คุก 2 เดือน “ระพิพรรณ” ยื่นหนี้เท็จ – ริบทรัพย์ 42 ล้าน

กทม. 16 ก.ย.- ศาลฎีกานักการเมืองพิพากษาจำคุก “ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง” 2 เดือน ยื่นหนี้เท็จ – ริบทรัพย์ 42 ล้าน รวยผิดปกติ พร้อมออกหมายจับมาบังคับโทษ โดยไม่มีอายุความ


ศาลฎีกาวันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษานัดอ่านคำพิพากษา คดียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ร้อง ได้ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยว่านางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยาของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 34 และมีบทลงโทษทางอาญา มาตรา 119 ซึ่งนางระพิพรรณ ทราบนัดโดยชอบแล้ววันนี้ ตัวไม่มาศาล ศาลจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 40 วรรคสองอ่านคำพิพากษาลับหลัง ผู้ถูกกล่าวหา และถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบคำพิพากษาแล้ว


ศาลเห็นว่านางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา แสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยระบุว่ามีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ คือสัญญาที่นางระพีพรรณ กู้ยืมเงินจำนวน 3 ฉบับ รวม 13 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง แสดงรายได้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 15 ล้านบาท โดยนางระพีพรรณไม่ได้รับเงินจริง แสดงรายได้จากสัญญาจ้างทำของของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง คู่สมรส จำนวน 27 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักน่าเชื่อ ว่านายอริสมันต์ได้มีการรับจ้างงานดังกล่าวจริง ดังนั้นจึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำดังกล่าวทำขึ้นเพื่อปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ของนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหาและนายอริสมันต์ คู่สมรส

นอกจากนี้นางระพิพรรณ ไม่ได้ระบุในบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ว่าเงินลงทุนของผู้ถูกกล่าวหาในบริษัทเฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ 2012 จำกัด มูลค่า 25 ล้านบาท เป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าหุ้น จึงทำให้เข้าใจว่าผู้ถูกกล่าวหานำเงินไปลงทุนในบริษัทตามมูลค่าหุ้นดังกล่าว อันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา จึงมีความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามคำร้อง


ศาลจึงพิพากษาให้จำคุกนางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเวลา 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ และห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ศาลได้ออกหมายจับ ให้ติดตามตัว นางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหา มาบังคับตามคำพิพากษาโดยไม่มีกำหนดอายุความด้วย

จากนั้น ในเวลา 15.30 น. องค์คณะผู้พิพากษา คดีริบทรัพย์ ที่อัยการสูงสุด ผู้ร้อง ขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพยสินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พท. รวมมูลค่า 42,816,226 บาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 38 ซึ่งมี น.ส.จันทาภา พิษณุไวศยวาท ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของของทรัพย์สินบางรายการ เป็นผู้คัดค้านที่ 1 , บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้คัดค้านที่ 2 , นายอริสมันต์ คู่สมรส เป็นผู้คัดค้านที่ 3

กรณีนี้ สืบเนื่องจาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนางระพิพรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบกรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมมูลค่า 42,816,226.64 บาท ซึ่ง ป.ป.ช.ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานให้อัยการยื่นฟ้องศาลฎีกาฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้นางระพิพรรณ ผู้ถูกกล่าวหาก็ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาเช่นกัน แต่มอบหมายให้ทนายความ มาฟังคำพิพากษาแทน

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการที่จะตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินหรือหนี้สิน เมื่อพ้นตำแหน่ง ว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติไปจากกรณีเข้ารับตำแหน่งหรือไม่นั้น ตามธรรมดาย่อมจะต้องพิจารณาถึงเหตุแห่งการได้มา การโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินในระหว่างดำรงตำแหน่งนั้นมีอย่างไร ซึ่งศาลพิจารณาข้อเท็จจริงตามที่นางระพิพรรณ มีภาระการพิสูจน์แล้ว พบว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญรวม 42,816,226.64 บาท

สำหรับรถยนต์ BMW รุ่น 730 Ld เลขทะเบียน ถ-8988 (ป้ายแดง) ฟังได้ว่า บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามคำร้อง ที่ได้ให้นางระพิพรรณ เช่าซื้อรถยนต์ไป ตามธรรมดาทางการค้าปกติย่อมไม่อาจทราบได้ว่าเงินที่ชำระค่ารถยนต์ที่เช่าซื้อจะมาจากทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งต่อมาเมื่อผู้ถูกกล่าวหาผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ บริษัทผู้คัดค้านที่ 2 ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อและฟ้องร้องจนศาลแพ่งมีคำพิพากษาแล้ว เมื่อผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าของ ย่อมมีสิทธิติดตามเอาทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อคืนได้ การยื่นคำคัดค้านขอคืนรถยนต์ตามคำร้องเพื่อประโยชน์ของตนไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา จึงสมควรคืนรถยนต์ของกลางให้แก่บริษัทผู้คัดค้านที่ 2

ศาลจึงพิพากษาให้ทรัพย์สินมูลค่า 42,816,226.64 บาท พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 , 38 ประกอบมาตรา 83 โดยให้คืนรถยนต์ BMW แก่บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทรัพย์สิน ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ดังนี้ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท, ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวนเงิน 1.9 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง สามีของนางระพิพรรณ ก่อนหน้านี้ศาลฎีกาฯ ก็ได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับเพื่อติดตามตัวมาร่วมกระบวนพิจารณาคดี กรณีที่ถูกกล่าวหาร่วมทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรด้วย หลังจากที่ไม่ได้มาศาลในวันไต่สวนพยานฝั่งของอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้นายอริสมันต์ ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดพัทยาด้วย ที่ให้ติดตามจับกุมตัวนายอริสมันต์จำเลยที่ 1 มาร่วมฟังคำพิพากษาฎีกา คดีร่วมกับกลุ่มแกนนำ นปช. 13 ราย ที่ได้ร่วมกันบุกรุกโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช พีทยา ขัดขวางการประชุมอาเซียน ซัมมิทปี 2552 ซึ่งศาลกำหนดนัดฟังคำพิพากษาฎีกาในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น..-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง