ปตท.รอบอร์ดอีอีซีชี้ชัดประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3

กรุงเทพฯ 3 ต.ค. – ปตท.ยอมรับแผนลงทุนแหลมฉบังเฟส 3 ล่าช้า ต้องรอบอร์ดอีอีซี ชี้ชัดผลประมูล หลังเอ็นพีซีได้รับการคืนสิทธิ์การประมูล คาดผลประกอบการครึ่งหลังปี 62 และ 63 ฟื้นตัว


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า การรื้อย้ายท่อก๊าซธรรมชาติ ท่อน้ำมัน ในเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมโยง 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ขณะนี้คงต้องรอภาครัฐว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร โดยตามมติ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรืออีอีซี ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการย้ายรื้อถอนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในเรื่องนี้ ซึ่งต้องวางแผนการทำงานร่วมกัน เนื่องจากโครงการดังกล่าวเกี่ยวกับหลายพื้นที่ รูปแบบการดำเนินการอาจทำได้หลายส่วน เช่น การโยกย้ายปรับเปลี่ยนสิ่งติดตั้งไปอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมแทน โดยจะคำนึงไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคาดว่าจะเป็นหน้าที่ของเอกชนผู้ดำเนินธุรกิจตามสัญญาที่ตกลงกันไว้

ส่วนความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนของท่าเรือ F นั้น  ยอมรับว่าในการลงทุนโครงการดังกล่าวล่าช้าออกไปจากแผนที่วางไว้  หลังจากมีผู้เข้าร่วมประมูล คือ กลุ่มเอ็นพีซี ได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองกลางและศาลฯ พิพากษาให้กรรมการคัดเลือก “คืนสิทธิ์” การประมูล ดังนั้น ต้องรอดูว่า กพอ. จะดำเนินการอย่างไรต่อ โดยในส่วนของ ปตท.มองว่าหากจะมีผู้เข้าร่วมประมูลกลับเข้ามาร่วมแข่งขันเพิ่มอีกราย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและท้าทายมากขึ้น โดยโครงการนี้ ปตท.ร่วมทุนเสนอประมูลในนามกลุ่มกิจการร่วมค้าจีพีซี ประกอบด้วย บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์, บจ.พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล และ บจ.ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จากประเทศจีน 


ส่วนแนวโน้มการดำเนินการปี 2563 คาดว่าจะดีขึ้นจากปี 2562 เนื่องจากผลประกอบการในธุรกิจขั้นปลายจะดีกว่าปีนี้  เช่น กลุ่มน้ำมันจะกลับมาเป็นระดับปกติ จากมาตรการขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ(IMO) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ที่กำหนดกำมะถันในน้ำมันเตาของเรือเดินสมุทรไม่เกินร้อยละ 0.5  และความชัดเจนของเศรษฐกิจโลกคาดว่าน่าจะดีขึ้นทั้งผลกระทบจากที่ปีนี้มีความไม่แน่นอน จากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และกรณีประเทศอังกฤษถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิต (Brexit) โดยยังเชื่อมั่นว่าความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีในแถบอาเซียนจะยังเติบโต จึงคาดจะส่งผลดีต่อมาร์จินของปิโตรเคมีและน้ำมันจะขยับดีขึ้น ขณะที่กลุ่ม ปตท.ยังขยายการลงทุนต่อเนื่องในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะยังเป็นแรงกระตุ้นการเติบโตที่สำคัญ 

สำหรับผลการดำเนินงานของ ปตท.ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้  โดยผลประกอบการจะต่ำกว่าปี 2561 ที่มีกำไรอยู่ที่กว่า 1.2 แสนล้านบาท  ซึ่งเป็นผลกระทบหลักจากสงครามการค้า ทำให้มาร์จินปิโตรเคมีลดต่ำลง โดยผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งแรก ทั้งเรื่องที่มาจากราคาปิโตรเคมีเริ่มทรงตัว มาร์จินโรงกลั่นฯ ขยับดีขึ้น เพราะเข้าใกล้ช่วงฤดูหนาวมีการสตอกน้ำมัน เพื่อใช้วันหยุดยาวประจำปีใหม่เทศกาลท่องเที่ยว ทั้งปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน และยังมาจากช่วงครึ่งปีหลังนี้โรงงานของกลุ่ม ปตท. 3 บริษัท ทั้ง บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (จีซี) ,บมจ.ไออาร์พีซี และ บมจ.ไทยออยล์ ไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปี (ชัทดาวน์) เหมือนกับช่วงครึ่งปีแรก โดยการพิจารณาสัญญาณทางธุรกิจที่ดีขึ้น คณะกรรมการ ปตท.จึงเห็นชอบให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2562 ในอัตรา 0.90 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 25,707 ล้านบาท  

ทั้งนี้ คณะกรรมการ กพอ.เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ได้เห็นชอบให้ส่งมอบที่ดินให้เสร็จโดยเร็วในโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน โดยส่งมอบที่ดิน ร้อยละ 72 ภายใน 1 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการและเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดการรื้อย้ายท่อก๊าซยาว 12 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 16 จุด กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดย้ายท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 จุด ย้ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงยาว 14 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 39 จุด ย้ายท่อประปาขนาดใหญ่ยาว 2 กม. และกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ใช้สิทธิ์เร่งรัดให้ย้ายท่อน้ำมันของบริษัทเอกชนระยะทาง 44 กม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน