อุดรธานี 14 พ.ย.- ครอบครัว “สุขรมย์” ที่อุดรธานียากทำใจสูญเสีย “ทนายวิจัย” ถูกยิงในห้องพิจารณาคดีศาลจันทบุรี ภรรยาเผยเคยฝันแปลก ไม่คิดจะเป็นลางร้าย ส่วนพิธีฌาปนกิจจะมีขึ้น 17 พ.ย.นี้ วัดป่ามัชฌิมวงษ์ฯ
บรรยากาศที่วัดป่ามัชฌิมวงษ์รัตนาราม ม.4 บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ญาติและครอบครัวได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายวิจัย สุขรมย์ อายุ 51 ปี ทนายความ ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา และครอบครัวได้ติดต่อรับศพจากโรงพยาบาลตำรวจกลับมาถึงภูมิลำเนาเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.)
นายสาคร สุขรมย์ อายุ 75 ปี บิดาของทนายวิจัย เล่าว่าลูกชายเกิดที่อุดรธานีเป็นลูกคนโตในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 3 คน หลังจากลูกชายเรียนจบชั้น ม.ปลายได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังเรียนจนไปฝึกเป็นทนายและสร้างครอบครัวอยู่ในกรุงเทพฯ ถือเป็นหลักของครอบครัว เวลานี้ไม่ขอพูดอะไรมาก ขอให้เสร็จสิ้นงานศพก่อน
ด้านนางธนินท์ธร ผัสดี ภรรยาของนายวิจัย กล่าวว่า เสียใจมากที่ต้องสูญเสียหัวหน้าครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 11 ปี ยังไม่มีลูก ที่ผ่านมาสามีมีความตั้งใจในการทำงานด้านกฎหมายอย่างมาก เลิกงานก็กลับบ้าน อีกทั้งยังเป็นที่รักใคร่ของญาติผู้ใหญ่ เป็นคนพูดน้อย และชอบทำบุญ นอกจากเป็นทนายความ ยังเปิดร้านอาหารเหนือมาตั้งแต่ปี 2558 ชื่อร้านอู่ข้าว-อู่น้ำ ย่านวิภาวดี 16 แต่ปิดร้านมา 1 สัปดาห์แล้วก่อนเสียชีวิต เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ต้องการขาย
“เหมือนจะมีลางบอกเหตุมาก่อนหลายเรื่อง เช่น ฝันเห็นโต๊ะปูผ้าสีแดง ด้านบนมองเห็นขาคนวางอยู่ จึงผวาตกใจตื่น ลุกขึ้นมาสวดมนต์ให้ฝันร้ายกลายเป็นดี วันจัดกระเป๋าให้ก่อนไปว่าความที่จันทบุรี พี่วิจัยสั่งไว้ว่าไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไปมาก ให้เอาสูทสีดำ ไม่ต้องเอาสูทสีเทา รองเท้าแตะไม่ต้องเอาไป เพราะคงไปไม่นาน วันเดินทางก็ลากกระเป๋าไปส่งที่รถทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำ และร้านอาหารที่เปิดวันที่ 12 พ.ย.2558 ตรงกับวันเกิดเหตุพี่วิจัยเสียชีวิต ก็ต้องปิดหยุดกิจการ”
นางธนินท์ธร เล่าอีกว่า เสียใจที่สามีจากไปแบบกะทันหัน โดยยังไม่ได้ร่ำลาหรือพูดคุยกัน และอย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ หรือที่อื่น ๆ.-สำนักข่าวไทย