ศาลฎีกาฯ 26 ก.ย.-“ระพิพรรณ” เมียกี้ร์ นอนเรือนจำ 2 เดือน หลังศาลฎีกาฯ ไม่ให้ประกันตัว คดีแจ้งหนี้สินเป็นเท็จ หวั่นหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง ทนายความ ได้พา นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อายุ 46 ปี อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำเลยคดีแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จฯ ภรรยาของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หรือกี้ร์ จำเลยที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ ได้มาแสดงตนต่อศาล หลังศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับนางระพีพรรณและปรับนายประกัน เพื่อมารับโทษตามคำพิพากษไว้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.62 ที่ผ่านมา เนื่องจากนางระพิพรรณ ไม่ยอมมาฟังคำพิพากษา กรณี ป.ป.ช.กล่าวหาว่า นางระพิพรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จฯ
โดยภายหลังจากที่นางรพิพรรณมาแสดงตัวต่อศาลฎีกาแล้วทนายความก็ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาด้วย
กระทั่งเวลา 13.35 น. นายกัณต์พัศฐ์ ทนายความกล่าวว่า หลังจากที่ยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดีแล้ว ศาลก็พิจารณาเห็นว่า ในวันนัดอ่านคำพิพากษาจำเลยไม่ได้มาศาล ซึ่งมีพฤติการณ์น่าจะหลบหนี ดังนั้นหากปล่อยชั่วคราวก็เกรงว่าจะหลบหนีอีก จึงให้ยกคำร้อง
อย่างไรก็ตามในการที่มาแสดงตัวต่อศาลในวันนี้ก็ประสงค์ที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไปด้วย ทั้ง 2 คดี คือคดีอาญาที่ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเป็นเท็จ และคดีแพ่งที่อัยการสูงสุดร้องขอให้ทรัพย์สินของ นางระพิพรรณ จำนวน 42 ล้านบาทเศษ ตกเป็นของแผ่นดิน หลังจากนี้นางระพิพรรณ ก็จะต้องถูกนำตัวไปควบคุมเป็นเวลา 2 เดือนที่ทัณฑสถานหญิงกลางก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญา ที่ ป.ป.ช.กล่าวหา “นางระพิพรรณ” ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จในคดีหมายเลขดำ อม.1/2562 นั้น ศาลฎีกาฯ พิพากษา ให้จำคุกเป็นเวลา 2 เดือนโดยไม่รอลงอาญา และห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ศาลได้ออกหมายจับ ให้ติดตามตัว “นางระพิพรรณ” ผู้ถูกกล่าวหา มาบังคับตามคำพิพากษาโดยไม่มีกำหนดอายุความด้วย
ส่วนคดีแพ่ง ที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ริบทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ของ นางระพิพรรณ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผู้ถูกกล่าวหา รวมมูลค่า 42,816,226 บาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ในคดีหมายเลขดำ อม.77/2561 นั้น ศาลฎีกาฯ ก็มีคำพิพากษาในวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ทรัพย์สินมูลค่า 42,816,226.64 บาท พร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 , 38 ประกอบมาตรา 83 โดยให้คืนรถยนต์ BMW รุ่น 730 Ld เลขทะเบียน ถ-8988 (ป้ายแดง) แก่บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คัดค้านที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับทรัพย์สิน ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่าเพิ่มขึ้นผิดปกติของนางระพิพรรณ ดังนี้ เงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงิน 27,618,954 บาท, ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9,492,000 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2 ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน มูลค่า 1,805,272 บาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวนเงิน 1.9 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย