กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- ผบ. ตร.สั่งจับกุมผู้ก่อเหตุยิงถล่มบ้านใน จ.นครศรีธรรมราช จนเป็นเหตุให้เด็กหญิงวัย 14 ปีเสียชีวิต ให้ได้โดยเร็ว เร่งสร้างความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านคู่อริ ในพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่า เมื่อวาน 9 พ.ย. 62 เวลาประมาณ 16.00น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า ด.ญ.ศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ และเข้ารักษาตัวนั้น เสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบูรณาการกำลังสืบสวน ปูพรม ไล่ล่า กดดัน เพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุนั้น ซึ่งมีความคืบหน้ามาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพิสูจน์และรวบรวมพยานหลักฐาน ต่อศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน และสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน ในข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์“ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ขยายผล จับกุมผู้ต้องหาที่เหลือเพิ่มเติม มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ เร่งสืบสวน ไล่ล่า กดดัน และจับกุม ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว และเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ทำงานกันอย่างระมัดระวังมากที่สุด เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน หากมีการต่อสู้ขัดขืนและประสงค์ถึงชีวิตเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยต้องกระทำไปตามหลักยุทธวิธี ระดับการใช้กำลัง ทั้งนี้ ก็ขอให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนไปยัง วัยรุ่น กลุ่ม แก๊ง ต่างๆให้เลิกพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการกระทำด้วยความคึกคะนอง หรือ ลอกเลียนแบบ หรือ จากการถูกปลูกฝังให้เชื่อในสิ่งผิดๆ ในการใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา ซึ่งอาจส่งผลกระทบในลักษณะแบบนี้ต่อผู้อื่น ควรรู้จักความอดทน อดกั้น หาทางออกของปัญหาอย่างสันติวิธี โดยใช้การพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพราะเมื่อก่อเหตุเช่นนี้ขึ้น อันจะส่งผลเสียต่อตนเองและครอบครัว ซึ่งจะอ้างด้วนความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะเป็นความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง
ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร.191 หรือ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โทร. 075-341-030 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย