ศพ นศ.ฝึกงาน 13 ราย เหยื่อกระบะพลิกคว่ำ ถึงบ้านเกิดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 30 ก.ย. – ศพ นศ.วิทยาลัยเทคนิคทั้ง 13 ราย กลับถึงบ้านเกิด โดยมีรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู และญาติมารอรับศพ แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิตบอกว่ายังทำใจไม่ได้ คิดถึงลูก อยากให้ทางวิทยาลัยช่วยพาไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย 


จากเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ ในรถมีทั้งนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคนอื่นๆ  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดมาฝึกงานอยู่ในบริษัทที่ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 22 ใกล้กับที่พัก และฝึกงานเสร็จวันสุดท้าย จึงไปฉลองการจบหลักสูตรการฝึกงานกันที่บริษัท จากนั้นชักชวนกันไปดูคอนเสิร์ตหมอลำต่อ หลังคอนเสิร์ตจบ จึงนั่งรถกระบะมุ่งหน้ากลับที่พักซอยกิ่งแก้ว 22 แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว


จากวงจรปิดจะเห็นรถกระบะวิ่งมามาด้วยความเร็ว และพยายามแซงขวารถแท็กซี่ แต่จังหวะที่จะหักรถกลับเข้าเลนซ้าย เกิดเสียหลักชนกับกำแพงบ้านริมถนนและหมุนพลิกคว่ำกลางถนน ส่งผลให้คนที่นั่งกระบะหลังกระเด็นออกจากตัวรถ ส่วนวงจรปิดอีกมุม เห็นคนกระเด็นและกลิ้งไปตามพื้นถนนก่อนแน่นิ่งไป  


สำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่ามีคนนั่งมาในรถกระบะทั้งหมดรวม 19 คน เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 12 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางพลีอีก 1 คน รวมผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บก 6 คน จากเดิมที่ระบุว่ามี 5 คน เนื่องจากผู้บาดเจ็บที่ตรวจสอบได้เพิ่มเติมรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สิรินธร เขตประเวศ ส่วนอีก 5 คน รักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 จ.สมุทรปราการ สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน ในจำนวนนี้ 4 คนนั่งอยู่ในรถ ส่วนอีก 2 คนนั่งอยู่กระบะหลัง 

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ราชาเทวะ พร้อมอุปกรณ์เคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าส่องทางที่ถูกชนหักเสียหายออกจากจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่ยังเห็นร่องรอยความเสียหาย ตู้โทรศัพท์ กำแพงบ้าน และเศษชิ้นส่วนของรถกระบะ นายเดชา เพ็ชรไทย ระบุเป็นอุบัติเหตุครั้งรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของถนนเส้นนี้ ถนนกิ่งแก้วมีระยะทาง 9 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นถนนเส้นตรงยาว 4 เลน มีไฟส่องทางสว่างตลอดคืน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็ว และช่วงกลางคืนจะขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ จึงมักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์

หลังเกิดเหตุนายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตรายละ 3,0000 บาท 

ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีประกันชีวิตที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษทำไว้ให้กับนักศึกษาทุกคนส่วนหนึ่ง เงินชดเชยจาก คปภ.ประมาณรายละ 100,000 บาท และการเยียวยาช่วยเหลืออื่นๆ จากสำนักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา ส่วนการนำศพกลับภูมิลำเนาและค่าใช้จ่ายในสถานพยาบาล ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้การช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับนักศึกษาที่เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ระหว่างฝึกงานนอกสถาบันเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษา โดยมีกำหนดเดินทางกลับสัปดาห์หน้า

ด้านครอบครัว ญาติ และตัวแทนวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เดินทางไปที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับศพนักศึกษาและพนักงานบริษัทเอกชน 13 ราย บรรยากาศค่อนข้างโกลาหล แต่ก็มีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายมาคอยอำนวยความสะดวก

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ 10 คน ศิษย์เก่าของวิทยาลัย 2 คน และพนักงานบริษัทเอกชน 1 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจัดรถ 13 คัน นำศพทั้งหมดกลับภูมิลำเนา

ล่าสุดเมื่อเวลาตี 01.00 น. ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) ศพนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษกลับถึงบ้านเกิดแล้ว ที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน อ.เมือง โดยมีนายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู บุคลากรวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และญาติผู้เสียชีวิต มารอรับศพ

นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ที่ต้องนำศพมารวมในจุดนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ขับรถมาส่งได้หยุดพัก และทำความเข้าใจถึงเส้นทางของแต่ละจุดที่จะไป และให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ไม่ได้ไปรับศพได้พบเห็นหน้าลูกหลานก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน ขับรถนำรถขนศพไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (30 ก.ย.) ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จะเดินทางมาประชุมให้แนวทางแก้ไขปัญหา เยียวยาผู้ประสบเหตุดังกล่าว และไปเคารพศพ ส่วนในช่วงเย็นจะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายศุภพัชชา ดอกโศก ที่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 5 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ด้านนางภัทรวรรณ ชนกเนตร แม่ของนายเทียนชัย ชนกเมตร หนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า รู้ข่าวลูกประมาณตี 03.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ว่าน้องเสียชีวิตอุบัติเหตุ จนถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ คิดถึงน้องอยู่เสมอ ขอให้วิญญาณน้องกลับมาสู่บ้านเกิด ถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าก็ขอให้กลับมาเกิดมาเป็นลูกแม่อีกครั้ง หากเป็นไปได้ขอให้ทางวิทยาลัยช่วยพาตนและครอบครัวน้องๆ ที่ประสบเหตุไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย พร้อมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ค่อยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ จนสามารถนำศพน้องๆ กลับมาสู่บ้านเกิด เบื้องต้นจะตั้งศพสวดอภิธรรมไว้ 3 วัน และเก็บศพน้องไว้เป็นเวลา 3 ปี เพราะตามประเพณีที่ยึดถือมาถ้าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตผิดปกติหรือตายโหง จะไม่มีการเผาศพเลย ต้องศพไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาทำพิธีเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศพที่นำมา จ.ศรีสะเกษ มีทั้งหมด 11 ศพ ได้แก่ 1.นายศุภพัชชา ดอกโศก 2.นายศุภวัฒน์ มาเสมอ 3. นายโกวิทย์ สิมลี 4.นายสุประชัย วรรณทวี 5.นายอุดม สานุการ 6.นายโชคชัย ทานนท์ 7.นายสุริยัน สีถาน 8.นายเทียนชัย ชนกเนตร  9.นายสุทิน จันทร์สมุท 10.นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์ 11.นายวรายุทธ ไชยปัญญา และอีกหนึ่งคนคือนายพรัตน์ ไชยรัตน์ ทางญาติได้นำไป จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปบำเพ็ญตามประเพณีต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

กระบะ นศ.กลับจากเลี้ยงส่งฝึกงานวันสุดท้าย เสียหลักชนเสาไฟ ตาย 13

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถนนกิ่งแก้ว 13 ศพ

ญาติมิตรร่วมอาลัยครอบครัวของนักศึกษาศรีสะเกษเสียชีวิตอุบัติเหตุที่สมุทรปราการ

Big Story : ครอบครัวรับศพ นศ.เทคนิคศรีสะเกษ กระบะพลิกคว่ำ

ย้อนเหตุการณ์! กระบะพลิกคว่ำ นศ.ฝึกงานดับ 13

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ