนประกาศเขต ส.ป.ก. จึงถือว่าไม่ได้บุกรุกและไม่มีความผิดนั้น ไม่ได้เป็นการปกป้อง แต่เป็นเพราะ ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้หารือกับสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. จึงยังไม่เข้าใจข้อกฎหมายของ ส.ป.ก. ว่าบุคคลที่เข้าครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจะต้องพิจารณาคุณสมบัติและวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินเป็นสำคัญ ไม่ใช่พิจารณาเฉพาะห้วงเวลาที่เข้ามาอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในที่ดินของ ส.ป.ก.

พ่อ “ปารีณา” ระบุซื้อที่ดินจากชาวบ้าน

สำหรับการตรวจสอบที่ดิน ขณะนี้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีและเจ้าหน้าที่สำนักกฎหมายได้ไปตรวจแนวเขตที่ดินดังกล่าวแล้วพบว่า แปลงที่เป็นเขตปฏิรูปที่ดินไม่ได้ติดกัน แปลงแรกติดถนนเป็นที่ ส.ป.ก. ส่วนแปลงกลางเป็นที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 และ ส.ค.1 แต่จะต้องตรวจสอบการได้มาของหนังสือรับรองสิทธิ์ดังกล่าวด้วย ส่วนแปลงท้ายเป็นที่ ส.ป.ก. ซึ่งกำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีและ ส.ส.ราชบุรี หลายสมัย บิดาของ น.ส.ปารีณา ระบุว่า ซื้อที่ดินต่อมาจากชาวบ้านหลายราย บางแปลงเป็นที่ ภ.บ.ท.5 บางแปลงมี น.ส.3 และ ส.ค.1 ซึ่งครอบครัว น.ส.ปารีณาทราบแล้วว่าที่ดินเคยเสียภาษี ภ.บ.ท.5 ปัจจุบันเป็นที่ ส.ป.ก.แล้ว ซึ่ง น.ส.ปารีณา ยินดีให้ตรวจสอบแนวเขต หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการครอบครองเกิน 500 ไร่ จะใช้มาตรา 44 ยึดคืน แล้วนำมาจัดสรรให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐ (คทช.)

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้สั่งให้ตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ในเขต อ.สวนผึ้ง ซึ่งมีการร้องเรียนว่าครอบครองโดยนายทวี ไกรคุปต์ ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ไม่ทราบ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เป็น รมช.เกษตรฯ หากพบว่า ส.ส.คนไหนมีที่ ส.ป.ก. ต้องตรวจสอบทุกแปลง รวมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติผู้ครอบครองและวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ที่ดินต้องถูกต้องตาม พ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด

นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯ ราชบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ว่าได้มีการเชิญป่าไม้จังหวัด ปฏิรูปที่ดินจังหวัด และนายอำเภอจอมบึง มาซักถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งได้ทราบว่าทางต้นสังกัดของหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงคือ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกรมป่าไม้ ได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการ และทางสำนักงานปฏิรูปที่ดินไปตรวจสอบในบางส่วน เกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน ส่วนทางป่าไม้ทราบว่าได้ลงพื้นที่ไปแล้ว ส่วนทางฝ่ายปกครองในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานกรรมการการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งนายอำเภอจอมบึงในฐานะประธาน กปอ. หรือกรรมการปฏิรูปที่ดินระดับอำเภอก็เป็นเสมือนปลายทางในกระบวนการพิจารณาต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ดินในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น อนุมัติ พิจารณา เพิกถอนให้ใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพื่อความชัดเจนก่อน 

ส่วนชื่อกรรมสิทธิ์ของที่ดินว่าเป็นของใคร ยังอยู่ระหว่างกำลังตรวจสอบ คือ บริเวณตรงนี้เป็นพื้นที่ดั้งเดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี บางส่วนเป็นพื้นที่เป็นป่าเสื่อมโทรมหมดสภาพเป็นป่า ทางกรมป่าไม้เองได้กันคืน ได้ส่งมอบให้กับปฏิรูปมีการประกาศปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอจอมบึง เดิมตั้งแต่ปี 2521 ได้มีพระราชกฤษฎีกาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดินทั้งอำเภอ ต่อมาปี 2554 ได้มีแก้ไขเพิ่มเติมปฏิรูปที่ดินฉบับใหม่ แก้ไขการปรับปรุงแบ่งพื้นที่เป็นรายตำบล  เพราะว่าเดิมมีการประกาศคุมเขตปฏิรูปทั้งอำเภอ จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นปี 2554 สำนักงานการปฏิรูป ส.ป.ก.ใหญ่ จึงตราพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมมา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อราษฎรที่พึงจะมีสิทธิกรรมสิทธิ์ในที่ดินต่างๆ จะได้ดำเนินการได้ โดยหลายพื้นที่ของราชบุรี มีทั้ง อ.จอมบึง อ.บ้านคา หลังจากมีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกานี้แล้วใครที่มีเอกสาร หลักฐาน มีข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เหมาะสม ก็ไม่ขอออกเอกสารสิทธิมาก็เยอะ แต่ถ้ามีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาแบ่งพื้นที่เป็นบางส่วน ส่วนไหนที่ไม่ได้เข้าเขตปฏิรูป ถ้ามีการเดินสำรวจออกโฉนดของกรมที่ดิน สามารถนำรังวัดได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมี ส.ค.1 ใบจองอะไรเลย ขอให้พยานบุคคลข้างเคียงชี้แนวเขต ผู้ปกครองท้องที่ยืนยัน ก็จะได้รับเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินไปได้เลย ซึ่งมีอยู่ในหลายพื้นที่ที่มีลักษณะแบบนี้ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร คงต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ดำเนินการ โดยคงต้องรอสำนักงาน ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง  

ส่วน ภ.บ.ท. เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการเสียภาษีบำรุงท้องที่ ถ้าใครเข้าไปทำกินใช้ประโยชน์ในที่ดินจะมีหน้าที่ที่จะต้องชำระภาษีบำรุงท้องที่ ทางชาวบ้านจะเรียกภาษีดอกหญ้า  

ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา กระทรวงมหาดไทยได้สั่งยกเลิกการเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินของรัฐ หรือที่ดินที่ไม่มีหลักฐานเอกสารสิทธิ หลังจากปี 2557 จะไม่มีการออกใบ ภ.บ.ท.5 หรือเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในที่ที่ไม่ใช่โฉนด หรือ น.ส.3  น.ส.3 ก แต่ปัจจุบันกฎหมายภาษีโรงเรือน ภาษีบำรุงท้องที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ เลยเรียกว่ากฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ.2563 ต่อไปหลักการใหม่คือจะเก็บภาษีหมด คือ หากใครทำประโยชน์ในที่ดินทำกินต่างๆ . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย