กทม. 30 ก.ย.-สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดปริมณฑล จากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเมื่อเวลา 15.00 น. เกินเกณฑ์มาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำนักข่าวไทยตรวจสอบข้อมูลปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ
5 จังหวัดปริมณฑล จากกรมควบคุมมลพิษ พบว่าเมื่อเวลา 15.00 น.
เกินเกณฑ์มาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดใจกลางเมือง บริเวณริมถนนจามจุรีสแควร์ เยื้อง MRT สามย่าน เขตปทุมวัน ซึ่งค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน แม้สภาพอากาศจะขมุกขมัว ฝุ่นละอองลอยคลุ้งในอากาศ แต่คนที่มาทำธุระ นักท่องเที่ยว รวมถึงคนที่มาทำบุญบริเวณวัดหัวลำโพง กลับแทบไม่มีใครสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 หรือหน้ากากอนามัยเลย หากเทียบเดินมา 10 คน พบแค่ 1 คนที่สวมหน้ากากอนามัยเท่านั้น
สอบถามพนักงานบริษัทเอกชนคนหนึ่งที่สวมหน้ากาก บอกว่าใส่ เพราะ 1-2 วันนี้ เริ่มคันคอ อีกอย่างห่วงลูก กลัวว่าถ้าไม่สบายจะนำเชื้อโรคไปติดลูก ส่วนอีกจุดที่พบค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน คือ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) ในเขตสัมพันธวงศ์ ที่นี่มีการจัดงานเทศกาลกินเจ หลายคนมาจับจ่ายซื้อสินค้าและอาหารเจเช่นกัน แม้สภาพอากาศมืดเทา ฝุ่นควันเต็มถนน แต่ประชาชนก็ยังไม่ได้สวมหน้ากาก
สอบถามคนที่มาซื้ออาหารกับครอบครัว บอกว่าเห็นข่าวว่ากรุงเทพฯ เริ่มมีปัญหาเรื่องฝุ่นควัน แต่ที่ยังไม่สวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้านเพราะเห็นว่ายังไม่รุนแรงเท่าปีก่อน และส่วนตัวรวมถึงแม่ก็ไม่มีอาการอะไรในตอนนี้ ขณะเดียวกันยังเห็นว่าคนอื่นไม่ค่อยสวมหน้ากากอนามัย จึงคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องใส่เหมือนกัน
ทั้งนี้ จากที่ลงพื้นที่คนที่สวมใส่หน้ากากอนามัยบอกว่าส่วนตัวรู้สึกว่าปฏิกิริยาจากภาครัฐมีแจ้งเตือนน้อยมาก ยอมรับแม้สถานการณ์ตอนนี้ไม่รุนแรงเท่าปีก่อน แต่อยากให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวังมากกว่านี้ เพราะบางคนไม่ได้ใช้โซเชียลในมือถือ อาจไม่เห็นความเคลื่อนไหว หรือไม่ทราบสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย