จิตเวชโคราชเริ่มแล้ว!! บริการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน 5 แห่ง

สำนักข่าวไทย 1 ต.ค.-รพ.จิตเวชนครราชสีมา จัดบริการรับยาที่ร้านยามาตรฐานใกล้บ้าน เริ่มในพื้นที่ อ.เมืองก่อน 5 แห่งตั้งแต่วันนี้ นำร่องกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชสิทธิบัตรทองรายเก่าที่อาการคงที่ ไม่มีปัญหาจากการใช้ยา เพื่อรับยาเดิมกินต่อเนื่องและตามความสมัครใจ ไม่ต้องควักเงินจ่ายเพิ่มเติม ยืนยันตัวยาที่จ่ายเป็นชนิดเดียวกันที่เคยกินทุกรายการ ผู้ป่วยมั่นใจได้ จะประเมินผลในอีก 1 เดือนเพื่อปรับระบบให้ลงตัวก่อนขยายผลในระยะที่ 2 และวิจัยเป็นต้นแบบของระบบด้วย  


วันนี้(1ต.ค.)ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา  นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาฯ   พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พญ.ลลิตยา กองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช.เขต 9 จ.นครราชสีมา เภสัชกรสมชาติ ใจซื้อกุล เภสัชกรอาวุโสที่ปรึกษากลุ่มเภสัชกรนครราชสีมาและเจ้าของร้านยาอมรินทร์เภสัช และเภสัชกรวิรัช ลักคนสุวรรณ์ เภสัชกรอาวุโสที่ปรึกษาชมรมเภสัชกรจิตเวช กรมสุขภาพจิต ร่วมเปิดโครงการ เพิ่มทางเลือกผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 4 กลุ่มโรค รับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน ลดแออัด รอคอยการรักษา ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 


นพ.กิตต์กวี ให้สัมภาษณ์ว่า รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ ได้ร่วมมือกับสปสช. เขต 9 จ.นครราชสีมา และชมรมร้านยาในจ.นครราชสีมา ดำเนินการจัด บริการนำร่องผู้ป่วยจิตเวชที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันที่อยู่ในเขต อ.เมืองนครราชสีมาที่ได้มาตรฐานของ อย.จำนวน 5 แห่ง ประกอบด้วย  ร้านเรือนยา ถนนช้างเผือก ต.ในเมือง,ร้านอัมรินทร์เภสัช ถ.ชุมพล ต.ในเมือง , ร้านตะกร้ายา ตรอกเสาธง ต.ในเมือง , ร้านปัญจสรณ์เภสัช ถ.รัตนภิธาน ต.จอหอ และร้านพี.อาร์.ฟาร์มาซี ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง ซึ่งมีเภสัชกรอยู่ประจำการตลอดเวลาทำการ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป ผู้ป่วยจิตเวชที่จะใช้บริการรับยาที่ร้านยาดังกล่าวจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 3 ประการ คือ1. เป็นผู้ป่วยจิตเวชสิทธิบัตรทองเท่านั้น 2.เป็นผู้ป่วยจิตเวชรายเก่าที่มีอาการคงที่ ไม่มีปัญหาจากการใช้ยา และแพทย์นัดรับยาเดิมเพื่อกินอย่างต่อเนื่อง และ3.ผู้ป่วยสมัครใจไปรับยาที่ร้านยา  โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด    


นพ.กิตต์กวีกล่าวว่า ต่อวันจะมีผู้ป่วยรายเก่าที่มาจาก  4  จังหวัดในเขตนครชัยบุรินทร์คือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ไปรับยาเดิมที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯประมาณ 200 คนจากผู้ป่วยที่ใช้บริการทั้งหมดเฉลี่ย 320 คนต่อวัน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ป่วยโรคจิตเภทและโรคซึมเศร้า    คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับความสะดวกมากขึ้น คิวรอพบแพทย์ คิวรับยาจะสั้นลงไปอีก ซึ่งยาจิตเวชที่จ่ายในร้านยานั้นจะเป็นชนิดเดียวกันที่ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯใช้ในแต่ละกลุ่มโรคทุกรายการ   โดยเภสัชกรของ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯจะจัดระบบการดูแลผู้ป่วยเชื่อมโยงกับเภสัชกรร้านยาอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยตามมาตรฐานทุกประการ และจะประเมินผลหลังจากดำเนินการไปแล้ว 1 เดือน เพื่อปรับปรุงระบบให้มีมาตรฐานและมีความคล่องตัว  ก่อนขยายผลในระยะที่ 2 ต่อไปทั้งในระดับพื้นที่ จำนวนร้านยา และผู้ป่วยจิตเวชรายอื่นๆ ต่อไป

ด้านเภสัชกรหญิงจุฑามณี ดุษฎีประเสริฐ รองผู้อำนวยการด้านสารสนเทศและการพัฒนาคุณภาพสู่ความเป็นเลิศ และหัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรมรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวว่า ก่อนที่ผู้ป่วยจิตเวชจะไปรับยาที่ร้านยา 5 แห่งที่ร่วมโครงการ จะต้องมาที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ก่อนว่ามีอาการคงที่และไม่มีปัญหาจากการใช้ยาใดๆ รวมทั้งผ่านการคัดกรองจากเภสัชกรเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการรับยาใกล้บ้าน โดยขณะนี้ทางกลุ่มงานเภสัชกรรมของรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯได้เชื่อมระบบข้อมูลยากับร้านยาทั้ง 5 แห่งแล้ว ผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับใบนัดรับยาที่ร้านยา และใบนัดพบแพทย์รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ  สามารถถือไปรับยาที่ร้านยานั้นๆ ได้เลย และสามารถรับยาครั้งต่อไปโดยตรงที่ร้านยาได้ต่อเนื่อง   

เภสัชกรหญิงจุฑามณี กล่าวต่อว่า ยาจิตเวชที่จ่ายจากร้านยาทุกรายการ  จะติดคิวอาร์โค้ด(QR code)ที่ซองยา เพื่อให้ผู้ป่วยญาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทีมหมอครอบครัวที่เยี่ยมบ้าน สามารถสแกนรายละเอียด ทราบชื่อตัวยา และข้อมูลการใช้ต่างๆ ได้ โดยรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯจะนัดผู้ป่วยจิตเวชรายเก่าที่กินยาต่อเนื่องและมีอาการคงที่ทุก 6 เดือนเพื่อพบแพทย์ประเมินความก้าวหน้าผลการรักษาต่อเนื่องและปรับการรักษาให้เหมาะสม โดยผู้ป่วยจิตเวชและญาติที่สนใจจะสมัครใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่กลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ หมายเลข 044-233-999 ต่อ 65104 ในวันและเวลาราชการ  

“การดำเนินงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกับองค์กรวิชาชีพ เพื่อพัฒนาและบูรณาการระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชในระดับปฐมภูมิ ทำให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องในรูปแบบของการรับยาใกล้บ้าน ร้านยาใกล้ใจ โดยจะมีการศึกษาวิจัยประเมินประสิทธิผลของการพัฒนาระบบบริการในระยะแรกนี้ร่วมกัน 3 ฝ่ายระหว่างร้านยา กลุ่มงานเภสัชกรรมของ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ และชมรมเภสัชกรจิตเวช กรมสุขภาพจิต เพื่อพัฒนาระบบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่ประชาชน” เภสัชกรหญิงจุฑามณี กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง