ทำเนียบฯ 1 พ.ย.-รัฐบาลห่วงโรคซึมเศร้า พร้อมผลักดันการดูแลสุขภาพจิตคนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 1-7 พฤศจิกายนของทุกปี รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ โดยปี 2562 กระทรวงสาธารณสุข โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยกรมสุขภาพจิต ได้มีการรณรงค์ภายใต้แนวคิด “สุขภาพจิตไทย …ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ตามสโลแกนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีเป้าประสงค์ป้องกันโรคซึมเศร้า ให้คนไทยหันมาสนใจคนรอบข้าง ซึ่งเริ่มได้จากจุดเล็ก ๆ เช่น ครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน เนื่องจากสังคมที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว บวกกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจุบันนั้น ส่งผลให้ประชาชนเกิดความเครียด อันนำไปสู่โรคซึมเศร้า ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เฉลี่ยแล้ว 9.55 นาที จะมีคนพยายามฆ่าตัวตาย 1 คน ขณะที่ 2 ชั่วโมงจะมีคนฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน ซึ่งรัฐบาลถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ จึงอยากเชิญชวนสังคมช่วยกันป้องกันการฆ่าตัวตาย ซึ่งทำได้หลายวิธี รวมถึงการเอาใจใส่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยต้องหันมาสนใจคนรอบข้างมากขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่าเฉลี่ยแล้วคนไทยมีความพยายามฆ่าตัวตาย 53,000 คนต่อปี ฆ่าตัวตายได้สำเร็จ ประมาณ 4,000 คนต่อปี ส่วนคนที่ฆ่าตัวตายไม่สำเร็จนั้น มีแนวโน้นที่จะพยายามกลับมาฆ่าตัวตายซ้ำอีก ทั้งนี้ หากดูตัวเลขการตายอย่างผิดธรรมชาติของประชากรไทย พบว่าอันดับ 1 อุบัติเหตุ ส่วนอันดับ 2 คือการฆ่าตัวตาย ขณะที่อันดับ 3 คือการฆ่ากันตาย จึงจะเห็นว่า การฆ่าตัวตายนั้น มีตัวเลขเฉลี่ยที่สูงกว่าการฆ่ากันตาย
อนึ่ง กรมสุขภาพจิต จะจัดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2562 สุขภาพจิตไทย…ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 ณ ลานไนน์สแควร์ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 กทม. โดยจะมีการให้คำปรึกษา และให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมหรือรับคำปรึกษา ภายงานได้ตามวันดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย