ล่า 3 ผู้ต้องหาแทงตำรวจเจ็บ ยิงขู่ ขึ้นรถหลบหนีศาลพัทยา

พัทยา 4 พ.ย.-โฆษกศาลยุติธรรมเผย 3 ผู้ต้องหาคดียาเสพติดแทงตำรวจ-หนีศาลจังหวัดพัทยา นัดเเนะวางเเผนมาอย่างดี เร่งตรวจสอบที่มาอาวุธปืน-มีด ที่ใช้ก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหา 


เกิดเหตุผู้ต้องหายาเสพติดจำนวน 3 คน ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางหลบหนี เหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี เกิดเหตุผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนและมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใข้อาวุธปืนยิงเบิกทาง หลังได้รับแจ้งจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โพธิ์พันธ์ ตำรวจสัตหีบ มาช่วยราชการที่ศาลจังหวัดพัทยา ถูกแทงเข้าที่ซี่โครงอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน นั้น ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายหน่อย หรือ ต้น นิลเทศ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด Mr.BART ALLEN  HELMUS อายุ 39 ปี สัญชาติ อเมริกา และ น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) 


โดยช่วงเวลา 14.50 น.ได้มีคนแต่งตัวคล้ายหญิงสวมเสื้อสีฟ้าเข้ามาเยี่ยมในห้องคุมตัวผู้ต้งหาเพื่อส่งไปฝากขัง จากนั้นช่วงเวลา 14.59 น.คนที่ใส่เสื้อฟ้าคล้ายหญิงได้รีบออกจากบริเวณห้องขังข้างล่างศาลก่อนที่เวลาเพียง 10 วินาที ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินเข้าหา  ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โดย นายหน่อย ได้ถืออาวุธปืน จ่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามเข้าแย่งปืน ส่วน Mr.BART จึงได้วิ่ง และใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนทำการยื้อแย่งกัน หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้วิ่งออกมาทางประตูห้องขังที่ล็อกประตูไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าหน้าประตู เมื่อเห็นคนร้ายทั้ง 3 คน วิ่งมาและมีอาวุธปืนจึงรีบกระโดดหมอบพื้น ส่วนนายหน่อย ใช้อาวุธปืนจ่อไปทาง ร.ต.อ.ฐนเมศร์ ที่ถูกแทงเพื่อให้โยนกุญแจมา ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะนำกุญแจเปิดแล้ววิ่งออกจากศาลจังหวัดพัทยา โดยมีนายหน่อย ยิงเปิดทางเป็นระยะ ก่อนวิ่งขึ้นรถ อีซูซุ โหลดเตี้ย สีบรอนด์ หลบหนีไป  

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลทั้งหมดถึงความเป็นมา พร้อมกับให้วิทยาการเวรตรวจร่องรอยลายนิ้วมือต่างๆในที่เกิดเหตุ ด้าน พต.ต.ต.ปราการ ประจง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็น 2 เคส เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 เคส น่าจะเชื่อมโยงกัน โดยได้ไล่กล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้วพร้อมทั้งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ออกตามจุดที่ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจะหลบหนี เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่านำอาวุธเข้ามาได้อย่างไร ขณะที่ รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าได้พยายามห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ด้านเจ้าของร้านกาแฟ ผู้เห็นเหตการณ์ บอกว่าได้พยายามเรียกให้คนที่อยู่ด้านนอกหลบเข้ามาในร้านเพราะกลัวจะโดนจับไปเป็นตัวประกัน


สำหรับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายประกอบด้วยนายหน่อย หรือต้น นิลเทศ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง ได้แก่ ยาบ้า 229,800 เม็ด ยาอี 100 เม็ด ยาไอซ์ จาก สภ.บ่อวิน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแทงและใช้อาวุธปืนยิง และนายบาส หรือบาร์ค อาเลน เฮลมัส สัญชาติอเมริกัน พร้อมด้วย น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ คดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 1 ก.ก.และ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานสถานีตำรวจพื้นที่ข้างเคียงบูรณาการสกัดจับ ตลอดจนเร่งระดมปูพรม ตรวจค้น สืบสวนหาข่าวตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ใช้กบดาน เพื่อติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหามีอาวุธปืนทำร้ายเจ้าหน้าที่และสร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน โดยกำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ใกล้เคียง ควบคุมบัญชาการ การทำงานและกำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก

ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขัง เกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำหรับพี่น้องประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือมีข้อมูลของคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.เมืองพัทยา โทร. 038-420-804 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าพฤติการณ์ของ 3 ผู้ต้องหา มีการนัดเเนะวางเเผนกันมาอย่างดี ส่วนปืนกับมีดที่ใช้นั้นต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่ามาจากไหน ถึงจะแน่ชัดได้ว่าหลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้นไปถึงมือกลุ่มผู้ต้องหาได้อย่างไร ส่วน ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ ที่ทำหน้าที่ดูเเลบริเวณศาลนั้นนอกจากถูกเเทงเเล้วยังได้ถูกยิงด้วย ตอนนี้อาการสาหัสมาก เท่าที่ทราบคือคนที่ยิงตำรวจศาลเป็นคนไทย ส่วนคนต่างชาติเป็นคนเเทง หลังจากก่อเหตุกับตำรวจคนแรกไปแล้วยังยิงขู่อีก 1 นัด ทำให้ตำรวจศาลอีกนายต้องยอมเปิดประตู เพื่อออกมาได้เเล้วคนร้ายก็ยิงเปิดทางจนวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ชลบุรีเร่งสกัดทุกเส้นทางตามจับ 3 ผู้ต้องหาก่อเหตุอุกอาจที่ศาลพัทยา

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]