นิพิฏฐ์ไม่หนักใจภท.ประกาศยึดพื้นที่พัทลุง-ภาคใต้

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.- “นิพิฏฐ์”. ไม่หนักใจภท.ประกาศยึดพื้นที่พัทลุง-ภาคใต้ เตือน    ”นาที” โวล้ำเส้นสามี เข้าข่ายครอบงำรมต. ชี้หากปชช.ได้ประโยชน์ก็พร้อมสนับสนุน แต่อย่าลืมเรื่องปชต.สุจริต ยิ่งงบพัฒนาไหลเข้าพื้นที่อาจมีถอนทุน ด้าน   ”ชินวรณ์” ยอมรับการเมืองเปลี่ยน ปชป.ต้องขยับตัวเร่งทำ3 ยุทธศาสตร์ให้ทันคู่แข่ง


นายนิพิฏฐ์  อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.พัทลุง  กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยยกแม่ทัพลงพื้นที่พัทลุง โดยนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ประกาศยึดฐานเสียงการเมืองทั้งจังหวัด พร้อมผลักดันโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อยึดภาคใต้ทั้งหมด ว่า เป็นสิทธิ์ของนางนาที ซึ่งตนไม่หนักใจอะไร  แต่สิ่งที่นางนาทีประกาศ ตนคิดว่าควรจะเป็นคำพูดของรัฐมนตรีมากกว่า ตนคิดว่านางนาที คงฝันว่าตัวเองยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ทั้งที่ศาลฏีกาตัดสินจำคุก และอยู่ระหว่างอุทธรณ์ แต่ยังแสดงตัวเป็นรัฐมนตรีจะทำนั่นทำนี่ สิ่งนี้สามี หรือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ควรจะเป็นคนพูด และในทางรัฐธรรมนูญแล้ว ส.ส.ก็ไม่สามารถพูดได้ เพราะถือเป็นการครอบงำและชี้นำ 

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า การที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยยกทัพไปจ.พัทลุง แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่มีเป้าหมายยึดภาคใต้ โดยเฉพาะพัทลุงที่เขาต้องการยึดทั้ง3 เขต ตอนนี้ได้มาแล้ว2 เขต จากนั้นก็ขยายบารมีไปทั้งภาคใต้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร นางนาทีสามารถพูดอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน ตนก็สนับสนุน ความจริงนางนาทีเป็นทั้ง ส.ส.และ ส.ว.มานานสิบกว่าปี หากจะหาว่าไม่มีการพัฒนาจ.พัทลุงเลยก็ต้องรวมเขาด้วย ตนเป็นส.ส.มา 27 ปี  แต่ได้เป็นรัฐมนตรีแค่ 11 เดือน เป็นฝ่ายค้านเสีย 80 เปอร์เซนต์ ตนก็ทำได้เพียงเท่านี้ มันต้องเป็นรัฐบาลถึงจะทำได้อย่างที่เขาพูด 


นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เป็นรัฐบาลแล้ว จากที่เป็นฝ่ายค้านมาหลายปี  สิ่งที่เราพูดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องปาล์ม เรื่องยาง ก็คอยดูว่าเราจะทำได้หรือไม่  เราดูภาพรวมว่าเศรษฐกิจของเกษตรกรจะต้องดีขึ้น  หากทำได้จริงก็พอจะพูดได้ว่ามันเป็นผลงานของเรา จึงถือเป็นโอกาสดีที่พรรคการเมืองจะมาสู้กันด้วยนโยบายและโครงการต่าง ๆ ว่าใครจะผลักดันอะไรในพื้นที่  เพราะประชาชนต่างก็ได้ประโยชน์ ถึงเวลาประชาชนจะเห็นเองว่าใครทำได้ ใครทำไม่ได้ หากพรรคประชาธิปัตย์ทำไม่ได้แล้วจะไปเลือกพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ว่ากัน 

“ตอนนี้ภูมิใจไทยบอกจะทำนั่นทำนี่ให้กับ14 จังหวัดภาคใต้ อะไรก็พูดได้ ขอให้รอดูผลงานดีกว่า ว่าเขาทำท่องเที่ยวอย่างไร เราทำยางได้ กก.ละ 60 บาท ทำปาล์ม กก.ละ4 บาทจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ประชาชนต้องไม่ลืมด้วยคือการทำประชาธิปไตยสุจริต  แม้จะมีการเอางบประมาณ เอาโครงการมาแลก หากเริ่มต้นด้วยองศาที่ไม่ถูกต้อง ก็จะก่อให้เกิดปัญหา เช่น จะมีการถอนทุนหรือไม่ หากลงทุนไปเยอะก็ต้องมีการถอนทุน ไม่มีใครเชื่อว่าลงทุนไป 40-50 ล้านแล้วไม่ถอนทุน  ผมจึงขอเรียกร้องให้ทำประชาธิปไตยสุจริตด้วยควบคู่ไปกับการพัฒนาด้วย ยิ่งเขาประกาศจะทำโครงการท่องเที่ยวใหญ่โตทั่วทั้งภาคใต้แบบนี้ งบลงทุนต่าง ๆ ก็ต้องหลั่งไหลมา ยิ่งน่าจับตาดู” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช  พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลงไปทำกิจกรรมของพรรคภูมิใจไทยจะเห็นชัดว่ามีเจตนาที่จะเริ่มกระบวนการในการหาเสียง แต่การลงไปพัฒนาพื้นที่ให้ประชาชนนั้นเราต้องใจกว้างและเข้าไปให้ความร่วมมือสนับสนุนหรือเสนอแนะ และพรรคเองก็เป็นรัฐบาลก็ต้องใช้อโอกาสนี้ทำความเข้าใจกับประชาชน หรือชี้ให้เห็นว่านโยบายที่เราดำเนินการไปเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างไร ถือเป็นการแข่งขันตามปกติของระบบการเมือง แต่สิ่งที่ห่วงคืออยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์ ไม่ใช้วิธีการอื่นที่นอกเหนือจากกฎหมายเช่นซื้อเสียง สร้างอิทธิพลในพื้นที่ ตรงนี้น่าเป็นห่วงมากกว่า 


นายชินวรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องมีความกระตือรือร้นมากขึ้น ด้วยยุทธศาสตร์เรียกศรัทธาจากประชาชนที่ขณะนี้มี 3 เรื่องคือ 1.รัฐมนตรีต้องโชว์ผลงานด้วยการเข้าไปแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะนโยบายหลัก ๆ 2. ในเรื่องของสภาที่ส.ส.ต้องทำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาหารือและตรวจสอบวางบทบาทให้ประชาชนคาดหวังได้ และ3.พรรคต้องมียุทธศาสตร์และนโยบายในพื้นที่ให้มากกว่าเดิม โดยทั้งหมดต้องขับเคลื่อนด้วยส.ส.พรรคเป็นหลัก

“ผมยังมั่นใจในฐานเสียงเดิมของเราว่ายังมีความเข้มแข็ง แต่ตอนนี้การเมืองมันเปลี่ยนไปมาก ทั้งกระบวนการยุทธศาสตร์ในพื้นที่ของพรรคการเมืองอื่น ๆ การใช้โซเชียลต่าง ๆ มากขึ้น เราจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้มากกว่านี้ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนตัวเอง ไม่ขยัน ทำงานแบบไม่มียุทธศาสตร์ ไม่มีผลงานชัดเจน ก็คงลำบาก” นายชินวรณ์กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย