ล่า 3 ผู้ต้องหาแทงตำรวจเจ็บ ยิงขู่ ขึ้นรถหลบหนีศาลพัทยา

พัทยา 4 พ.ย.-โฆษกศาลยุติธรรมเผย 3 ผู้ต้องหาคดียาเสพติดแทงตำรวจ-หนีศาลจังหวัดพัทยา นัดเเนะวางเเผนมาอย่างดี เร่งตรวจสอบที่มาอาวุธปืน-มีด ที่ใช้ก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจระดมกำลังปูพรมค้นหา 


เกิดเหตุผู้ต้องหายาเสพติดจำนวน 3 คน ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางหลบหนี เหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น.ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี เกิดเหตุผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธปืนและมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนใข้อาวุธปืนยิงเบิกทาง หลังได้รับแจ้งจึงได้รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อ ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โพธิ์พันธ์ ตำรวจสัตหีบ มาช่วยราชการที่ศาลจังหวัดพัทยา ถูกแทงเข้าที่ซี่โครงอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน นั้น ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายหน่อย หรือ ต้น นิลเทศ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด Mr.BART ALLEN  HELMUS อายุ 39 ปี สัญชาติ อเมริกา และ น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ อายุ 30 ปี ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) 


โดยช่วงเวลา 14.50 น.ได้มีคนแต่งตัวคล้ายหญิงสวมเสื้อสีฟ้าเข้ามาเยี่ยมในห้องคุมตัวผู้ต้งหาเพื่อส่งไปฝากขัง จากนั้นช่วงเวลา 14.59 น.คนที่ใส่เสื้อฟ้าคล้ายหญิงได้รีบออกจากบริเวณห้องขังข้างล่างศาลก่อนที่เวลาเพียง 10 วินาที ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินเข้าหา  ร.ต.อ.ฐนเมศร์ โดย นายหน่อย ได้ถืออาวุธปืน จ่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามเข้าแย่งปืน ส่วน Mr.BART จึงได้วิ่ง และใช้อาวุธมีดแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนทำการยื้อแย่งกัน หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้วิ่งออกมาทางประตูห้องขังที่ล็อกประตูไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าหน้าประตู เมื่อเห็นคนร้ายทั้ง 3 คน วิ่งมาและมีอาวุธปืนจึงรีบกระโดดหมอบพื้น ส่วนนายหน่อย ใช้อาวุธปืนจ่อไปทาง ร.ต.อ.ฐนเมศร์ ที่ถูกแทงเพื่อให้โยนกุญแจมา ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะนำกุญแจเปิดแล้ววิ่งออกจากศาลจังหวัดพัทยา โดยมีนายหน่อย ยิงเปิดทางเป็นระยะ ก่อนวิ่งขึ้นรถ อีซูซุ โหลดเตี้ย สีบรอนด์ หลบหนีไป  

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลทั้งหมดถึงความเป็นมา พร้อมกับให้วิทยาการเวรตรวจร่องรอยลายนิ้วมือต่างๆในที่เกิดเหตุ ด้าน พต.ต.ต.ปราการ ประจง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่าสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็น 2 เคส เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 เคส น่าจะเชื่อมโยงกัน โดยได้ไล่กล้องวงจรปิดทั้งหมดแล้วพร้อมทั้งกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ออกตามจุดที่ว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนจะหลบหนี เบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนว่านำอาวุธเข้ามาได้อย่างไร ขณะที่ รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าได้พยายามห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง ด้านเจ้าของร้านกาแฟ ผู้เห็นเหตการณ์ บอกว่าได้พยายามเรียกให้คนที่อยู่ด้านนอกหลบเข้ามาในร้านเพราะกลัวจะโดนจับไปเป็นตัวประกัน


สำหรับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายประกอบด้วยนายหน่อย หรือต้น นิลเทศ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครอง ได้แก่ ยาบ้า 229,800 เม็ด ยาอี 100 เม็ด ยาไอซ์ จาก สภ.บ่อวิน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแทงและใช้อาวุธปืนยิง และนายบาส หรือบาร์ค อาเลน เฮลมัส สัญชาติอเมริกัน พร้อมด้วย น.ส.สิรินภา วิเศษฤทธิ์ คดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 1 ก.ก.และ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าขณะนี้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานสถานีตำรวจพื้นที่ข้างเคียงบูรณาการสกัดจับ ตลอดจนเร่งระดมปูพรม ตรวจค้น สืบสวนหาข่าวตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ใช้กบดาน เพื่อติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ผู้ต้องหามีอาวุธปืนทำร้ายเจ้าหน้าที่และสร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน โดยกำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ใกล้เคียง ควบคุมบัญชาการ การทำงานและกำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก

ส่วนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนี หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัย จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขัง เกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำหรับพี่น้องประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือมีข้อมูลของคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โทร.1599 หรือ สภ.เมืองพัทยา โทร. 038-420-804 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าพฤติการณ์ของ 3 ผู้ต้องหา มีการนัดเเนะวางเเผนกันมาอย่างดี ส่วนปืนกับมีดที่ใช้นั้นต้องขอตรวจสอบรายละเอียดก่อนว่ามาจากไหน ถึงจะแน่ชัดได้ว่าหลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจค้นไปถึงมือกลุ่มผู้ต้องหาได้อย่างไร ส่วน ร.ต.อ.ธนะเมศฐ์ ที่ทำหน้าที่ดูเเลบริเวณศาลนั้นนอกจากถูกเเทงเเล้วยังได้ถูกยิงด้วย ตอนนี้อาการสาหัสมาก เท่าที่ทราบคือคนที่ยิงตำรวจศาลเป็นคนไทย ส่วนคนต่างชาติเป็นคนเเทง หลังจากก่อเหตุกับตำรวจคนแรกไปแล้วยังยิงขู่อีก 1 นัด ทำให้ตำรวจศาลอีกนายต้องยอมเปิดประตู เพื่อออกมาได้เเล้วคนร้ายก็ยิงเปิดทางจนวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่หลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ชลบุรีเร่งสกัดทุกเส้นทางตามจับ 3 ผู้ต้องหาก่อเหตุอุกอาจที่ศาลพัทยา

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน