ตาก 23 ต.ค. – รมช.เกษตรฯ เปิดด่านแม่สอด นำเข้าวัวจากเมียนมา เดินหน้าลุยโครงการโคเนื้อสร้างรายได้ ระยะแรกนำเข้า 500,000 ตัว ให้เกษตรกรเลี้ยงส่งขายตลาดจีนเป็นวัวมีชีวิต ดันราคาสูง 95-100 บาทต่อกิโลกรัม ชี้รายได้ดีกว่าเพาะปลูก
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางไปเปิดด่านแม่สอด จังหวัดตาก ชายแดนไทย-เมียนมา หลังจากสั่งปิดมา 4 สัปดาห์ จนขณะนี้ส่งผลให้ราคาวัวของตลาดในประเทศขยับตัวสูงขึ้น ช่วงแรกของโครงการโคเนื้อสร้างรายได้จะนำเข้าโคจากเมียนมาน้ำหนักตัวละ 200 กิโลกรัม เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นำไปขุน 3-4 เดือน เพื่อให้ได้น้ำหนักเพิ่มเป็น 400 กิโลกรัม ตลาดจีนรับซื้อโคมีชีวิต 95-100 บาทต่อกิโลกรัม
นายประภัตร กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมสมาคม ชมรม และกลุ่มผู้ค้าวัวรายใหญ่ทั่วประเทศ 24 ราย เตรียมรับซื้อวัวที่เกษตรกรขุนแล้วส่งออกไปจีน โดยกำชับให้กรมปศุสัตว์ดูแลการซื้อขายวัวต้องชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องชั่งมาตรฐาน ไม่ให้ใช้การประเมินด้วยสายตาของนายฮ้อยหรือพ่อค้าวัวท้องถิ่น เกษตรกรจะถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมทั้งตั้งคอกกลางในชุมชน หากเกษตรกรรายใดยังเตรียมคอกเลี้ยงไม่พร้อมสามารถนำมาฝากวัวไว้ก่อน เมื่อทำคอกเสร็จนำไปขุนต่อได้ ตนแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการช่วยกันแก้ไขข้อข้องทุกขั้นตอน เพื่อให้วัวมีคุณภาพตามที่กำหนด ยืนยันว่าตลาดจีนมีความต้องการไม่จำกัด ผลผลิตมีเท่าไรสามารถขายได้หมด ซึ่งระยะแรกของโครงการจะเร่งนำเข้าโค 500,000 ตัวแล้วส่งให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมหลังประสบภัยแล้งและอุทกภัย เพื่อให้มีรายได้โดยเร็ว
“ทุกวันนี้การค้าขายวัวจะนำเข้าจากเมียนมา จากนั้นชาวลาวและเวียดนามเดินทางมาซื้อผ่านประเทศไทยที่ด่านแม่สอดเอาไปขุนแล้วส่งจีน โดยคนไทยไม่ได้อะไรเลย เมื่อกระทรวงเกษตรฯ มาเดินหน้าโครงการโคเนื้อสร้างรายได้ เกษตรกรพึงพอใจสามารถทำรายได้ดีกว่าการเพาะปลูก เลี้ยง 120 วันขายได้ ระหว่างนี้กำลังรองบประมาณที่ ครม.อนุมัติ โดยขอใช้วงเงินกู้กว่า 10,000 ล้านบาท จาก ธ.ก.ส.ให้เกษตรกรกู้ซื้อวัวตัวละ 25,000 บาท อีกทั้งเป็นงบชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกร 400-500 ล้านบาท และใช้ทำประกันชีวิตวัวตัวละ 100 บาท หากวัวตายบริษัทประกันจ่ายเงินกู้แทนเกษตรกร จึงไม่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องหนี้สิน” นายประภัตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย