30 ธ.ค. – ยาย “แบงค์ เลสเตอร์” ร้องไห้วางดอกไม้จันทน์ส่งหลานชายเป็นครั้งสุดท้าย ด้าน “เอ็ม เอกชาติ” รับปากจะดูแลยายแทนแบงค์เอง ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น วอนสังคมให้รอดูว่าตนจะดูแลยายตามที่พูดจริงหรือไม่
ที่วัดอยู่ดีบำรุงธรรม หรือวัดออเงิน นายประเสริฐ คันธี อายุ 58 ปี พ่อของแบงค์ เลสเตอร์ ถือรูปลูกชายขึ้นเมรุ เพื่อเตรียมพิธีฌาปนกิจ ก่อนเปิดเผยความรู้สึกก่อนจะเริ่มพิธีการฌาปนกิจว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาตนได้แต่บอกกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือคนที่เคยทำคอนเทนต์กับแบงค์ ให้เข้ามาขอขมากับทางครอบครัว ซึ่งตนไม่เคยว่าด่าทอใคร บอกเพียงแค่ว่าอย่าไปทำคอนเทนต์แบบนี้กับใครอีก ขอให้หยุดทำ ตนอโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เข้ามาขอขมา ไม่ถือโทษโกรธใคร เรื่องผ่านไปแล้วก็ปล่อยผ่านไป ขอแค่อย่ากลับไปทำแบบเดิมกับใครอีก
ส่วนเรื่องของแบงค์ วันนี้ตนได้ไปเคาะโรงศพบอกแบงค์ว่าขอให้ไปดี ไม่ต้องห่วงอะไร เดี๋ยวตนจัดการดูแลยายให้ ที่ผ่านมาตนกับแม่แบงค์ทิ้งลูกไปตั้งแต่ 2 ขวบ ทำให้แบงค์รักยายมากๆ เมื่อคืนได้กลิ่นธูปที่บ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้จุดธูป จึงเชื่อว่าลูกชายมาบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย จากนี้เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาและดำเนินการเรื่องต่างๆ เสร็จสิ้น จะพาน้าและยายไปอยู่ด้วยที่ จ.อุดรธานี เพื่อที่จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิด
ด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พูดคุยกับนายเอกชาติ หรือเอ็ม เอกชาติ เจ้าของงานวันเกิด ขณะที่ทั้งคู่มาร่วมงานฌาปนกิจของแบงค์ เลสเตอร์ ที่เสียชีวิตเนื่องจากถูกบังคับให้ดื่มสุรา โดยกัน จอมพลัง ขอสื่อมวลชนพูดคุยกับนายเอ็ม เป็นการส่วนตัว ก่อนจะพานายเอ็มไปพูดคุยกับยายของแบงค์ เลสเตอร์ โดยใช้เวลาไม่นานก่อนที่นายเอ็ม เอกชาติ จะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้ตนตั้งใจเดินทางมาส่งแบงค์ โดยอยากจะบอกกับแบงค์เป็นครั้งสุดท้ายว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ผมจะดูแลยายให้เหมือนยายผม คำพูดไม่สำคัญ เดี๋ยวผมจะทำให้ดู” โดยนายเอ็มยอมรับว่าการที่จะทำให้เห็นภาพนั้นจะต้องใช้เวลา แต่ยืนยันจะทำให้ดู
นายเอ็ม กล่าวต่อว่า ตนได้คุยกับกัน จอมพลัง เบื้องต้นแล้ว ตนจะดูแลยายเดือนละ 10,000 บาท นอกจากตนเองแล้ว ยังมีของนายเต้ บ้านสวน อีกเดือนละ 3,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 13,000 บาท นอกจากนี้จะจ้างน้าให้ดูแลยายด้วยเดือนละ 8,000 บาท รวมถึงจะสร้างบ้านให้ยายที่ จ.อุดรธานี ซึ่งงบประมาณในการสร้างตั้งไว้ 1 ล้านบาท เป็นเงินที่พวกตนเองรวมกันหลายคนนำมาช่วยเหลือกัน
ส่วนที่ตนเองถูกดำเนินคดีก็เป็นไปตามกฎหมาย ตำรวจทำตามหน้าที่ และกระแสข่าวที่จะมีคดีอื่น เช่น เว็บพนันนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ยืนยันว่าตนเองไม่เคยทำเว็บพนัน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องเก่าเมื่อสองสามปีที่แล้ว ตนเองเคยไปเช่าบ้านของคนทำเว็บพนันจึงโดนไปด้วย เมื่อถามว่าได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ของแบงค์แล้วหรือไม่ นายเอ็ม ระบุว่า คุยแล้ว ตามที่คุยกับกัน จอมพลัง ซึ่งวันนี้ตนใส่กำไล EM ออกมา
ส่วนกระแสสังคมที่ออกมารู้สึกอย่างไร นายเอ็ม กล่าวว่า ตนเองยังเด็ก ไม่ทราบว่าการดื่มสุราจะทำให้เสียชีวิตได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ส่วนตัวเชื่อว่าหากแบงค์ยังมีชีวิตอยู่คงมาช่วยตนเองแล้ว ตนเองอยากให้ดูกรณีนี้เป็นตัวอย่าง เรื่องของการดื่มสุราหากไปจ้างเด็กเอ็นฯ แล้วยื่นเงินพันแก้วสุรา เราก็ผิดด้วย
ในส่วนของเบิร์ด วันว่างๆ ตนเองไม่เคยได้พูดคุย จะเจอกันเฉพาะงานวันเกิด หรือเวลามีงานเท่านั้น โดยการที่เบิร์ดมาร่วมงานนั้น ตนเองไม่ได้จ้างมาแต่อย่างใด เบิร์ดมาฟรี แต่จะพาแบงค์มาด้วยทุกครั้ง ซึ่งตนเองจะให้เงินกับแบงค์อยู่ตลอด แต่ไม่ทราบว่าทั้งคู่มีการแบ่งเงินกันอย่างไร ส่วนนี้ตนเองไม่ทราบจริงๆ โดยตนเคยพบแบงค์เพียง 3 ครั้งเท่านั้น แต่ที่ผ่านมานายเบิร์ดมักถ่ายคลิปแบงค์ท้าทายตนเองมาให้อยู่ตลอด ซึ่งมีหลายคลิปที่ยังค้างอยู่ในแชทระหว่างตนเองกับนายเบิร์ด แต่ตนเองไม่ได้นำมาเผยแพร่ในโซเชียล
ส่วนการที่นายเบิร์ดส่งคลิปของแบงค์มาให้ตลอด จะมีลักษณะเป็นการเชิญชวนให้ตนเองว่าจ้างนายแบงค์หรือไม่ นายเอ็ม กล่าวว่า “ประมาณนั้นมั้งครับ เพราะเวลาเจอน้องก็มักถามผมว่าถ้ากินหมดนี่พี่จะให้อะไร”
อย่างไรก็ตาม นายเอ็มยืนยันว่าคลิปที่เบิร์ดส่งให้ตนเองบ่อยๆ เป็นลักษณะของแบงค์ท้าทายตนเองเท่านั้น ไม่มีภาพของการถูกทำร้ายร่างกาย หรือบังคับให้กินอะไร ซึ่งคลิปลักษณะนั้นถูกถ่ายที่ไหนตนเองก็ไม่ทราบ ตนเองเพิ่งมาเห็นตอนที่มีคนขุดออกมา ตนเองเห็นแล้วก็รับไม่ได้ เพราะมันรุนแรงเกินไป ยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยู่ในกระบวนการของเบิร์ด ไม่เคยรู้ว่าคอนเทนต์เหล่านี้ถูกถ่ายที่ไหนอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากฝากอะไรถึงกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมทำคอนเทนต์รังแกแบงค์หรือไม่ นายเอ็มบอกว่า “ก็มีบทเรียนแล้ว หากยังทำกันต่อก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว มองว่าการที่ทำให้แบงค์ต้องอยู่แบบนี้ ชีวิตคนมันแย่มาก การที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องมาอยู่แบบนี้ ครอบครัวเขาก็ลำบาก”
ส่วนสภาพจิตใจของตนเองหลังจากได้รับการประกันตัวออกมานั้น ต้องขอบคุณศาลที่ให้ตนเองได้ออกมาเยียวยาและเคารพศพแบงค์ เพราะตนเองอยากมาจริงๆ ยืนยันว่าไม่ใช่เพราะบ้านตนเองมีเงินถึงได้ประกันตัว เหตุผลของศาลเป็นไปตามที่ปรากฏในข่าว.
ขณะที่เวลา 14.30 น. กัน จอมพลัง ได้ขึ้นเป็นประธานพิธีฌาปนกิจแบงค์ เลสเตอร์ ก่อนอุ้มรถเข็นยายน้องแบงค์ ขึ้นไปร่วมวางดอกไม้จันทน์ โดยคุณยายและแม่ต่างร้องไห้มีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา หลังเปิดโลงลาลูกเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภายในพิธีมีการเปิดบทเพลงของแอ๊ด คาราบาว ที่แต่งเพลงไว้อาลัยให้แบงค์ เลสเตอร์ โดยเนื้อเพลงมีใจความทำนองเด็กพิเศษคนหนึ่งที่รักยายและต้องการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ด้วยวิธีการขายพวงมาลัยพร้อมร้องแร็ป แต่ถูกสังคมต่ำทรามกลั่นแกล้งเพื่อเรียกยอดวิว ซึ่งเป็นเพลงซึ้งๆ ที่เล่าเรื่องรางของแบงค์ก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ท่ามกลางคนที่รักน้องแบงค์มาร่วมไว้อาลัย อาทิ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมากมาย เช่น หนุ่ม เม้งการยาง, เมลาย รัชดา, เอ็ม เอกชาติ, เสือ ดุสิต, เมย์ สาวชุดแดง
จากนั้นให้ผู้ที่มาร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ และยายเป็นคนสุดท้ายที่วางดอกไม้จันท น์ก่อนจะเคลื่อนร่างเข้าสู่เตาเผา
ด้านนายกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า นายเอ็มแสดงความรับผิดชอบด้วยการช่วยเหลือยาย จากนี้ได้กำชับให้ส่งสลิปลงในกลุ่มไลน์ทุกเดือน และจะให้ไปลงบันทึกต่อหน้าตำรวจที่ สภ.เมืองอุดรธานี ที่สำคัญสังคมจะเป็นคนตัดสินเอง หากเอ็มไม่ทำตามสัญญาที่รับปากไว้ ส่วนนายเบิร์ด วันว่างๆ ตนเห็นว่ายังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ยังไม่กล้าแม้แต่มาขอขมาน้อง ขอขมายาย จึงเห็นว่ายังไม่มีเหตุในการไปยื่นขอประกัน.-415-สำนักข่าวไทย