นนทบุรี 1 ต.ค.-หญิงวัย 30 ปีถูกชายอ้างเป็นเสี่ยมีทรัพย์สิน 20,000 ล้านหลอกแต่งงาน แต่ไม่ยอมจ่ายค่าจัดงานแต่งงาน ทำให้เจ้าสาวเป็นหนี้เกือบ 3.5 ล้านบาท และเพิ่งจดทะเบียนหย่าไปเมื่อเช้าที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ดา (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สาวชาวบุรีรัมย์ เดินทางเข้าพบนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความเป็นธรรมและปรึกษาทางด้านคดี
โดย น.ส.ดา ระบุว่าถูก “นายเท็น” (นามสมมุติ) ซึ่งอ้างว่าเป็นนักธุรกิจด้านการเงิน หลอกแต่งงานและจดทะเบียนสมรส จัดงานที่โรงแรมหรู โดยจ้างออร์แกนไนซ์ มีค่าใช้จ่ายต่างๆในการจัดงาน 3.5 ล้านบาท จากนั้นเบี้ยวไม่จ่ายเงิน ทำให้ฝ่ายหญิงต้องเป็นผู้มาชดใช้หนี้แทน อีกทั้งเช็คสินสอดที่ฝ่ายชายเซ็นให้เป็นเงิน 1.6 ล้านบาทได้หายไปโดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนเอาไป จึงเข้าปรึกษาทางด้านกฎหมายว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะระหว่างที่จัดเตรียมงานแต่งงาน ตนเองได้ออกค่าใช้จ่ายไปล่วงหน้าก่อนราว 700,000 บาท พอหลังจัดงานแต่งงานเสร็จสิ้นได้ทวงถาม “นายเท็น” ให้นำเงินมาจ่าย แต่ถูกบ่ายเบี่ยงและขอผัดผ่อนอ้างว่าจะนำเงินมาจ่ายให้ในวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้ได้ขอผัดจ่ายมาหลายสิบครั้งแล้ว จึงเป็นห่วงว่าจะต้องมารับชำระหนี้สิ้นทั้งหมด ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก จึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.สุทธิสาร เพราะขณะนั้นถูกทวงถามจากฝ่ายเจ้าหนี้อย่างหนัก ก่อนที่ท้ายที่สุดจะขอหย่าขาด และไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขตห้วยขวาง เมื่อเช้าวันนี้ (1 ต.ค.62)
น.ส.ดา ไล่เรียงค่าใช้จ่าย ซึ่งจัดขึ้นในงานมงคลสมรสเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ มีการจ้างออร์แกไนซ์ 2.6 ล้านบาท, ค่าโรงแรม 3.8 แสนบาท, ค่าดนตรี 1.2 แสนบาท, ค่าเครื่องดื่ม 50,000 บาท, ค่าชุดเจ้าสาว 52,000 บาท และค่าชุดเพื่อนเจ้าสาว 35,000 บาท
นอกจากนั้นมีการตกลงทำหนังสือสัญญาซื้อขายทองคำหมั้น น้ำหนัก 25 บาท ราคารวม 860,000 บาท และเช็คเงินสด 1.6. ล้านบาทที่เป็นค่าสินสอด ซึ่งหายไปอย่าไร้ร่องรอย โดยระหว่างการจัดงานและหลังจัดงานผู้จัดได้ทวงค่าใช้จ่าย และเธอต้องออกไปก่อน 700,000 บาท.-สำนักข่าวไทย