กรุงเทพฯ 9 ต.ค.- รวบหนุ่มอดีต พนง.แบงก์สินเชื่อรถ ผันตัวเป็นโจรยุค 4.0 ล้วงข้อมูลบัตรเครดิตลูกค้ากดเงินกว่า 2.8 แสน
พลตำรวจตรีสันติ ชัยนิรามัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุมนายธนากร สงวนศักดิ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในความผิด ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่นำข้อมูลบัตรเครดิตผู้เสียหายไปใช้งาน และข้อมูลบัตรเครดิตของผู้เสียหายกว่า 20 ใบ มูลค่าความเสียหายกว่า 2แสน 8หมื่นบาท
โดยวิธีการคนร้าย จะนำข้อมูลจากลูกค้าซึ่งทั้งหมดเป็นคนรู้จัก ทั้งเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมาก่อน หรือคนที่ทำงานด้วยกัน มาตรวจสอบว่ามีใครใช้บัตรเครดิตหรือไม่ จากนั้นจะเลือกเวลากลางคืน โทรศัพท์ไปหาคอลเซ็นเตอร์ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อ เพื่อจะได้รับรหัสรักษาความปลอดภัย หรือ OTP แทนผู้เสียหาย ก่อนจะเข้าไปใช้แอพลิเคชันสวมรอยทำธุรกรรมการเงินจากบัตรเครดิตผู้เสียหาย โดยการสแกนรหัสชำระสินค้า หรือ QR CODE ซึ่งเป็นรหัสบัญชีธนาคารออนไลน์ของตนเอง เพื่อนำเงินจากบัตรเครดิตไปใช้รูดซื้อสินค้าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีข้อมูลการใช้บัตรเครดิตไม่ต่ำกว่า 20 ใบ รวมความเสียหายกว่า 2 แสน 8 หมื่นบาท ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหารับว่า ทำไปเพราะเครียดจากภาระหนี้บัตรเครดิต และมักง่ายคิดว่าหากก่อเหตุกับคนใกล้ตัว หากถูกจับได้จะขอรับผิดและได้รับการอภัยง่ายกว่าคนไม่รู้จัก
ขณะที่ 1 ในผู้เสียหาย ยอมรับว่า รู้จักกับคนร้ายเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนที่เรียนอยู่ในกลุ่มเดียวกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นลูกค้าของคนร้าย เพราะไว้วางใจให้ช่วยดูแลเรื่องการซื้อขายรถให้ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้โทรศัพท์มาสอบถามข้อมูล ส่วนตัวและบัตรเครดิตทั้ง 2 ใบ จากนั้นช่วงกลางดึกก็ได้รับข้อความจากธนาคารว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นไม่นานก็ได้รับข้อมูลว่ามีการใช้จ่ายบัตรเครดิตเป็นเงิน 4 หมื่นบาท จึงโทรกลับไปสอบถามขอเบอร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้ทราบว่าเป็นเบอร์ของคนร้าย จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดี
ขณะที่นายปราโมทย์ ลลิกิตติ ประธานชมรมป้องกันทุจริตบัตรเครดิตภายใต้สมาคมธนาคารไทย ฝากแจ้งเตือนประชาชนให้หมั่นตรวจสอบข้อความทาง SMS เพราะทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ธนาคารจะส่งข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงให้กับลูกค้าตัวจริงอยู่แล้ว และหากพบความผิดปกติใดๆ ก็ควรรีบโทรสอบถามธนาคาร เพื่อให้ระงับการทำธุรกรรมนั้นๆ ทันที และต่อไปในอนาคต ธนาคารจะมีการใช้ระบบยืนยันตัวตนผ่านเสียง หากต้องมีการแก้ไขข้อมูลสำคัญ ก็เชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ .-สำนักข่าวไทย