อุดรธานี 17 ต.ค. – หลังมีคู่สมรสไทย-ลาวนับสิบคู่ เดือดร้อนจากการถูกไล่ดำเนินคดีในข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอมเพื่อจดทะเบียนสมรส ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 4 และ ตม.ภาค 4 เร่งตรวจสอบ คาดการปลอมแปลงอาจเป็นเรื่องภายในลาว พร้อมหาทางเยียวยา ติดตามจากรายงานพิเศษชุด “ปลอมเอกสารป่วนชีวิต 300 คู่รักไทย-ลาว” ตอนสุดท้าย
มาลิสา กองพะจัน ชาวลาวจากแขวงเชียงขวางและสามี เป็น 1 ในหลาย 10 คู่ ที่ถูกแจ้งข้อหาปลอมหนังสือรับรอง และตราประทับของกงสุลลาว ที่ขอนแก่น เพื่อจดทะเบียนสมรส เธอแสดงหลักฐานการโอนเงินกว่า 40,000 บาท และการแชทกับเอเย่นต์ตลอดช่วง 2 ปี กว่าจะได้จดทะเบียนสมรส แต่กลับมาถูกดำเนินคดี หลังจากนายคำไพ พันทองดี รักษาการกงสุลใหญ่ลาว แจ้งมายังนายทะเบียนอำเภอว่าหนังสือรับรองที่ออกระหว่างตุลาคม 61-กุมภาพันธ์ 62 เป็นเอกสารปลอม คดีนี้สร้างความเดือดร้อนให้เธอและครอบครัวอย่างมาก เสียเงิน เสียงาน เสียเวลา และเมื่อจะยื่นเรื่องจดทะเบียนสมรสใหม่ ก็ยังทำไม่ได้ ต้องรอคดีจบก่อน
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 เร่งสืบสวนสอบสวน สั่งให้ ตม.ทุกจังหวัดในภาคอีสานตรวจสอบปัญหานี้ เบื้องต้นพบว่ามีคู่รักไทยลาวที่ถูกแจ้งความฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมเพื่อจดทะเบียนสมรสแล้วอย่างน้อย 7 คู่ มีที่ จ.อุดรธานี 3 คู่ อุบลราชธานี 4 คู่ จับกุมเอเย่นต์ 1 ราย ที่หนองคาย
รองผู้บังคับการ ตม.ภาค 4 ให้ข้อมูลว่า ได้เข้าไปสอบถามรองกงสุลใหญ่ลาว ที่ขอนแก่น ได้รับการยืนยันว่ามีการปลอมหนังสือรับรองเพื่อการจดทะเบียนสมรสในช่วงปี 61 จริง โดยหนังสือที่ออกจากสถานกุงสุลลาว ที่ขอนแก่น มีเพียง 1,585 ราย แต่ตัวเลขการมาขอวีซ่าแต่งงาน เฉพาะ 20 จังหวัดในภาคอีสาน มีเกือบ 2,400 ราย ส่วนต่างกว่า 800 ราย ต้องตรวจสอบว่าเป็นหนังสือรับรองปลอมหรือไม่ หากพบว่าปลอม ตม.จะช่วยเหลือเบื้องต้นระหว่างคู่สมรสไทยลาวถูกดำเนินคดี โดยอาจออกวีซ่าแบบคดีความให้ชาวลาวก่อน จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ขณะที่การสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 4 เบื้องต้นพบขั้นตอนการปลอมหนังสือรับรองเพื่อจดทะเบียนสมรสไทยลาวของกงสุลใหญ่ลาวที่ขอนแก่นในครั้งนี้ อาจเป็นเรื่องภายในของลาว ขั้นตอนเดินเอกสารเอเย่นต์ไทยต้องติดต่อหลายหน่วยงานของลาว โดยใช้บริการชิปปิ้งลาว เชื่อมโยงไปถึงการออกหนังสือรับรองจากสถานกงสุลลาวที่ขอนแก่น หากไม่มีมาตรการที่รัดกุมพอ อาจเป็นช่องทางหารายได้ในทางมิชอบได้
คดีปลอมเอกสารป่วนชีวิต หลายร้อยคู่รักไทย-ลาว ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้เกี่ยวข้อง ทั้งคู่สมรสไทย-ลาว เอเย่นต์ไทย แต่มีข้อสังเกตหลายเรื่อง เช่น ถ้าตราประทับและลายเซ็นของกงสุลลาวที่ขอนแก่นถูกปลอม ทำไมกงสุลไทยซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบหนังสือรับรองและอัตลักษณ์ลายเซ็นถึงไม่มีการทักท้วง แต่กลับให้การรับรองนำไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอได้
อีกประเด็นสำคัญ นายคำไพ พันทองดี เคยเป็นรักษาการกงสุลใหญ่ลาวที่ขอนแก่น ระหว่างกลางปี 61 ถึงกลางปี 62 ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง เขามีหน้าที่เซ็นชื่อในหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรสไทยลาวด้วย แต่ 7 มีนาคม 62 นายคำไพได้ออกหนังสือแจ้งให้ทุกจังหวัดในภาคอีสานตรวจสอบและดำเนินคดีกับคู่สมรสไทย-ลาว กว่า 300 คู่ ว่าใช้เอกสารปลอม ซึ่งเป็นการแจ้งในช่วงเวลาที่นายคำไพอยู่ในตำแหน่ง นำไปสู่การตั้งคำถามว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดของทางการลาวเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ และหากมี เป็นเจ้าหน้าที่ระดับใด ตำรวจยอมรับว่าการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดมีความยากลำบาก แต่สิ่งที่ควรช่วยเหลือคือ การเยียวยาคู่สมรสไทย-ลาวที่ถูกดำเนินคดีในความผิดที่ไม่ได้ก่อ. – สำนักข่าวไทย