กลุ่มหนุน-ต้านแบน 3 สารประกาศจุดยืนพรุ่งนี้

กรุงเทพฯ 20 ต.ค. – เครือข่ายต้านใช้สารเคมีการเกษตร 686 องค์กรกร้าว สารเคมี 3 ชนิดมีพิษร้ายแรงต้องหมดจากประเทศไทยทันที ด้านกลุ่มเกษตรกรพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ชี้หานวัตกรรมให้ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำร้ายภาคการเกษตร วอนอย่ามองเกษตรกรเป็นฆาตกร 


นางสาวปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารเคมีการเกษตรอันตราย 3 ชนิดกล่าวว่า พาราควอต ไกลโฟเสต และคลอร์ไพริฟอส มีพิษร้ายแรงเป็นอันตรายต่อสุขภาพเกินกว่าที่จะยอมรับได้ ช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.) จะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีความเห็นเป็นแนวทางเดียวกันประกาศจุดยืนให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิกการใช้ 

ทั้งนี้ ไม่เชื่อว่ามาตรการจำกัดการใช้ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 ฉบับได้ผล จึงต้องการให้หมดจากประเทศไทยทันที จากนั้นให้รัฐหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรด้านต้นทุนที่จะสูงขึ้นทั้งค่าแรงงานในการกำจัดวัชพืช การจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตร และหานวัตกรรมที่เป็นสารชีวภัณฑ์ให้เกษตรกรใช้ทดแทน


นางสาวปรกชล กล่าวต่อว่า หากประเทศไทยไม่ปรับเปลี่ยนวิถีเกษตรกรรม โดยยังคงใช้สารเคมีจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกจากการกีดกันทางการค้า เนื่องจากกระแสโลกต้องการอาหารปลอดภัย ส่วนที่มีการระบุว่า หากยกเลิกไกลโฟเสตสารกำจัดวัชพืชจะทำให้เกษตรกรใช้สารกลูโฟซิเนตแทนนั้น ยืนยันว่าเป็นข้อมูลที่นักวิชาการของกรมวิชาการเกษตรให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการควบคุมการใช้สารเคมีภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นข้อเสนอของทางเครือข่ายฯ ตามที่มีกระแสกล่าวหาว่าทางเครือข่ายต้านการใช้สารเคมี 3 ชนิด เพื่อสนับสนุนการใช้สารเคมีชนิดใหม่แต่อย่างใด

ด้านนายสุกรรณ์  สังขวรรณะ เลขาธิการ สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ช่วงเช้าจะร่วมกับผู้แทนสมาคมเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด คือ อ้อย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพด และไม้ผลแถลงจุดยืนที่โรงแรมเอเชีย เพื่อให้รัฐชะลอการพิจารณายกเลิกสาร 3 ชนิดออกไป โดยหานวัตกรรมและแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้ก่อน ที่สำคัญเห็นว่าการยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิดจะทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบทั้งต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ปริมาณและคุณภาพผลผลิตต่ำลง จากงานวิจัยของ รศ.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ระบุว่าแปลงมันสำปะหลัง หากควบคุมวัชพืชไม่ได้ภายใน 2 เดือน ผลผลิตจะเสียหายถึงร้อยละ 80 ส่วนตนเองนั้นปลูกอ้อยกว่า 400 ไร่ หากไม่ป้องกันกำจัดหญ้าผลผลิตจะลดน้อยลงเช่นกัน


นายสุกรรณ์ กล่าวต่อว่า การยกเลิกสารเคมี 3 ชนิด ไม่ใช่ทางออก เพราะมีความสุ่มเสี่ยงที่เกษตรกรบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากยังไม่มีนวัตกรรมใดที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมมาทดแทนจะแอบซื้อแอบใช้ ตลอดจนหาสารเคมีชนิดอื่นมาใช้ แต่มาตรการจำกัดการใช้ที่สอนให้เกษตรกรรู้วิธีป้องกัน ขณะฉีดพ่น ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เก็บเกี่ยวผลผลิตหลังฉีดพ่นสารเคมีตามข้อกำหนดจะทำให้ทุกฝ่ายปลอดภัย

ส่วนที่รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยระบุว่า หากยกเลิกสารเคมี 3 ชนิดไม่ได้จะลาออกทั้งหมดนั้น  กลุ่มเกษตรกรต้องการให้ลาออกเสียก่อนที่จะมีการพิจารณา โดยเฉพาะนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่นำเสนอนโยบายอย่างไม่คำนึงถึงความมั่นคงในการประกอบอาชีพของเกษตรกร อีกทั้งทำลายโครงสร้างภาคการเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องรับผิดชอบ

จากนั้นในช่วงบ่ายกลุ่มเกษตรกรจะไปพบกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดให้รับทราบถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร อีกทั้งจะเสนอทางออกจากปัญหาที่สังคมสับสนว่า ข้อมูลฝ่ายใดจริง ฝ่ายใดเท็จ รัฐสามารถให้มีการนำเสนอข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลเชิงประจักษ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง หากยังมีประเด็นใดไม่ชัดเจนสามารถวิจัยใหม่ได้ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาแก้ปัญหาให้ตรงจุด เนื่องจากการเลิกใช้สารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วให้ใช้สารเคมีชนิดใหม่ทดแทนไม่ได้ทำให้ผู้บริโภคปลอดภัย ผู้ได้ประโยชน์ คือ ผู้ค้าสารเคมี ซึ่งไม่ว่าจะใช้สารใดก็ขายได้ทั้งนั้น

“อย่ามองว่าเกษตรกรเป็นฆาตกร เพราะไม่มีใครต้องการใช้สารเคมีโดยไม่จำเป็น เมื่อใช้ก็เป็นต้นทุนการผลิต จึงเรียกร้องให้รัฐทำวิจัยใหม่ โดยต้องไม่ใช่ทั้งกระทรวงเกษตรฯ หรือกระทรวงสาธารณสุข แต่ควรเป็นคณะนักวิจัยจากหลายหน่วยงาน ซึ่งผลจะเชื่อถือได้ว่าเป็นกลาง หากรัฐตัดสินใจกำจัดเครื่องมือในการประกอบอาชีพของเกษตรกร เกษตรกรจำเป็นต้องลุกฮือ เพื่อให้รัฐรับรู้และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งมีอยู่ประมาณ 7.5 ล้านคน” นายสุกรรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล

ผู้เสียหายแจ้งความถูกร้านทองดังหลอกขายกรอบทองคำรูปสัตว์มงคล ราคารวม 1 ล้านบาท ผ่านมา 8 ปี เอะใจนำทองไปเผา สุดท้ายเป็นเพียงพลาสติก

ทวงหนี้โหด

มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหดยิงดับต่อหน้าลูก

ยอมมอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาทวงหนี้โหด บุกถึงห้องยิงดับต่อหน้าลูกชาย หนีจับแม่ค้าเป็นตัวประกัน ตำรวจพาแม่และญาติเกลี้ยกล่อมสำเร็จ ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม

ข่าวแนะนำ

Pope Francis' coffin being carried towards door in St. Peter's Basilica

“โป๊ปฟรังซิส” ปรับแก้พิธีศพให้เรียบง่ายตั้งแต่ยังมีพระชนม์ชีพ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนาจักรโรมันคาทอลิก ทรงปรับแก้ไขพิธีปลงพระศพและฝังพระศพให้มีความเรียบง่าย ตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงมีพระชนม์ชีพ

ไข่ไก่ขึ้นราคา

ไข่ไก่ปรับขึ้นอีกฟองละ 20 สตางค์​ มีผลวันจันทร์นี้

ไข่ไก่ปรับขึ้นอีกฟองละ 20 สตางค์​ มีผล 28 เม.ย.นี้ เหตุอากาศร้อนจัด ไก่ออกไข่​น้อยลง​ ประกอบกับก่อนหน้านี้​ไข่ราคา​ตก​ เกษตรกร​ปลดแม่ไก่ยืนกรง​ อุปทานที่ลดลงทำให้​ราคา​มีแนวโน้ม​จะปรับ​ขึ้น​อีก​ตามกลไกตลาด

รับร่างตำรวจเครื่องบินตก

ครอบครัว 6 ตร. เครื่องบินตก ทยอยรับร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา

ครอบครัว 6 ตร. กองบินตำรวจ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก เดินทางมารับร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ขณะที่นิติเวชเตรียมสถานที่ห้องพักรับรองชั้น 3 ให้นั่งพักคอย ห้ามสื่อมวลชนรบกวน

เสด็จเยือนภูฏาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ในการเสด็จฯ เยือนภูฏานอย่างเป็นทางการ