กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กระทรวงพลังงานเร่งหารือสิทธิ์ส่วนลดค่าแก๊ส ช่วยกลุ่มหาบเร่-แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือราคาขายปลีกแอลพีจีภาคครัวเรือน เฉพาะกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร เพื่อให้ผู้ใช้ก๊าซหุงต้มกลุ่มนี้ได้เข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือไม่เกิดความซ้ำซ้อนกับความช่วยเหลือจากโครงการเดิมของกระทรวงฯ ที่มีอยู่ และเป็นการช่วยเหลือได้ตรงจุดตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ปัจจุบันนโยบายการจัดประชารัฐสวัสดิการ โดยให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้านพลังงาน ซึ่งผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในฐานข้อมูลระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ใช้ 1 ครั้งต่อ 3 เดือน) ซึ่งเริ่มใช้ส่วนลดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา
ส่วนภาคครัวเรือนที่เป็นกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ซึ่งยังไม่ได้เข้าระบบบัตรสวัสดิการฯ แต่ยังคงได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกแอลพีจีภาคครัวเรือนที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ความช่วยเหลือ โดยเกณฑ์ช่วยเหลือร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร คือปริมาณใช้ก๊าซหุงต้มสูงสุดไม่เกิน 75 กก.ต่อเดือน ปตท.ช่วยเหลือ 2.50 บาทต่อ กก. ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 มีมติให้กรมพัฒนาธุรกิจพลังงานขอความร่วมมือจาก ปตท.ขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่จะสิ้นสุดระยะให้ความช่วยเหลือ จาก 31 กรกฎาคม 2562 ออกไปอีก 2 เดือน คือ สิงหาคม – กันยายน 2562) และขอขยายกรอบวงเงินสำหรับมาตรการนี้อีก 60 ล้านบาท โดยให้ ปตท.รับภาระตรึงราคาปัจจุบันเอาไว้ก่อน เพื่อให้กระทรวงพลังงานเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง ตามนโยบายรัฐบาล
“ส่วนลดความช่วยเหลือค่าแก๊สของกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่มีการนำเสนอข่าวออกมาว่าจะช่วยเหลือ 38 บาทต่อถังขนาด 15 กก.นั้น ยังเป็นตัวเลขที่คลาดเคลื่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่คณะทำงาน ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงการคลัง กรมการค้าภายในร่วมหารือในความเหมาะสม ซึ่งจะเร่งพิจารณาเพื่อสรุปนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนำหารือกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมอนุมัตินำมาใช้ในทางปฏิบัติให้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.2562” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย