ก.กลาโหม 30 ต.ค.-พล.อ.ประยุทธ์ ประชุมสภากลาโหมสั่งผบ.เหล่าทัพเตรียมข้อมูลชี้แจงการใช้งบประมาณต่อสภา เน้นทำความเข้าใจในสภา ป้องกันการเข้าใจผิด พร้อมกำชับดูแลทหารใหม่ให้เหมือนคนในครอบครัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ประจำเดือนตุลาคม ที่กระทรวงกลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลังการประชุม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม สรุปผลการประชุมสภากลาโหม ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม ทุกเหล่าทัพสนับสนุนการจัดพิธีกฐินพระราชทาน ที่วัดอินทารามวรวิหารในวันที่ 7 พย.นี้ โดยให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุน พร้อมเชิญร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะเดียวกันยังกำชับการฝึกทหารใหม่ผลัดที่ 2 /2562 ให้ทุกเหล่าทัพปฎิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัดระมัดระวังอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และการลงโทษวินัยทางทหารต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ ดูแลทหารใหม่ให้เหมือนคนในครอบครัว รวมถึงการให้ใช้สื่อออนไลน์ อย่างเหมาะสม ไม่ให้ครอบครัวเป็นห่วงกังวล
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมข้อมูลการชี้แจงการใช้จ่ายงบประมาณในกรอบการทำงานของสภา โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็น หลักการและเหตุผล ทั้งนี้ในการชี้แจงกับสภา หรือกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาตามข้อกฎหมาย จะไม่ให้ข้อมูลผ่านสื่อ เนื่องจากจะทำให้เกิดความสับสนกับประชาชน ที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ แต่จะมุ่งเน้น ชี้แจงทำความเข้าใจผ่านกลไกของสภา โดยการชี้แจงจะพิจารณาจากข้อกฎหมายเป็นหลักว่าเรื่องใดจะส่งผู้บัญชาการเหล่าทัพหรือตัวแทนไปชี้แจง
ก่อนหน้านี้ พลเอกพรพิพัฒน์ เบญจศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งแรก ในปีงบประมาณ 2563 ที่กระทรวงกลาโหม โดยมอบนโยบายให้ทุกเหล่าทัพสร้างความเข้าใจในการกำหนดนโยบายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 6 ด้าน อาทิ รักษาความมั่นคงของรัฐ พิทักษ์ รักษาเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการพัฒนาประเทศช่วยเหลือประชาชน ทั้งการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ การบรรเทาสาธารณภัย พร้อมกำชับให้เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหนาว นอกจากนี้ยังให้ติดตามตรวจสอบผู้กระทำผิดเผยแพร่ข้อมูล บ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ ในเว็บไซต์ และในโซเซียลมีเดีย ที่สร้างข้อมูลอันเป็นเท็จและปลุกปั่น สร้างความขัดแย้งในสังคม โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด .-สำนักข่าวไทย