กทม.10 ต.ค.- แพทย์รามาฯ เปิดผลวิจัยล่าสุดในสหรัฐ พบหนูเกือบ 1 ใน 4 ป่วยเป็นมะเร็งปอด และกว่าครึ่งพบเซลล์กระเพาะปัสสาวะที่ส่อว่าจะพัฒนาเป็นเนื้อมะเร็ง หลังจากสัมผัสไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลา 1 ปี
พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่า เมื่อ 7 ต.ค.2562 งานวิจัยชิ้นใหม่จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา นำโดย ศ.ดร. Moon-shong Tang ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยา ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุความสัมพันธ์ของบุหรี่ไฟฟ้ากับการเกิดมะเร็งปอด และการเปลี่ยนแปลงของเซลล์กระเพาะปัสสาวะที่ส่อว่าจะพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งในหนูทดลอง
การศึกษาครั้งนี้ใช้หนูทดลองจำนวนทั้งสิ้น 85 ตัว ทำการสุ่มแยกหนูออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก 45 ตัวได้รับไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าชนิดน้ำที่มีความเข้มข้นของนิโคติน 36 mg/ml ผสมกับสารละลาย PG (Propylene glycol) และVG (Vegetable glycerine) วันละ 4 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลารวมทั้งสิ้น 54 สัปดาห์
กลุ่มที่ 2 ใช้หนูทดลองจำนวน 20 ตัว โดยให้สัมผัสไอระเหยจาก PG, VG ที่ไม่มีสารนิโคตินรวมอยู่ เป็นเวลาเท่ากัน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มเปรียบเทียบที่ไม่ได้สัมผัสไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าเลย 20 ตัว (ระหว่างการทดลองพบหนู 9 ตัว เสียชีวิตเนื่องจากสภาพที่ไม่พร้อม แต่ตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งในหนูเหล่านี้)
เมื่อครบเวลา 54 สัปดาห์ ทีมวิจัยได้นำหนูทั้งหมด 76 ตัว มาตรวจเซลล์ในอวัยวะภายในที่สำคัญต่างๆ ในหนูกลุ่มแรกที่สัมผัสบุหรี่ไฟฟ้าชนิดนิโคตินที่ผสมกับสารVG, PG พบเซลล์มะเร็งในปอด 9 ตัว จากหนูทั้งหมด 40 ตัว(คิดเป็น 22.5%) และพบเซลล์ที่ส่อว่าจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะของหนูกลุ่มนี้ 23 ตัว (คิดเป็นร้อยละ 57.5%) ขณะที่ไม่พบการเกิดมะเร็งปอดในกลุ่มของหนูที่สัมผัสไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าชนิดไม่มีนิโคติน และหนูในกลุ่มที่ 3 ที่ไม่ได้สัมผัสไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าเลย พบมะเร็งปอดเพียง 1 ใน 18 ตัว
ศ.ดร. Moon-shong Tang ระบุว่า ปริมาณไอระเหยบุหรี่ไฟฟ้าที่หนูทดลองกลุ่มนี้ได้รับ เทียบได้เท่ากับคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่องเป็นเวลา 3-5 ปี ผลการศึกษาสรุปได้ว่า นิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายและมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปอดในหนูที่ทดลอง นักวิจัยเชื่อว่าไอระเหยบุหรี่ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กว่าควันบุหรี่ธรรมดา ทำให้สารพิษต่าง ๆ รวมทั้งนิโคตินเข้าไปสู่เซลล์ปอดได้ลึกมากกว่าจนไปทำลายเซลล์ปอดได้รับอันตรายเป็นสาเหตุของมะเร็ง
พญ.เริงฤดี กล่าวด้วยว่า ทีมวิจัยคณะนี้เคยทำการศึกษาผลการสัมผัสไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าในหนูระยะสั้นมาแล้ว ครั้งก่อนให้หนูสัมผัสไอระเหยเพียง 3 เดือน พบมีการทำลายของสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอในเซลล์ปอด หัวใจ และกระเพาะปัสสาวะ การศึกษานี้เป็นงานวิจัยแรกที่มีการติดตามระยะยาวและค้นพบความจริงที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ซึ่งงานวิจัยที่แสดงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าทยอยเปิดเผยสู่สาธารณะเรื่อยๆ รวมทั้งกรณีมีการระบาดของปอดอักเสบรุนแรงในสหรัฐที่ล่าสุดเมื่อ 7ต.ค.62 มีผู้เสียชีวิตแล้ว22 รายและมีผู้ป่วยกว่า 1,000 คน ลบล้างความเชื่อที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา .-สำนักข่าวไทย