ศพ นศ.ฝึกงาน 13 ราย เหยื่อกระบะพลิกคว่ำ ถึงบ้านเกิดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 30 ก.ย. – ศพ นศ.วิทยาลัยเทคนิคทั้ง 13 ราย กลับถึงบ้านเกิด โดยมีรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู และญาติมารอรับศพ แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิตบอกว่ายังทำใจไม่ได้ คิดถึงลูก อยากให้ทางวิทยาลัยช่วยพาไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย 


จากเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ ในรถมีทั้งนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคนอื่นๆ  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดมาฝึกงานอยู่ในบริษัทที่ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 22 ใกล้กับที่พัก และฝึกงานเสร็จวันสุดท้าย จึงไปฉลองการจบหลักสูตรการฝึกงานกันที่บริษัท จากนั้นชักชวนกันไปดูคอนเสิร์ตหมอลำต่อ หลังคอนเสิร์ตจบ จึงนั่งรถกระบะมุ่งหน้ากลับที่พักซอยกิ่งแก้ว 22 แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว


จากวงจรปิดจะเห็นรถกระบะวิ่งมามาด้วยความเร็ว และพยายามแซงขวารถแท็กซี่ แต่จังหวะที่จะหักรถกลับเข้าเลนซ้าย เกิดเสียหลักชนกับกำแพงบ้านริมถนนและหมุนพลิกคว่ำกลางถนน ส่งผลให้คนที่นั่งกระบะหลังกระเด็นออกจากตัวรถ ส่วนวงจรปิดอีกมุม เห็นคนกระเด็นและกลิ้งไปตามพื้นถนนก่อนแน่นิ่งไป  


สำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่ามีคนนั่งมาในรถกระบะทั้งหมดรวม 19 คน เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 12 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางพลีอีก 1 คน รวมผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บก 6 คน จากเดิมที่ระบุว่ามี 5 คน เนื่องจากผู้บาดเจ็บที่ตรวจสอบได้เพิ่มเติมรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สิรินธร เขตประเวศ ส่วนอีก 5 คน รักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 จ.สมุทรปราการ สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน ในจำนวนนี้ 4 คนนั่งอยู่ในรถ ส่วนอีก 2 คนนั่งอยู่กระบะหลัง 

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ราชาเทวะ พร้อมอุปกรณ์เคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าส่องทางที่ถูกชนหักเสียหายออกจากจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่ยังเห็นร่องรอยความเสียหาย ตู้โทรศัพท์ กำแพงบ้าน และเศษชิ้นส่วนของรถกระบะ นายเดชา เพ็ชรไทย ระบุเป็นอุบัติเหตุครั้งรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของถนนเส้นนี้ ถนนกิ่งแก้วมีระยะทาง 9 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นถนนเส้นตรงยาว 4 เลน มีไฟส่องทางสว่างตลอดคืน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็ว และช่วงกลางคืนจะขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ จึงมักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์

หลังเกิดเหตุนายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตรายละ 3,0000 บาท 

ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีประกันชีวิตที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษทำไว้ให้กับนักศึกษาทุกคนส่วนหนึ่ง เงินชดเชยจาก คปภ.ประมาณรายละ 100,000 บาท และการเยียวยาช่วยเหลืออื่นๆ จากสำนักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา ส่วนการนำศพกลับภูมิลำเนาและค่าใช้จ่ายในสถานพยาบาล ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้การช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับนักศึกษาที่เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ระหว่างฝึกงานนอกสถาบันเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษา โดยมีกำหนดเดินทางกลับสัปดาห์หน้า

ด้านครอบครัว ญาติ และตัวแทนวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เดินทางไปที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับศพนักศึกษาและพนักงานบริษัทเอกชน 13 ราย บรรยากาศค่อนข้างโกลาหล แต่ก็มีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายมาคอยอำนวยความสะดวก

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ 10 คน ศิษย์เก่าของวิทยาลัย 2 คน และพนักงานบริษัทเอกชน 1 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจัดรถ 13 คัน นำศพทั้งหมดกลับภูมิลำเนา

ล่าสุดเมื่อเวลาตี 01.00 น. ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) ศพนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษกลับถึงบ้านเกิดแล้ว ที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน อ.เมือง โดยมีนายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู บุคลากรวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และญาติผู้เสียชีวิต มารอรับศพ

นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ที่ต้องนำศพมารวมในจุดนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ขับรถมาส่งได้หยุดพัก และทำความเข้าใจถึงเส้นทางของแต่ละจุดที่จะไป และให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ไม่ได้ไปรับศพได้พบเห็นหน้าลูกหลานก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน ขับรถนำรถขนศพไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (30 ก.ย.) ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จะเดินทางมาประชุมให้แนวทางแก้ไขปัญหา เยียวยาผู้ประสบเหตุดังกล่าว และไปเคารพศพ ส่วนในช่วงเย็นจะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายศุภพัชชา ดอกโศก ที่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 5 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ด้านนางภัทรวรรณ ชนกเนตร แม่ของนายเทียนชัย ชนกเมตร หนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า รู้ข่าวลูกประมาณตี 03.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ว่าน้องเสียชีวิตอุบัติเหตุ จนถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ คิดถึงน้องอยู่เสมอ ขอให้วิญญาณน้องกลับมาสู่บ้านเกิด ถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าก็ขอให้กลับมาเกิดมาเป็นลูกแม่อีกครั้ง หากเป็นไปได้ขอให้ทางวิทยาลัยช่วยพาตนและครอบครัวน้องๆ ที่ประสบเหตุไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย พร้อมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ค่อยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ จนสามารถนำศพน้องๆ กลับมาสู่บ้านเกิด เบื้องต้นจะตั้งศพสวดอภิธรรมไว้ 3 วัน และเก็บศพน้องไว้เป็นเวลา 3 ปี เพราะตามประเพณีที่ยึดถือมาถ้าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตผิดปกติหรือตายโหง จะไม่มีการเผาศพเลย ต้องศพไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาทำพิธีเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศพที่นำมา จ.ศรีสะเกษ มีทั้งหมด 11 ศพ ได้แก่ 1.นายศุภพัชชา ดอกโศก 2.นายศุภวัฒน์ มาเสมอ 3. นายโกวิทย์ สิมลี 4.นายสุประชัย วรรณทวี 5.นายอุดม สานุการ 6.นายโชคชัย ทานนท์ 7.นายสุริยัน สีถาน 8.นายเทียนชัย ชนกเนตร  9.นายสุทิน จันทร์สมุท 10.นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์ 11.นายวรายุทธ ไชยปัญญา และอีกหนึ่งคนคือนายพรัตน์ ไชยรัตน์ ทางญาติได้นำไป จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปบำเพ็ญตามประเพณีต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

กระบะ นศ.กลับจากเลี้ยงส่งฝึกงานวันสุดท้าย เสียหลักชนเสาไฟ ตาย 13

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถนนกิ่งแก้ว 13 ศพ

ญาติมิตรร่วมอาลัยครอบครัวของนักศึกษาศรีสะเกษเสียชีวิตอุบัติเหตุที่สมุทรปราการ

Big Story : ครอบครัวรับศพ นศ.เทคนิคศรีสะเกษ กระบะพลิกคว่ำ

ย้อนเหตุการณ์! กระบะพลิกคว่ำ นศ.ฝึกงานดับ 13

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย