ซีพีมีลุ้นได้เข้าประมูลสนามบินอู่ตะเภาต่อ

กรุงเทพฯ 7 พ.ย. – ศาลปกครองสูงสุดยกแรก ธนโฮลดิ้งมีลุ้นได้ไปต่อด้วยเสียงหนุนจากตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุดเสนอให้เพิกถอนการไม่รับเอกสารของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ด้านคณะกรรมการคัดเลือกฯ เสนอที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาข้อพิพาทกับธนโฮลดิ้ง   


ผู้สื่อข่าวรายว่าวันนี้ (7 พ.ย.) ศาลปกครองสูงสุดนั่งพิจารณาคดีบริษัท  ธนโฮลดิ้ง  จำกัด กับพวกรวม 5  คน ฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย  กรณีมีมติไม่รับซองข้อเสนอของธนโฮลดิ้งกับพวกบางรายการ คือ ข้อเสนอตัวจริงกล่องที่  6 ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจ และตัวจริงกล่องที่ 9  ข้อเสนอ ด้านราคา  ในการยื่นข้อเสนอในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ตามหนังสือที่  กพอ.ทร. 182/ 2562ลงวันที่ 10  เม.ย.2562 โดยอ้างว่าบริษัท  ธนโฮลดิ้ง  จำกัด  กับพวกรวม 5  คน ได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว เกินกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ 15.00 น.วันที่ 21 มีนาคม 2562เป็นเหตุให้บริษัท  ธนโฮลดิ้ง  จำกัด  กับพวกรวม 5  คน ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย 

ในการนั่งพิจารณาดคีครั้งแรกที่ห้องพิจารณาคดีที่ 12 ชั้น 3 ที่ศาลปกครอง องค์คณะศาลปกครองสูงสุดได้ให้ทั้งผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้องแถลงต่อศาล โดยผู้รับมอบอำนาจฝ่ายผู้ฟ้อง คือ น.ส.ปะราลี เตชะจงจินตนา ผู้รับมอบอำนาจ เป็นผู้แถลงด้วยวาจาต่อศาล ส่วนฝ่ายคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีพลเรือตรีเกริกไชย วจนาภรณ์ รองปลัดบัญชีทหารเรือในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นผู้แถลงด้วยวาจาต่อศาล  


น.ส.ปะราลี แถลงต่อศาล สรุปได้ว่าการยื่นเอกสารประมูลโครงการนี้ผู้ยื่นประมูลแต่ละรายมีเอกสารมากจึงทยอยขนส่งเข้ามา ซึ่งบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัดและพวก 5 คน ได้ยื่นเอกสารแก่เจ้าหน้าที่ครบถ้วน รวมข้อเสนอตัวจริงกล่องที่  6 ซึ่งเป็นข้อเสนอทางเทคนิคและแผนธุรกิจ และตัวจริงกล่องที่ 9  ข้อเสนอ ด้านราคาด้วย พร้อมชำระค่าธรรมเนียมแล้วโดยทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ท้วงติงเท่ากับเป็นการรับเอกสารตามขั้นตอนที่กำหนด ทั้งนี้ กลุ่มยืนยันว่าหากศาลให้ความเมตตาเปิดเอกสารจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐ ทำให้รัฐสามารถพิจารณาข้อเสนอของทุกรายอย่างกว้างขวางที่สุดตามวัตถุประสงค์ในการประมูลโครงการนี้  

 พลเรือตรีเกริกไชย แถลงต่อศาล โดยยืนยัน ว่าบริษัทธนโฮลดิ้ง และพวกยื่นเอกสารล่าช้า ทั้ง ๆ ที่บริษัทมีความสัมพันธ์กับกลุ่มบริษัทที่ยื่นและชนะประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน น่าจะทราบแนวทางการยื่นประมูลดีว่าต้องยึดถือทำนองเดียวกัน และยึดถือกำหนดเวลาเป็นสำคัญ แต่บริษัทส่งเอกสารกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 มาเกินเวลาที่กำหนดไว้ไม่เกิน 15.00 น. โดยมายื่นเวลาเอกสารเวลา 15.09 น. ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ติดตั้งนาฬิกาไว้ 2 เรือนทั้งระบบอนาล็อคและระบบดิจิทัล เพื่อความเที่ยงตรงไม่ให้เวลาคลาดเคลื่อนแล้ว และบริษัทจำนนว่ายื่นเอกสารเลยเวลา จึงพยายามหาช่องทางให้มีสิทธิ์เข้าร่วมปะมูลโครงการต่อไป ซึ่งการนำส่งเอกสารล่าช้า น่าสังเกตว่าได้มาประเมินคู่ต่อสู้แล้วนำไปเปลี่ยนแปลงข้อเสนอในวินาทีใกล้เสร็จสิ้น  การนำส่งเอกสารล่าช้า โดยอ้างเหตุการจราจาติดขัดทำให้มาไม่ทันเวลา หากศาลกรุณาให้รับเอกสาร ระบบการจัดซื้อจัดจ้างต่อจากนี้ไป จะไม่มีผู้ยื่นประมูลรายยื่นเอกสารตามเวลาอีกต่อไป และจะเป็นบรรทัดฐานเชิงลบ สังคมจะอยู่กันอย่างไร ขณะที่สภาพการจรจรอย่างเดียวกันทำไมผู้เข้าประมูลรายอื่นฝ่ามาได้ยื่นเอกสารทันเวลา  

 พลเรือตรีเกริกไชย ยังระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ได้เสนอให้ศาลปกครองสูงสุด นำการพิจารณาคดีนี้ที่มูลค่าโครงการสูงถึง 270,000 ล้านบาท ขึ้นไปสู่ชั้นการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดแล้ว  


 พลเรือตรีเกริกไชย กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ได้ทำหน้าที่ดีที่สุด โดยได้แถลงด้วยวาจาต่อศาล เพื่อเป็นการสรุปข้อเท็จจริงตามคำแก้อุทธรณ์ซึ่งได้จัดส่งให้ศาลปกครองสูงสุดเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ หากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นประการใด คณะกรรมการคัดเลือกฯ พร้อมปฏิบัติตามคำพิพากษา 

จากนั้นองค์คณะศาลปกครองสูงสุดได้ให้นายเชี่ยวชาญ สุขช่วย ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองชั้นต้นประจำศาลปกครองสูงสุดร่วมแถลงคดี สรุปได้ว่า กรณีนี้เป็นการยื่นเอกสารประมูลโครงการขนาดใหญ่ จึงมีเอกสารมากจำเป็นต้องมีกระบวนการที่ชัดเจน มีกระบวนการตรวจรับ และแจ้งล่วงหน้าด้วย แต่ขั้นตอนของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ไม่มีกระบวนการตรวจรับเอกสารที่ชัดเจน การรับเอกสารจึงไม่ต้องยึดถือเอกสารผ่านเวลา 15.00 น. และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ท้วงติงหรือออกหนังสือรับรองแบบมีเงื่อนไข จึงถือว่าเอกสารครบถ้วนแล้ว และไม่มีการทำรายงานขณะนั้น เช่นเดียวกับการอ้างภาพนิ่งที่บริษัทขนเอกสารฝ่ายจุดลงทะเบียนเวลา 15.09 น.ซึ่งเป็นเวลาภายหลังปิดรับเอกสารแล้วโดยเอกสารเก็บในห้องเนวีคลับ จึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ข้อเสนอของผู้เข้ายื่นประมูลโครงการรายอื่นได้ การที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ อ้างว่า ยื่นเอกสารตอนเวลา 15.09 น. จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญให้ผู้เข้ายื่นประมูลโครงการอีก 2 รายต้องแข่งขันที่ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรม  กล่าวโดยสรุป คือ  เห็นว่าควรเพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่ไม่รับเอกสารของบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด  พร้อมเสนอให้กลับคำพิพากศาลของศาลปกครองชั้นต้นที่ที่ยกคำฟ้องของบริษัท ธนโฮลดิ้ง กรณีคณะกรรมการคัดเลือกฯ ไม่รับเอกสารบางส่วนของบริษัท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคำแถลงของตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองฯ ไม่ผูกพันต่อการพิจารณาขององค์คณะศาลปกครองสูงสุดในการพิจารณาคดีนี้ ขณะที่กระบวนการพิจารณาคดีนี้ทางองค์คณะศาลปกครองสูงสดจะได้นัดพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]