“อนุทิน” เดือดด่าคนขู่นักวิชาการต้านพาราควอต

ทำเนียบฯ 3 ต.ค.-“อนุทิน” เดือดคนขู่ฆ่านักวิชาการต้านสารเคมีร้ายแรงภาคเกษตร ยืนยันเรื่องนี้เดินหน้าค้านสุดตัว เชื่อ นายกฯ จะอยู่ข้างประชาชน


นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการใช้สารเคมีในภาคอุตสาหกรรม ออกมาเปิดเเผยว่า มีนักวิชาการ 2 คนในคณะกรรมาธิการ ที่ต่อต้านการใช้สารเคมีร้ายแรง 3 ตัว คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ถูกขู่ฆ่า จะเป็นเรื่องที่บานปลายหรือไม่  ว่าไม่บานปลาย  ขอให้มั่นใจว่า เราได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน  สิ่งนี้จะเป็นเกราะป้องกันตน ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ 

“คนที่ข่มขู่ขอเรียกว่าหน้าตัวเมีย กระจอก แน่จริงมาขู่ นางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ มาขู่ผมเลย ขอให้เปิดเผย อย่าหลบ เพราะไปขู่นักวิชาการไม่มีอะไรขึ้นมา” นายอนุทิน กล่าว


ส่วนข้อเรียกร้องจากพรรคเพื่อไทย ขอให้ดูแลความปลอดภัยของ 2 นักวิชาการดังกล่าว  นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องมีประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้มั่นใจทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่มีใครทำอะไรได้ และว่า  “คิดว่าทำนักวิชาการ 2 คนนี้ แล้วเรื่องจะจบหรือ  ทำได้แค่ขู่  คนพวกนี้กระจอก”

นายอนุทิน ย้ำว่า จะเดินหน้าคัดค้านการใช้สารพิษทางการเกษตรเต็มที่ “เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) มีหนังสือมาจากกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเปิดอ่านแล้วถึงขั้นต้องฉีกทิ้ง แล้วเรียกคนเกี่ยวข้องมาชี้แจง และสั่งให้กลับไปเขียนใหม่ ว่า กระทรวงสาธารณสุขต้องมีจุดยืนคัดค้าน ไม่ใช้เขียนว่าให้ติดตามไปก่อน แล้วจะมีมารตรการที่จะดำเนินการตามทีหลัง อยากถามว่าคนที่ลงนามก่อนมาถึงผมอ่านหรือเปล่า นี่ถือว่าโชคดีนะ ที่ผ่านพ้นการโยกย้ายไปแล้ว” 

เมื่อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลถูกมาองว่า มีแต่ท่าทีที่คัดค้าน ไม่มีการกระทำที่ชัดเจนออกมา  นายอนุทิน ตอบกลับทันทีว่า “ท่าทีของผม และคุณมนัญญา ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ” และว่า  กระทรวงสาธารณสุขชัดเจนมากแล้ว ต้องไปตามกับหน่วยงานที่เหลือ เพราะ 2 กระทรวงนี้ชัดเจนมาก  


เมื่อถามต่อว่า ควรจะออกเป็นพระราชกำหนดเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ฝั่งของตนชัดเจนแล้ว 51 เสียงแน่นอนอยู่แล้ว  และคณะกรรมการที่ดูเรื่องสารเคมมีฝั่งตนมี 6 คน ส่วนคนที่เหลือก็ต้องไปจัดการคนที่อยู่ในสังกัดตัวเองให้เรียบร้อย 

“สังคมออกมาขนาดนี้ ในส่วนของพรรคเรามีความชัดเจน เราห่วงประชาชนมากกว่าอย่างอื่น  มีเงินมีทอง ลดต้นทุน ได้กำไรเยอะ แต่ไม่ได้ใช้เงิน จะมีประโยชน์อะไร ได้กำไรมา แต่คนที่ทำต้องเจ็บป่วยตาย ใครจะแลกก็แลก ผมไม่แลกด้วย” นายอนุทิน กล่าว 

ต่อข้อถามว่า มีการหาสารตัวอื่นมาใช้ทดแทนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สามารถหาสารทดแทนได้แล้ว หากไม่เป็นอันตราต่อเกษตรกร แม้จะมีราคาสูง รัฐบาลก็ต้องหาวิธีช่วยในการชดเชย ที่ผ่านมาชดเชยได้ตั้งมาก เช่น เงินประชารัฐยังให้ได้ อะไรที่ให้ประชาชนได้ เราก็ต้องให้ เงินไม่ได้ไปไหน ออกกระเป๋าซ้าย ไปขวา เศรษฐกิจหมุนเวียน แต่สิ่งที่สำคัญคือสุขภาพของประชาชนดีขึ้น ลูกหลานพวกเรากินผักไม่มีสารพิษ 

“มัวแต่ไปขู่เขา  ออกมาดีเบตกันว่า สารพิษมันดีอย่างไร ถ้าบอกว่าดีเพราะต้นทุนถูก คนตายไม่เป็นไร ก็ออกมาพูดกันสิครับ ของพวกนี้ไม่รู้จะแกล้งเซ่อกันไปถึงไหน”  นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า คนที่ออกมาเป็นกลุ่มไหน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้มาขู่ตน  ต่อข้อถามว่า ต้องหารือกับพรรคฝ่ายค้านในเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ปัญหานี้ ไม่ต้องคุยแล้ว หน้าที่รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบดีว่า อะไรก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของพี่น้องประชาชนต้องสนับสนุน กระทรวงสาธารณสุขไม่มีสิทธิคิดเป็นอย่างอื่นเลย มีหน้าที่ดูแลสุขภาพของประชาชน 

“ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยสู้เรื่องนี้เต็มที่ รัฐมนตรีว่ากรกระทรวงเกษตรฯ ก็ให้สัมภาษณ์ไม่กี่วันมานี้ ว่าไม่ไหวเหมือนกัน แต่ท่านต้องมีกระบวนการที่ต้องทำ และสังคมก็จะมีคำถามเองว่า เมื่อไรจะทำสักที ผมถามรัฐมนตรีสุริยะ  รัฐมนตรีอุตสาหกรรมในสภาวันนั้น ก็บอกไม่เอาด้วย ก็ชัดเจนอยู่แล้ว หากนโยบายเป็นอย่างนี้ ฝ่ายปฏิบัติทั้ง 29 คน ยังสวนนโยบาย นายกรัฐมนตรีก็ต้องลงมาแก้ไขแล้ว เพราะอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนจุดยืน”  นายอนุทิน กล่าว 

นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องแก้ปัญหานี้ เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะยืนเคียงข้างประชาชน ยืนข้างเกษตรกร ยืนข้างสุขภาพที่ดีของประชาชนชาวไทย  นายกรัฐมนตรีไปสหประชาชาติไปพูดจาอย่างภาคภูมิใจ เรื่องการดูแลสุขภาพประชาชน กลับมาเล่าในคณะรัฐมนตรีว่า ไทยมีระบบดูแลสาธารณสุขดีอย่างไร และต้องทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ท่านสนับสนุนเต็มที่ นายกรัฐมนตรีไม่มีทางเลือกอื่น จะต้องเลือกยืนข้างประชาชน

เมื่อถามว่า มีวิธีอื่นที่จะหักได้เลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เรียกประชุม แล้วโหวตไม่เอาก็เท่านั้น  และขอให้โหวตเปิดเผย อย่าโหวตลับ จะได้รู้ว่าใครรักประชาชน ใครเกลียดประชาชน  โหวตลับทำไม แมน แมน หน่อย” . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]