รวบแก๊ง”หัวลำโพง”ล่อลวงเด็กค้าประเวณี-ชิงทรัพย์ ขัดขืนทำร้ายร่างกาย

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- ตำรวจ ปคม.รวบแก๊งหัวลำโพง ล่อลวงบังคับเด็กค้าประเวณี ออกชิงทรัพย์ และส่งยาเสพติด หากขัดขืนจะถูกมีดกรีดแขน เทียนหยดใส่ ทำร้ายร่างกายและบังคับข่มขืน 


ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 นาย เปิดปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่ย่านหัวลำโพง เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา(28 ก.ย.) หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมได้รับข้อมูลจากมูลนิธิแห่งหนึ่งว่า มีขบวนการค้ามนุษย์ที่เป็นการรวมตัวของผู้ที่เคยกระทำผิดกฎหมายกว่า 20 คน หลอกชักชวนและขู่บังคับเด็กชายและเด็กหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปค้าบริการทางเพศตามโรงแรมต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียงสถานีรถไฟหัวลำโพง และให้ไปกระทำผิดกฎหมาย เช่น จี้ชิงทรัพย์ และส่งยาเสพติด โดยตำรวจจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งหมด 13 คน มีตั้งแต่แกนนำกลุ่ม / คนที่ทำหน้าที่จัดหาเด็กไปค้าบริการ / นายหน้า และคนที่ทำร้ายร่างกายเด็ก พร้อมยึดหลักฐานต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ / บัญชีธนาคาร และเอกสารต่างๆ ไป ตรวจสอบขยายผล และส่งไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่ มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และชิงทรัพย์ และบางคนมีประวัติเกี่ยวกับการค้าประเวณีด้วย

พลตำรวจตรีวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการ ปคม. บอกว่า สอบสวนผู้ต้องหาชุดแรก รับว่าล่อลวงเด็กมาก่อเหตุจริง ซึ่งทำมาได้ 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กมีปัญหากับคนในครอบครัว หลบหนีมาอยู่ละแวกหัวลำโพง ซึ่งแรกๆ จะชักชวนให้มาอาศัยอยู่ด้วย มีการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี จากนั้นจะเริ่มออกกฎเกณฑ์ข้อบังคับ และขู่เข็ญให้ทำตามคำสั่ง รวมถึงบังคับให้เสพยาเสพติด ส่วนการตรวจสอบประวัติพบว่านายนรินทร รอบรู้ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีประวัติต้องโทษจำคุก 2 ครั้ง ในคดีชิงทรัพย์และจำหน่ายยาเสพติด ส่วนนายทองเค ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย พบว่าต้องโทษจำคุก 3 ครั้ง ในคดีเสพยาเสพติดและค้าประเวณี โดยขบวนการนี้รู้จักกันหลังพ้นโทษและกลายเป็นคนเร่ร่อน จนเกิดการชักชวนกันกระทำความผิด


ขณะที่พันตำรวจเอกมานะ กลีบสัตบุศย์ รองผู้บังคับการ ปคม. ระบุว่า จากการซักถามเหยื่อที่ถูกทำร้ายร่างกาย พบว่าถูกใช้ของมีคมกรีดที่แขน ใช้เทียนหยดใส่ หรือน้ำร้อนราด ซึ่งเกิดจากการบังคับให้ไปค้าประเวณีแต่เด็กขัดขืนไม่ยินยอม ซึ่งบางรายจะถูกข่มขืนด้วย ส่วนเงินที่ได้จากการค้าประเวณีจะได้ครั้งละ 400-600 บาท และถูกหักเงินให้กลุ่มผู้ต้องหาประมาณครึ่งหนึ่ง 

สำหรับการช่วยเหลือและเยียวยาเหยื่อซึ่งเป็นเด็กทั้งหมด 14 คน จากการตรวจสอบพบว่า 8 คน เป็นเหยื่อที่ถูกล่อลวงชัดเจน ส่วนอีก 4 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบและคัดแยกว่าเป็นผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะรับให้การช่วยเหลือ ประสานครอบครัวปรับความเข้าใจ แก้ปัญหาให้เด็กที่ตกเป็นเหยื่อต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย