ศพ นศ.ฝึกงาน 13 ราย เหยื่อกระบะพลิกคว่ำ ถึงบ้านเกิดศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 30 ก.ย. – ศพ นศ.วิทยาลัยเทคนิคทั้ง 13 ราย กลับถึงบ้านเกิด โดยมีรองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู และญาติมารอรับศพ แม่ของหนึ่งในผู้เสียชีวิตบอกว่ายังทำใจไม่ได้ คิดถึงลูก อยากให้ทางวิทยาลัยช่วยพาไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย 


จากเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณปากซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ ในรถมีทั้งนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และคนอื่นๆ  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดมาฝึกงานอยู่ในบริษัทที่ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 22 ใกล้กับที่พัก และฝึกงานเสร็จวันสุดท้าย จึงไปฉลองการจบหลักสูตรการฝึกงานกันที่บริษัท จากนั้นชักชวนกันไปดูคอนเสิร์ตหมอลำต่อ หลังคอนเสิร์ตจบ จึงนั่งรถกระบะมุ่งหน้ากลับที่พักซอยกิ่งแก้ว 22 แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว


จากวงจรปิดจะเห็นรถกระบะวิ่งมามาด้วยความเร็ว และพยายามแซงขวารถแท็กซี่ แต่จังหวะที่จะหักรถกลับเข้าเลนซ้าย เกิดเสียหลักชนกับกำแพงบ้านริมถนนและหมุนพลิกคว่ำกลางถนน ส่งผลให้คนที่นั่งกระบะหลังกระเด็นออกจากตัวรถ ส่วนวงจรปิดอีกมุม เห็นคนกระเด็นและกลิ้งไปตามพื้นถนนก่อนแน่นิ่งไป  


สำนักข่าวไทยตรวจสอบพบว่ามีคนนั่งมาในรถกระบะทั้งหมดรวม 19 คน เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 12 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางพลีอีก 1 คน รวมผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บก 6 คน จากเดิมที่ระบุว่ามี 5 คน เนื่องจากผู้บาดเจ็บที่ตรวจสอบได้เพิ่มเติมรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สิรินธร เขตประเวศ ส่วนอีก 5 คน รักษาตัวที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 จ.สมุทรปราการ สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน ในจำนวนนี้ 4 คนนั่งอยู่ในรถ ส่วนอีก 2 คนนั่งอยู่กระบะหลัง 

เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ราชาเทวะ พร้อมอุปกรณ์เคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าส่องทางที่ถูกชนหักเสียหายออกจากจุดเกิดเหตุ ในพื้นที่ยังเห็นร่องรอยความเสียหาย ตู้โทรศัพท์ กำแพงบ้าน และเศษชิ้นส่วนของรถกระบะ นายเดชา เพ็ชรไทย ระบุเป็นอุบัติเหตุครั้งรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของถนนเส้นนี้ ถนนกิ่งแก้วมีระยะทาง 9 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นถนนเส้นตรงยาว 4 เลน มีไฟส่องทางสว่างตลอดคืน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็ว และช่วงกลางคืนจะขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าปกติ จึงมักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์

หลังเกิดเหตุนายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นได้มอบเงินเยียวยาให้กับผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตรายละ 3,0000 บาท 

ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีประกันชีวิตที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษทำไว้ให้กับนักศึกษาทุกคนส่วนหนึ่ง เงินชดเชยจาก คปภ.ประมาณรายละ 100,000 บาท และการเยียวยาช่วยเหลืออื่นๆ จากสำนักงานคณะกรรมอาชีวศึกษา ส่วนการนำศพกลับภูมิลำเนาและค่าใช้จ่ายในสถานพยาบาล ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้การช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับนักศึกษาที่เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ระหว่างฝึกงานนอกสถาบันเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษา โดยมีกำหนดเดินทางกลับสัปดาห์หน้า

ด้านครอบครัว ญาติ และตัวแทนวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เดินทางไปที่ รพ.รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อรับศพนักศึกษาและพนักงานบริษัทเอกชน 13 ราย บรรยากาศค่อนข้างโกลาหล แต่ก็มีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายมาคอยอำนวยความสะดวก

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย เป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ 10 คน ศิษย์เก่าของวิทยาลัย 2 คน และพนักงานบริษัทเอกชน 1 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจัดรถ 13 คัน นำศพทั้งหมดกลับภูมิลำเนา

ล่าสุดเมื่อเวลาตี 01.00 น. ที่ผ่านมา (30 ก.ย.) ศพนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษกลับถึงบ้านเกิดแล้ว ที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน อ.เมือง โดยมีนายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ พร้อมคณะครู บุคลากรวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ และญาติผู้เสียชีวิต มารอรับศพ

นายอักษรศิลป์ แก้วมาหาวงศ์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ที่ต้องนำศพมารวมในจุดนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ขับรถมาส่งได้หยุดพัก และทำความเข้าใจถึงเส้นทางของแต่ละจุดที่จะไป และให้พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ไม่ได้ไปรับศพได้พบเห็นหน้าลูกหลานก่อนนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างจิตศรีสะเกษธรรมสถาน ขับรถนำรถขนศพไปส่งตามพื้นที่ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (30 ก.ย.) ดร.พีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จะเดินทางมาประชุมให้แนวทางแก้ไขปัญหา เยียวยาผู้ประสบเหตุดังกล่าว และไปเคารพศพ ส่วนในช่วงเย็นจะเดินทางไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายศุภพัชชา ดอกโศก ที่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 5 ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ

ด้านนางภัทรวรรณ ชนกเนตร แม่ของนายเทียนชัย ชนกเมตร หนึ่งในผู้เสียชีวิต บอกว่า รู้ข่าวลูกประมาณตี 03.00 น. ของวันที่ 29 ก.ย. ว่าน้องเสียชีวิตอุบัติเหตุ จนถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ คิดถึงน้องอยู่เสมอ ขอให้วิญญาณน้องกลับมาสู่บ้านเกิด ถ้าเป็นไปได้ชาติหน้าก็ขอให้กลับมาเกิดมาเป็นลูกแม่อีกครั้ง หากเป็นไปได้ขอให้ทางวิทยาลัยช่วยพาตนและครอบครัวน้องๆ ที่ประสบเหตุไปทำพิธีเรียกขวัญนำวิญญาณน้องๆ กลับสู่บ้านเกิดด้วย พร้อมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ค่อยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ จนสามารถนำศพน้องๆ กลับมาสู่บ้านเกิด เบื้องต้นจะตั้งศพสวดอภิธรรมไว้ 3 วัน และเก็บศพน้องไว้เป็นเวลา 3 ปี เพราะตามประเพณีที่ยึดถือมาถ้าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตผิดปกติหรือตายโหง จะไม่มีการเผาศพเลย ต้องศพไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาทำพิธีเผา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศพที่นำมา จ.ศรีสะเกษ มีทั้งหมด 11 ศพ ได้แก่ 1.นายศุภพัชชา ดอกโศก 2.นายศุภวัฒน์ มาเสมอ 3. นายโกวิทย์ สิมลี 4.นายสุประชัย วรรณทวี 5.นายอุดม สานุการ 6.นายโชคชัย ทานนท์ 7.นายสุริยัน สีถาน 8.นายเทียนชัย ชนกเนตร  9.นายสุทิน จันทร์สมุท 10.นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์ 11.นายวรายุทธ ไชยปัญญา และอีกหนึ่งคนคือนายพรัตน์ ไชยรัตน์ ทางญาติได้นำไป จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปบำเพ็ญตามประเพณีต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

กระบะ นศ.กลับจากเลี้ยงส่งฝึกงานวันสุดท้าย เสียหลักชนเสาไฟ ตาย 13

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุถนนกิ่งแก้ว 13 ศพ

ญาติมิตรร่วมอาลัยครอบครัวของนักศึกษาศรีสะเกษเสียชีวิตอุบัติเหตุที่สมุทรปราการ

Big Story : ครอบครัวรับศพ นศ.เทคนิคศรีสะเกษ กระบะพลิกคว่ำ

ย้อนเหตุการณ์! กระบะพลิกคว่ำ นศ.ฝึกงานดับ 13

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]