ล่า 3 ผู้ต้องหาแทงตำรวจเจ็บ ยิงขู่ ขึ้นรถหลบหนีศาลพัทยา

พัทยา 4 พ.ย.-โฆษกศาลยุติธรรมเผย 3 ผู้ต้องหาคดียาเสพติดแทงตำรวจ-หนีศาลจังหวัดพัทยา นัดเเนะวางเเผนมาอย่างดี เร่งตรวจสอบที่มาอาวุธปืน-มีด ที่ใช้ก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหา 


เกิดเหตุผู้ต้องหายาเสพติดจำนวน 3 คน ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางหลบหนี เหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี เกิดเหตุผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนและมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใข้อาวุธปืนยิงเบิกทาง หลังได้รับแจ้งจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โพธิ์พันธ์ ตำรวจสัตหีบ มาช่วยราชการที่ศาลจังหวัดพัทยา ถูกแทงเข้าที่ซี่โครงอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน นั้น ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายหน่อย หรือ ต้น นิลเทศ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด Mr.BART ALLEN  HELMUS อายุ 39 ปี สัญชาติ อเมริกา และ น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) 


โดยช่วงเวลา 14.50 น.ได้มีคนแต่งตัวคล้ายหญิงสวมเสื้อสีฟ้าเข้ามาเยี่ยมในห้องคุมตัวผู้ต้งหาเพื่อส่งไปฝากขัง จากนั้นช่วงเวลา 14.59 น.คนที่ใส่เสื้อฟ้าคล้ายหญิงได้รีบออกจากบริเวณห้องขังข้างล่างศาลก่อนที่เวลาเพียง 10 วินาที ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินเข้าหา  ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โดย นายหน่อย ได้ถืออาวุธปืน จ่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามเข้าแย่งปืน ส่วน Mr.BART จึงได้วิ่ง และใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนทำการยื้อแย่งกัน หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้วิ่งออกมาทางประตูห้องขังที่ล็อกประตูไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าหน้าประตู เมื่อเห็นคนร้ายทั้ง 3 คน วิ่งมาและมีอาวุธปืนจึงรีบกระโดดหมอบพื้น ส่วนนายหน่อย ใช้อาวุธปืนจ่อไปทาง ร.ต.อ.ฐนเมศร์ ที่ถูกแทงเพื่อให้โยนกุญแจมา ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะนำกุญแจเปิดแล้ววิ่งออกจากศาลจังหวัดพัทยา โดยมีนายหน่อย ยิงเปิดทางเป็นระยะ ก่อนวิ่งขึ้นรถ อีซูซุ โหลดเตี้ย สีบรอนด์ หลบหนีไป  

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลทั้งหมดถึงความเป็นมา พร้อมกับให้วิทยาการเวรตรวจร่องรอยลายนิ้วมือต่างๆในที่เกิดเหตุ ด้าน พต.ต.ต.ปราการ ประจง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็น 2 เคส เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 เคส น่าจะเชื่อมโยงกัน โดยได้ไล่กล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้วพร้อมทั้งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ออกตามจุดที่ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจะหลบหนี เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่านำอาวุธเข้ามาได้อย่างไร ขณะที่ รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าได้พยายามห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ด้านเจ้าของร้านกาแฟ ผู้เห็นเหตการณ์ บอกว่าได้พยายามเรียกให้คนที่อยู่ด้านนอกหลบเข้ามาในร้านเพราะกลัวจะโดนจับไปเป็นตัวประกัน


สำหรับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายประกอบด้วยนายหน่อย หรือต้น นิลเทศ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง ได้แก่ ยาบ้า 229,800 เม็ด ยาอี 100 เม็ด ยาไอซ์ จาก สภ.บ่อวิน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแทงและใช้อาวุธปืนยิง และนายบาส หรือบาร์ค อาเลน เฮลมัส สัญชาติอเมริกัน พร้อมด้วย น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ คดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 1 ก.ก.และ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานสถานีตำรวจพื้นที่ข้างเคียงบูรณาการสกัดจับ ตลอดจนเร่งระดมปูพรม ตรวจค้น สืบสวนหาข่าวตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ใช้กบดาน เพื่อติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหามีอาวุธปืนทำร้ายเจ้าหน้าที่และสร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน โดยกำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ใกล้เคียง ควบคุมบัญชาการ การทำงานและกำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก

ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขัง เกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำหรับพี่น้องประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือมีข้อมูลของคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.เมืองพัทยา โทร. 038-420-804 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าพฤติการณ์ของ 3 ผู้ต้องหา มีการนัดเเนะวางเเผนกันมาอย่างดี ส่วนปืนกับมีดที่ใช้นั้นต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่ามาจากไหน ถึงจะแน่ชัดได้ว่าหลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้นไปถึงมือกลุ่มผู้ต้องหาได้อย่างไร ส่วน ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ ที่ทำหน้าที่ดูเเลบริเวณศาลนั้นนอกจากถูกเเทงเเล้วยังได้ถูกยิงด้วย ตอนนี้อาการสาหัสมาก เท่าที่ทราบคือคนที่ยิงตำรวจศาลเป็นคนไทย ส่วนคนต่างชาติเป็นคนเเทง หลังจากก่อเหตุกับตำรวจคนแรกไปแล้วยังยิงขู่อีก 1 นัด ทำให้ตำรวจศาลอีกนายต้องยอมเปิดประตู เพื่อออกมาได้เเล้วคนร้ายก็ยิงเปิดทางจนวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ชลบุรีเร่งสกัดทุกเส้นทางตามจับ 3 ผู้ต้องหาก่อเหตุอุกอาจที่ศาลพัทยา

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายเผารถ-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี

ปัตตานี 26 มิ.ย. – คนร้ายเผารถ อบต.-วางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดใน จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่เขาตรึงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเพิ่มความเข้มงวดการลาดตระเวน เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นในพื้นที่อำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี หลายจุด มีรายงานว่า รถของ อบต.แป้น ถูกลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย และในพื้นที่โดยรอบยังพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด ทั้งที่ ม.3 ต.กะรุบี ม.8 ต.ตะโละดือรามัน และ ม.4 ต.ปล่องหอยอำเภอกะพ้อ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้ เข้าตรึงพื้นที่ และดำเนินการเก็บกู้ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและสอดส่องตามจุดเสี่ยง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และอยู่ระหว่างการสืบสวนถึงมูลเหตุจูงใจ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง และหากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุผิดปกติ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]