กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – รมว.พลังงานเผยโรงไฟฟ้าชุมชนเนื้อหอม ชุมชน-เอกชน เสนอโครงการเพียบคาดเม็ดเงินลงทุน 1-2 แสนล้านบาท ไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ รูปแบบเป็น Hybrid ผสมโซลาร์เซลล์-พืชพลังงาน เป็นหลัก
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นโยบายหลัก คือ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยเฉพาะการส่งเสริมพืชพลังงานทั้งการนำไปใช้ในเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าชุมขน ซึ่งจะนำไปเชื่ิิอมต่อกับโครงการ “ประชารัฐสร้างไทย” เพื่อให้ชาวบ้่านเข้มแข็งโดยเร็ว
สำหรับกรอบโรงไฟฟ้าชุมชนจะศึกษาเสร็จใน 2 เดือนนี้ เป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชนและชุมชน ซึ่งจากการศึกษาพบว่ามีพื้นที่ดำเนินการได้ทันทีกว่า 1,000 พื้นที่ รวมกว่า 1,000 เมกะวัตต์ คาดเม็ดเงินลงทุนประมาณ 100,000-200,000 ล้านบาท โรงไฟ้ฟ้าจะเป็นรูปแบบ VSPP กำลังผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์/โรง พื้นที่แรก ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับความพร้อมของวัตถุดิบในพื้นที่และสายส่ง รวมทั้งพื้นที่ที่ห่างไกล เช่น ชายแดน หรือเกาะต่าง ๆ รวมทั้งพื้นที่ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร
“โรงไฟฟ้าชุมชุนจะเป็นลักษณะไฮบริดผสมผสานระหว่างเชื้อเพลิงในท้องถิ่น เช่น ไบโอแมส ไบโอแก๊ส ขยะ ร่วมกับโซลาร์เซลล์ เพราะขณะนี้ไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ราคาต่ำอย่างรวดเร็ว ที่ตะวันออกกลางค่าไฟฟ้าโซลาร์อยู่ที่ 1.90 บาท/หน่วยเท่านั้น การทำไฮบริดต้นทุนจะต่ำและเกิดการผลิตต่อเนื่อง” รมว.พลังงาน กล่าว
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าชุมชนจะดูไปถึงการส่งเสริมการปลูกพืชพลังงาน พืชโตเร็ว ทดแทนการพืชที่มีราคาต่ำ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสนอทั้งการปลูกหญ้าเนเปียร์ ไผ่ คาดจะต้องใช้พื้นที้ปลูก 800-1,000 ไร่/กำลังผลิตไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันจะดูถึงการต่อยอด ว่าจะนำไฟฟ้าไปใช้ประโยชน์อย่างไร เช่น การลงทุนทำห้องเย็น เพื่อจัดเก็บพืชผลทางการเกษตร เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
รมว.พลังงาน ยังกล่าวด้วยว่า นโยบายหลักอื่น ๆ ไทยจะเดินหน้าเป็นเทรดเดอร์ไฟฟ้าและเป็นศูนย์กลางการค้า LNG ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้ไทยและอาเซียนเติบโตไปพร้อม ๆ กัน.-สำนักข่าวไทย