กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – ผู้ใช้น้ำมันคิดก่อนเติมพรุ่งนี้ ราคาเปลี่ยนแปลง บี 10 ลดลง 1 บาท บี 20 ขึ้น 2 บาท กลุ่มเบนซินคาดปรับลด ด้านหาบเร่แผงลอยที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโวยรัฐไม่ช่วยเหลือ หลังจากได้การช่วยเหลือมานานถึง 6 ปี
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันนี้ (30 ก.ย.) เห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของกลุ่มดีเซล เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการประกาศใช้บี 10 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานของประเทศ ส่งผลให้วันพรุ่งนี้ (1ต.ค.) ราคาขายปลีกบี 7 ไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาขายปลีกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ 25.99 บาท/ลิตร โดยเงินกองทุนจัดเก็บ 5 สตางค์/ลิตร จากเดิมอุดหนุน 10 สตางค์/ลิตร , บี 10 ราคาจะลดลง 1 บาทต่อลิตร ราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 23.99 บาท/ลิตร อัตรากองทุนจะเข้าอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 1.80 บาท จากเดิมอุดหนุน 0.95 บาท/ลิตร และบี 20 ราคาจะเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อลิตร ราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 22.99 บาทต่อลิตร อัตรากองทุนฯ จะอุดหนุนลดลงเหลือ 2.55 บาท/ลิตร จากเดิมอุดหนุน 4.80 บาท/ลิตร
ส่วนกลุ่มเบนซินจากที่ค่าการตลาดสูงกว่า 2 บาท/ลิตร คาดว่าผู้ค้าน้ำมันจะประกาศปรับลดราคาลงมาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมัน ตลาดโลกลดลง เนื่องจากซาอุดีอาระเบียสามารถกลับมาดำเนินการผลิตน้ำมันดิบได้เร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หลังโรงงานแปรรูปน้ำมันดิบและแหล่งผลิตน้ำมันดิบถูกโจมตีเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา
นายวีระพล กล่าวว่า หลังจากการปรับเปลี่ยนเงินกองทุนน้ำมันในส่วนของกลุ่มดีเซลแล้ว ทำให้การอุดหนุนน้อยลงส่งผลให้สภาพคล่องกองทุนฯ ดีขึ้น กองทุนฯ บัญชีน้ำมันติดลบ 392 ล้านบาท จากเดิมติดลบ 813 ล้านบาท และเมื่อรวมกับกองทุนฯ บัญชีก๊าซหุงต้มที่ส่งเงินเข้ากองทุน 186 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้เงินกองทุนฯ ไหลออก 206 ล้านบาทต่อเดือน โดยฐานะล่าสุดกองทุนฯ อยู่ที่ 38,748 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 44,327 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 5,579 ล้านบาท ซึ่งฐานะกองทุนยังสามารถดูแลเสถียรภาพราคาพลังงาน และวิกฤติพลังงาน ตามกรอบนโยบายเบื้องต้นอย่างไม่มีปัญหา โดยให้กองทุนฯเข้าดูแล กรณีหากราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงใน 5 วัน มากกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และดูแลแอลพีจีกรณีราคาเปลี่ยนแปลงมากกว่า 35 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือกว่า 1 บาทต่อกิโลกรัมในรอบ 2 สัปดาห์
ด้านกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า โครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ประกาศสิ้นสุดโครงการวันนี้ (30 ก.ย.62) หลังจากเริ่มใช้มาตั้งแต่ 1 กันยายน 2556 หรือ 6 ปีที่ผ่านมา โดยปรับเป็นการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไปในอัตราค่าลดราคาก๊าซ 100 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม จำนวน 88,000 ครัวเรือน จากเดิมมีผู้ได้รับการอุดหนุนราว 170,000 ราย เป็นทั้งผู้มีรายได้น้อย ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ได้รับอุดหนุนสูงสุด 187 บาทต่อถัง (โดยให้ส่วนลด 2.50 บาทต่อกิโลกรัมในปริมาณไม่เกิน 75 กิโลกรัมต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม) ทำให้มีชาวบ้านโทรศัพท์เข้ามาสอบถามศูนย์คอลล์เซนเตอร์เป็นจำนวนมาก โดยทางกระทรวงฯ ได้เพียงชี้แจงว่าผู้ที่ได้รับไม่ได้รับสิทธิ์ต้องรอโครงการลงทะเบียนเปิดใหม่จากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย