กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจเอสเอ็มอีไตรมาส 2/59 ภาพรวมปรับตัวลดลง จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจในประเทศและกำลังซื้อชะลอตัวต่อเนื่อง ยกเว้นความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคใต้ที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากภาวะราคาสินค้าเกษตรที่ดีขึ้นและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้านักวิเคราะห์ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบีไตรมาส 2/2559 จากความเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 1,262 กิจการทั่วประเทศ พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับลดลงอยู่ที่ 39.4 จาก 42.1 ในไตรมาสก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการทั่วประเทศกังวลภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศที่ยังคงชะลอตัว และผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งที่ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งยังส่งผลกระทบกับรายได้เกษตรกรซึ่งเป็นกำลังซื้อสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ หากพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเป็นรายภูมิภาค พบว่าภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ปรับตัวลดลง เนื่องจากภัยแล้งกระทบผลผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่ ทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ลดลง ด้านพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก ดัชนีความเชื่อมั่นมีทิศทางลดลงจากไตรมาสแรกเล็กน้อยถึงทรงตัว เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอลง สำหรับภาคใต้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นไตรมาสที่ 5 สวนทางกับภูมิภาคอื่น เนื่องจากราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน และกุ้งขาว ซึ่งเป็นรายได้หลักของพื้นที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวยังเติบโตได้ดี แม้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นแล้ว
ด้านดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 53.5 ลดลงจากระดับ 54.7 เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกังวลรายได้และการควบคุมต้นทุนของธุรกิจ เนื่องจากไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจในประเทศขาดปัจจัยบวกที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
สำหรับปัจจัยที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกภูมิภาคกังวลมากเป็นอันดับที่ 1 คือ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการแข่งขัน อันดับ 2 จะแตกต่างกันคือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังกังวลกับปัญหาภัยแล้งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก และตามมาด้วยความกังวลด้านสภาพคล่องของธุรกิจตึงตัว เนื่องจากรายได้ภาคเกษตรยังหดตัว เพราะภัยแล้ง การท่องเที่ยวเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นและประมงบางพื้นที่ของภาคกลาง (สมุทรสาคร) ได้รับผลกระทบจาก TIP และ IUU สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาคตะวันออก มีความกังวลรองลงมาด้านสภาพคล่องตึงตัวและปัญหาขาดแคลนแรงงานคุณภาพตามลำดับ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจฯ มองว่าเศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวต่อไปในไตรมาส 3 เนื่องจากกำลังซื้อภาพรวมของประเทศยังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ราคาสินค้าเกษตรแม้จะปรับตัวขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ปริมาณผลผลิตยังไม่กลับคืนสู่ระดับปกติ มีเพียงปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายและลงทุนของภาครัฐ และภาคท่องเที่ยวที่ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในของประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางการเมืองยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะยังมีความเสี่ยงรุมล้อมรอบด้าน ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจภูมิภาคยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ. – สำนักข่าวไทย