ทำเนียบฯ 1 พ.ย.- ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบแนวทางพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รับทราบผลการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจยังดี
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง แถลงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2562 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมครบวงจร แบ่งเป็น 7 ด้าน รวม 13 มาตรการ เช่น การส่งสริมให้เข้าถึงแหล่ง โดยกำหนดให้ สามารถนำเงินที่ SME ชำระคืนไปหมุนเวียนเป็นสินเชื่อ เงินอุดหนุน สำหรับรายอื่นต่อไป เห็นชอบให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมรายย่อย หรือ บสย.ค้ำประกันสินเชื่อโดยตรงให้กับ SME เริ่มต้นวงเงินจำกัดไม่เกิน 1,500 ล้านบาท หรือ การเพิ่มทักษะการขาย พัฒานาสินค้า ฟื้นฟูกิจการ
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้รับทราบผลสรุปการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่ก่อนหน้านี้ มีการออก ม.44 ให้ตั้งคณะกรรมการไปศึกษาหาแนวทางออกของปัญหาสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่ถึง 3 สัมปทาน ทำให้เกิดปัญหาคือ การขึ้นลง 3 ครั้ง และค่าโดยสารมีอัตราที่สูง การพิจารณาของที่ประชุมหัวใจคือ ให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย ให้สามารถขึ้นรถได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และหลังจากนั้นค่าโดยสารจะต้องไม่แพงเกินไปให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ เท่าที่มีการเสนอมาเชื่อว่า สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ตามสัญญาสัมปทานจะขยายไปอีก 30 ปี และค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หลักการค่าโดยสารได้นำเสนอ ครม.เศรษฐกิจเป็นค่าโดยสารที่ประชาชนเข้าถึงได้ และห้ามชาร์จเพิ่ม และต้องอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดต้องให้ทาง กทม.เสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป
“ในที่ประชุมทางกรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย ได้นำข้อสรุปทั้งหมด เสนอให้ที่ประชุมรับทราบ รวมถึงการรับทราบผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ช่วงสะพานตากสิน และการต่อสัปทานการเดินรถ ซึ่งรายละเอียดของข้อสรุปทั้งหมดไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ รอให้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก่อน ซึ่งจะยังไม่ทันการประชุม ครม.วันที่ 6 พ.ย. แต่เชื่อว่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน” นายกอบศักดิ์กล่าว
นายกอบศักดิ์ ยังเผยถึงการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจ ว่าจะขอรอการประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 จากทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่ ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณาว่า จำเป็นต้องมีมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีอีกหรือไม่ ซึ่งทางที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจยังมองที่เป้าเติบโตที่ร้อยละ 2.7 -3.2
“สภาพัฒน์จะมีข้อมูลสุดท้าย ว่าไตรมาสที่ 3 เท่าไหร่ ในวันที่ 18 พ.ย. และเมื่อเห็นข้อมูลดังกล่าวจะสามารถประมาณการล่วงหน้าทั้งปีเท่าไหร่ ในจุดนั้น ครม.เศรษฐกิจก็จะเทียบจากประมาณการเดิมที่ตั้งไว้ 2.7-3.2 และรู้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ ซึ่งจะได้ตัดสินใจ ว่าต้องใส่อะไรเพิ่มหรือไม่” นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจว่า ภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตร และการส่งออกดีขึ้น จากไตรมาส 3 เทียบไตรมาส 2 แต่ภาคอุตสาหกรรม ชะลอตัวลงจากการที่ประชาชนรอการซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกมาช่วงปลายปีนี้ ประกอบกับภาคการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ตามการประเมินการเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่รวมมาตรการชิม ช้อป ใช้ ที่เริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม จึงยังไม่เห็นผลจากมาตรการดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย