เอกชนห่วงนโยบายใหม่สหรัฐฉุดส่งออกปี 60 ลดลง

กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – เอกชนห่วงนโยบายการค้าของ “ทรัมป์” กระทบส่งออกไทยปี 60 โตลดลงเหลือร้อยละ 0-1 แนะไทยปรับนโยบายเศรษฐกิจการค้า ให้สอดคล้องกับสหรัฐ


นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และหัวหน้านักวิเคราะห์ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวในงานสัมมนาทิศทางตลาดทุนและเศรษฐกิจไทย  ว่าหลังจากนายโดนัล ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 คาดว่าผลกระทบที่เกิดกับไทยจะมีต่อนโยบายการค้าระหว่างประเทศมากที่สุด เนื่องจากนโยบายของนาย ทรัมป์ จะเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยจะไม่สนับสนุนการเจรจาการค้าเสรีกับประเทศใดๆ จะมีผลต่อทำให้การค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯสะดุดลง และจะยกเลิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิก หรือ ทีพีพี รวมทั้งมาตรการกีดกันทางการค้ากับจีน จะส่งผลกระทบทางอ้อมมาถึงการส่งออกของไทย เนื่องจากสหรัฐฯเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย รวมทั้งหลายอุตสาหกรรม เช่น ปิโตรเคมี เสื้อผ้า ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ ที่จีนนำเข้าจากไทยไปผลิตต่อ ดังนั้นการส่งออกของไทยในปีหน้ามีโอกาสขยายตัวน้อยลง จากโตร้อยละ 2 เหลือโตร้อยละ 0-1 ส่วนอัตรการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า จะต้องมีการทบทวนอีกครั้ง จากที่คาดไว้ร้อยละ 3.5

ส่วนผลกระทบด้านตลาดทุน เชื่อว่าจะเป็นเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น สะท้อนจากการที่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ปรับลงแรงเมื่อวานนี้ ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด คงจะชะลอออกไปก่อนจากเดิมที่ตลาดคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ คงจะเลื่อนเป็น ปี 2560 หลังจากที่นายทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งและแถลงต่อสภาคองเกรส ในวันที่ 20 มกราคม 2560


 

นายสภาธุรกิจนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า นโยบายของนายทรัมป์จะมีผลกระทบอย่างชัดเจนในปี 2561 เนื่องจากเป็นปีที่นายทรัมป์ ที่จะเข้ามาบริหารราชการอย่างเต็มตัว โดยคาดว่าคงจะต้องเลือกนโยบายด้านเศรษฐกิจ  เช่น การลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 35 เหลือร้อยละ 20 จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯให้ฟื้นตัว แต่จะมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นหนี้สาธารณะสูงขึ้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐจะต้องขยับอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2561 จากที่ปรับขึ้น 1 ครั้งในปี 2559 และ2 ครั้งในปี 2560 จะมีผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง แต่จะไม่อ่อนค่ารุนแรง เพราะไทยเกินดุลเดินสะพัดร้อยละ 10  ดังนั้นบรรเทาผลกระทบที่มีต่อภาคการส่งออก จากกรณีนายทรัมป์ไม่สนับสนุนการค้าเสรี และมีมาตรการกีดกันการค้าของจีน ที่จะมีผลทางอ้อมของไทย

ส่วนผลกระทบต่อตลาดทุนมีค่อนข้างน้อย โดยเชื่อว่าจะมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากตลาดหุ้นยุโรปยังอ่อนแอ เพราะจะมีการเลือกตั้งใน 4-5 ประเทศและตลาดอเมริกาต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งที่จะฟื้นตัว


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจนายทรัมป์ หากทำได้จริง จะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯดีขึ้นในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากนายทรัมป์ ไม่ใช่นักการเมือง จะมีความเข้าใจนักธุรกิจและความต้องการของภาคเอกชน แตกต่างจากนโยบายของนายบารัค โอบาม่า ที่หลายนโยบายไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจของภาคเอกชน ดังนั้นหากเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวเร็วก็จะเป็นผลบวกกับเศรษฐกิจไทยด้วยเช่นกัน

ด้านนางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและตลาดทุนน้อยมาก เพราะเชื่อว่านโยบายด้านเศรษฐกิจของ นายทรัมป์ ที่จะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เน้นการลงทุนสร้างคนอเมริกันให้มีงานทำ หากทำสำเร็จก็จะให้โลกไปสู่การเติบโตในรอบใหม่ และจะทำให้สภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯดีขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องมายังไทยด้วย ซึ่งไทยก็จะต้องมีการปรับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการค้าให้สอดคล้องกับนโยบายของนายทรัมป์ เพื่อให้ได้รับประโยชน์

นอกจากนี้ เชื่อว่านโยบายของนายทรัมป์ ที่ไม่เน้นการจัดสรรงงประมาณด้านอาวุธ จะเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ จะช่วยทำให้ความขัดแย้งระหว่างประเทศปละความรุนแรงต่างๆจะลดน้อยลง สะท้อนได้จากประธานาธิบดีรัสเซีย แสดงความยินดีหลังจากผลการเลือกตั้งออกมา .- สำนักข่าวไทย

 

 

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน